เกาะปู - เกาะจำ จังหวัดกระบี่
ในวันที่แสงแดดทอแสงสดใส หากได้ฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทราย ก็คงจะรู้สึกผ่อนคลายเลยไม่น้อย คิดแล้วฟินสุดๆ ใช่แล้ววันนี้เลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ชาว Cosme*net มาทำความรู้จัก "เกาะปู - เกาะจำ" กันนะคะ
เริ่มต้นการเดินทาง
เราใช้บริการของ Asia's Boutique Airline จากสนามบินสุวรรณภูมิฯ บิน 1 ชั่วโมง ไปลงสนามบินกระบี่
ข้ามไปเกาะปู - เกาะจำ
ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร จากสนามบินกระบี่ไปที่ท่าเรือแหลมกรวด (โดยมีรถจากที่พักมารับค่ะ)
เรือโดยสาร เป็นเรือหาปลาของชาวบ้านดัดแปลงเป็นเรือโดยสาร ค่าโดยสารถึงบ้านเกาะจำ 50 บาท เรือมีช่วงเช้า และเว้นมาช่วงบ่ายถึง 6โมงเย็นโดยประมาณ
เกาะปู - เกาะจำ
เกาะเล็กๆ ที่มีความสวยงามเกาะหนึ่งในจังหวัดกระบี่ อยู่ในทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ระหว่างเกาะลันตา และตัวเมืองกระบี่
เกาะปู-เกาะจำ เป็นเกาะที่มีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสูง เงียบ สงบ เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ
ชื่อ เกาะปู-เกาะจำ เชื่อว่าหลายคนอาจไม่คุ้นหูนัก แต่บอกได้เลยว่าหากเป็นที่ชอบธรรมชาติภูเขา ป่าไม้ บวกกับทะเล ด้วยแล้ว จะตกหลุมรักเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอน
เกาะปู - เกาะจำ ตกลงชื่ออะไรแน่?
ประวัติคร่าว ๆ เดิมเกาะปูและเกาะจำเป็นคนละเกาะกัน โดยเกาะปูคือเกาะขนาดใหญ่ อยู่ทางทิศตะวันตก ขณะที่เกาะจำคือ เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ถัดออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะปู (ซึ่งปัจจุบันคือเกาะจำนุ้ย)
ซึ่ง เกาะจำนุ้ย นั้นเคยเป็นที่อยู่ของชาวเลมาก่อน ต่อมาเกิดโรคระบาด ชาวเลจึงได้อพยพออกมาอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ และเรียกบริเวณใหม่ที่ย้ายไปอยู่ว่า "เกาะจำ" อีกทำให้เกาะปูมีชื่อเรียกต่อท้ายว่าเกาะจำพ่วงไปด้วย กลายเป็น "เกาะปู - เกาะจำ" ค่ะ
บนเกาะมี หมู่บ้านทั้งหมด 3 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านเกาะปู หมู่บ้านเกาะจำ และหมู่บ้านติงไหร ที่พักของเราตั้งอยู่ใน หมู่บ้านติงไหร "ติงไหร" เป็นภาษาท้องถิ่น มีความหมายว่า "ลืม" มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า "มีคนตัดไม้ ได้มาหลงทางอยู่บริเวณนี้ เค้าได้พยายามหาทางออกอยู่หลายวัน ยังไงก็หาทางออกไม่เจอ จึงตัดสินใจเอาไม้มาสร้างบ้าน แล้วตั้งรกรากอยู่ที่นี้ และตั้งชื่อว่า ติงไหร"
เกาะจำรีสอรท์ ที่พักประกอบด้วยเรือนไม้วิลล่า และกระท่อมไม้ไผ่ ห้องพักมีลักษณะเป็นบ้านที่ยื่นจากเนินเขา โชคดีเราได้บ้านที่อยู่หน้าหาดค่ะ ภายในห้องกว้างมากสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 4 คนค่ะ แถมยังมีระเบียงสามารถนอนชิวรับลมทะเลได้เลย
อีกเรื่องที่อยากนำเสนอนั่นคือ "อาหาร" แม่ครัว ฝีมือดีจริงๆ อาหารอร่อย ทุกอย่างเลยยย เชื่อว่าหากใครได้ลิ้มลองต้องถูกปากใครหลายคน
ภายในบริเวณเกาะจำรีสอร์ทดูร่มรื่น มีต้นไม้ใหญน้อย อากาศสดชื่น ชายหาดส่วนตัวที่ทอดตัวยาว กับเม็ดทรายละเอียดขาวตลอดแนวชายหาด และยังสามารถมองเห็นเกาะพีพี ได้จากหน้าชายหาดรีสอร์ท
กินอีกแล้ววว หิวโซ มื้อเย็นเลยจัดเต็มซะ
อิ่มแล้วก็ขอมานั่งชิลฟังเสียง คลื่นที่ระเบียงห้องนะ
เช้าวันที่ 2 เริ่มต้นวันใหม่ ก็ต้องกิน อิอิ
เดินสูดอากาศยามเช้าค่ะ
ในวันที่แสงแดดทอแสงสดใส ได้ฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทราย รู้สึกค่อนคลายเลยไม่น้อยเลย ฟินสุดๆ
ตามปกติวันนี้จะต้องออกไปทริป ดำน้ำสน็อกเกอร์ริ่ง ที่หมู่เกาะพีพี และเกาะไผ่ ซึ่งช่วงที่ไปนั้นเป็นหน้ามรสุม (เดือน ก.ค.) ถึงจะแดดออกก็จริงแต่ คลื่นลมแรง ไม่สามารถออกไปประกอบกิจกรรมดำน้ำได้ ไม่เป็นไรเพราะว่ารู้อยู่แล้ว ไปเล่นน้ำในสระแทนก็ได้ อิอิ
ข้อดีของการมาเที่ยวช่วง Low คือ คนน้อย และเงียบมาก....ถึงมากที่สุด จนรู้สึกเหมือนว่าเป็นรีสอร์ทส่วนตัวเลย ค่ะ (แต่แอบได้ยินมาว่าต่อไป พี่เขาจะปิดช่วง หน้ามรสุมแล้ว)
เล่นน้ำมาทั้งวันหมดแรง คืนนี้เลยขอให้พี่เขาเสริฟอาหารในห้องเลย เพราะพี่ม้าของเรา"หมดฤทธิ์" จากอาการเครื่องดื่มเป็นพิษ (เมา -*-)
เช้าวันที่ 3 ในที่สุดพี่ม้าของเราก็พื้นคืนสติ... วันนี้ เรามีแผนที่จะเที่ยวในตัวจังหวัดกระบี่กันเลย เช็คเอาท์กันออกมาแต่เช้า
เรามารอข้ามกลับที่ท่าเรือมูตู... ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ต้องจำจากกันแล้วซินะ เกาะปู-เกาะจำ จ้า (อารมณ์พร่ำเพ้อไม่อยากกลับ... TT)
หลังจากข้ามกลับมา ที่แรกที่เราไปแวะเยี่ยมชมคือ น้ำตกร้อน (ผู้ใหญ่คนไทยเสียค่าเข้า คนละ 20 บาท)
เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของ จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ใน ตำบลห้วยน้ำขาว อำเภอคลองกระท่อม ที่นี้มีบ่อน้ำพุเล็กใหญ่ถึง 14 บ่อ แต่ละบ่อมีอุณหภูมิไม่เท่ากัน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมมาแช่ (แนะนำว่าให้มากันแต่เช้าๆ เพื่อที่จะได้จับจอง พื้นที่ดีๆ)
สถานที่ถัดไป ถือว่าเป็นไฮไลท์ อันนึงของจังหวัดกระบี่ คือสระมรกต หลังจากชำระค่าเข้า คนละ 20 บาทแล้ว เราต้องเดินเข้าไป ในเส้นทางที่ ทางอุทยานทำไว้
เราเลือกใช้เส้นทางเข้าแบบไกล (1,400 เมตร) เพราะช่วงแรกๆ ยังมีเรี่ยวแรง และจะได้เดินชื่นชม ธรรมชาติไปด้วย (นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกทาง 800 เมตร)
ในช่วงแรก จะเป็นป่าต้นไม้ใหญ่ ค่อนข้างชุ่มชื้น เดินมาได้ซักครึ่งทาง จะออกมาเป็นที่โล่ง มีคล้ายๆกับ อาคารชมวิว (ตัวอาคารโทรมมาก สนิทเขลอะเลย ทำใจตั้งนานกว่าจะกล้าขึ้นไป)
ในที่สุดก็มาถึง
สระมรกต : เป็นสระน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า มีอุณหภูมิประมาณ30-50 องศาเซลเซียส สระมรกตกำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระ ได้แก่ สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด
ซึ่งสระที่นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นได้มีเพียงสระเดียวคือ สระมรกต เท่านั้น (ไม่ได้เตรียมจะมาเล่นน้ำ ขอเก็บภาพบรรยากาศแทนนะ ^^)
เมื่อเข้าไปจะพบกับพระโพธิสัตว์กวนอิม วนอุทยานวัดถ้ำเสือวิปัสสนา เขาแก้ว และ ไฮไลน์ของที่นี่คือ พระธาตุเจดีย์ยอดเขาแก้ว ตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร สามารถขึ้นไปสักการะได้โดยขึ้นบันได 1,200 ขั้น บนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้รอบทิศ (ว่ากันว่าใช้เวลาเดิน เฉพาะขึ้น-ลง กันประมาณ 2 ชั่วโมง)
บูชาพระเพื่อเป็นศิริมงคล ก่อนกลับ กทม. ค่ะ
4 โมง เราก็มารอขึ้นเครื่องด้วยสายการบินเดิม ขอลาเพื่อนๆ ด้วยภาพสุดท้ายปิดทริป พบกันใหม่ในทริปหน้าค่ะ บ้าย บาย♥