มาสก์ ประคบ ตบ จบในขวดเดียว
Dr.Ci:Labo VC100 Essence Lotion
หลายๆ คนเวลาเลือกซื้อเครื่องสำอาง คงให้ความสำคัญกับส่วนประกอบกันบ้างไม่มากก็น้อย
ส่วนประกอบตัวหนึ่งที่เราค่อนข้างไว้ใจและชอบมากถ้ามาอยู่ในสกินแคร์ก็คือ “
วิตามินซี” ค่ะ เหตุผลเพราะอร่อย ไม่ใช่สิ ^^;; เพราะจากการวิจัยต่างๆ และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เป็นที่เชื่อถือกันได้ว่า
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส ลบเลือนริ้วรอย ชะลอความแก่ แถมยัง
ช่วยสมานแผลอีกด้วย และยังเป็นที่น่าสังเกตว่า ผลิตภัณฑ์จากวิตามินซีส่วนใหญ่จะมีแพคเกจจิ้งเป็น
สีเหลือง ส้ม ที่ค่อนข้างเตะตา พร้อมกับกลิ่นออกซิตรัส ผลไม้เปรี้ยวๆ ที่เราชอบเป็นทุนเดิม ดังนั้น พอผลิตภัณฑ์ไหน มีวิตามินซี พี่นี้พุ่งไปหยิบอย่างไวเลยค่ะ
อาห์.. ความรู้งูๆปลาๆ อ่านออกแค่คำว่า วิตามินซี เอสเซนส์โลชั่น เอจจิ้งแคร์ …
ตัวดีตัวเดิมนั่นเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ถือว่าเป็นตัวทอปฮิตของสาวญี่ปุ่นมาตลอดเลยค่ะ ยอดขายกว่าล้านขวด ติด ranking @cosme ญี่ปุ่น อย่างน้อยก็ Top 2-3 ในช่วงปีแรกๆที่วางจำหน่าย ตอนนี้เหมือนจะอยู่อันดับ 10 กว่าๆ แต่ก็ได้คะแนนรีวิวยอดเยี่ยมเหมียนเดิมฮะ
เมื่อตัดสินใจว่าจะลองใช้ตัวนี้ดูก็ไปศึกษาเพิ่มเติมค่ะ สำหรับ ขวดนี้เขาเป็น
Essence Lotion แบบน้ำ จุดเด่นคือ
ส่วนผสมของวิตามินซีที่มีเพิ่มขึ้นถึง 200% แต่สรรพคุณอื่นๆก็ยังคงความยอดเยี่ยม อย่างที่รู้กันว่าวิตามินซีช่วยให้ผิวขาวใส ไบรท์เทนนิ่ง ตัวนี้มีวิตามินซีเพิ่มขึ้น ก็น่าจะช่วยให้ขาวกระจ่างใสได้อย่างรวดเร็วขึ้น รวมถึงสรรพคุณด้าน
anti-aging และกระชับรูขุมขน เพิ่มความยืดหยุ่นด้วย คอลลาเจน และไฮยารูลอน เอซิด ฯลฯ มากมายก่ายกองขนาดนี้ ต้องลองแล้วล่ะ
เปิดกล่องมา ชะแว้บ เป็นขวดพลาสติกสีส้มโปร่งแสง ฝาขวดเป็นสีทอง ดูหรูหราใช้ได้เลยทีเดียว
สำหรับเนื้อผลิตภัณฑ์ มันจะเป็นน้ำใสๆ ค่ะ ซึ่งเขย่าออกมาแค่สองหยด ถูๆกับมือ ก็เกลี่ยได้ทั่วใบหน้า ลามมาถึงคอเลยนะคะ มีความเข้มข้นมากๆ แถมมีกลิ่นหอมๆ ของเกรปฟรุต สดชื่นทีเดียวค่ะ พอเกลี่ยทั่วๆใบหน้าเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้สักพักก็แห้ง ไม่เหนอะผิว ไม่มันด้วยค่ะ
ลองเอามือนาบแล้วดึงออกไวๆ แบบโฆษณา water lotion ตัวอื่น โอ้ว มันแบบเด้งได้จริง หนืดจริง บ่งบอกว่าอิ่มน้ำ เด้งดึ๋งดีจังค่ะ
การใช้งานตามที่แจ้งในผลิตภัณฑ์ เขาบอกว่าให้ใช้หลังล้างหน้า หยดลงบนฝ่ามือให้เท่าปริมาณเหรียญ
500 เยน ก็น่าจะประมาณเหรียญบาทเรา แล้วค่อยๆ ลูบไล้ให้ทั่วใบหน้า ใช้เหมือนโลชั่นน้ำตบยี่ห้ออื่นๆนั่นเองค่ะ หรือถ้าใครจะใช้สำลีเช็ดทั่วใบหน้าก็ได้นะคะ สามารถใช้ได้ถึงลำคอ ช่วงอก ไหล่ แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
ซึ่งผลการใช้งานเป็นระยะเวลา 3 วัน ก็น่าพึงพอใจค่ะ เรารู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น เรียบเนียน สิวไม่เห่อ บริเวณแผลสิวก็ค่อนข้างแห้ง ไม่ระคายเคือง ริ้วรอยร่องลึกอาจจะยังไม่ชัดเจนนัก แต่ถ้าดูดีๆ ก็เหมือนจะน้อยลงนิดหน่อยค่ะ
นอกจากจะเป็นน้ำตบแล้ว จริงๆ เจ้าขวดนี้ยังใช้งานได้อีกหลายวิธี เราขอแนะนำวิธีของเราเพื่อให้การใช้งาน
Dr.Ci:Labo VC100 Essence Lotion คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เพราะขวดนี้ราคา
2000 กว่าๆ ดังนั้นต้องใช้ให้คุ้มค่ะ
VC 100 mask
ใช้มาสก์แผ่นกระดาษสำเร็จรูปนี่แหละค่ะ ขยุ้มๆ วางลงไป แล้วเทโลชั่นตัวนี้ เอาอะไรจิ้มๆ ให้โลชั่นกับมาสก์แผ่นซึมเข้าด้วยกันพอหมาด พอทั่วแล้วก็เอามาวางบนหน้าเรา ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หรือพอมาสก์แห้ง แล้วก็เอามือค่อยๆ กดนวดบนใบหน้า ถ้าใครรู้วิธีนวดต่อมน้ำเหลือง ทำต่อไปเลยก็ได้นะคะ
วิธีนี้เป็นวิธียอดฮิตของเราช่วงนี้ค่ะ เนื่องจากการมาสก์ จะช่วยทำให้เนื้อของสารบำรุงเกาะอยู่บนหน้าเราได้นานขึ้น จะได้บำรุงได้อย่างล้ำลึก วันหยุด ที่จะเตรียมผิวในสัปดาห์ถัดไป ก็มาสก์บำรุงซักหน่อย ผิวเราจะได้เด้งสดใสรับสัปดาห์ใหม่นั่นเองค่ะ
ปิ๊งงง สดชื่นนน
VC100 Pack
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเฉพาะจุดค่ะ เช่นใต้ตา ร่องลึกตรงมุมปาก ร่องแก้ม ฯลฯ เราใช้สำลีชนิดบาง ถ้ามีสำลีสำหรับโทนเนอร์โดยเฉพาะก็ดีงามเลยค่ะ เพราะพวกนี้จะเก็บกักเนื้อผลิตภัณฑ์ได้ดีกว่าสำลีอื่นๆ
เท VC100 Essence Lotion ที่แช่เย็นลงไปให้สำลีชุ่ม
แล้วนำเอาสำลีนั้นมาแปะนาบไว้บริเวณที่เรามีปัญหาผิว เช่น ร่องแก้ม มุมปาก ใต้ตา (ระวังอย่าให้เข้าตาก็พอค่ะ )
วิธีนี้จะทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าบริเวณผิวที่มีปัญหาอย่างล้ำลึกและตรงจุด ทิ้งไว้สักประมาณ 20 นาที เอาสำลีออก ตามด้วยครีมบำรุงตัวอื่น หรือ Night Cream ที่มีความเข้มข้น ทาแล้วนอนเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างเต็มที่ รับรองตื่นมาอาการหน้ายับตาดำเป็นแพนด้าน้อยลงกว่าที่เคยแน่นอนค่ะ
หลังจากที่ใช้งาน Dr.Ci Labo VC100 Essence Lotion มาเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
• ผิว : รู้สึกยืดหยุ่น เด้ง และอิ่มขึ้นค่ะ
● ความเรียบเนียน : ใช้มือลูบๆ ก็เนียนขึ้น เม็ดๆ บนหน้าน้อยลง
● รอยสิว : ยังคงมีอยู่บ้าง หากว่ามีสิวขึ้นระหว่างใช้ ไม่ได้ทำให้สิวยุบ แต่ไม่ระคายเคืองสิวค่ะ
● รูขุมขน : ดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
● ร่องลึก : หากได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีร่องรอยลึกต่างๆ ก็จะเห็นไม่ค่อยชัดค่ะ ซึ่งต่างกับตอนใช้ตัวอื่นๆ ที่ยังไงก็เห็นร่องลึกนี้อยู่ดี
ความคิดเห็นอื่นๆ
- ชอบที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว
- กลิ่นหอมเปรี้ยวอมหวานผ่อนคลาย ไม่แสบไม่กัดผิว ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น
- หากใช้ระยะยาวน่าจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นและกระจ่างใสขึ้น
หากต้องการให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้ควบคู่กับ โฟม Labo Labo Super Keana แบรนด์น้องของ Dr.Ci Labo ที่เน้นผู้มีปัญหาสิวอุดตันและรูขุมขน ฟองโฟมเขานุ่มมากจริง พอกไว้ตรงปลายจมูกหรือคางที่มีสิวหัวดำ สิวอุดตัน ล้างออกด้วยน้ำสะอาด หน้ายังคงนุ่มเด้ง ไม่แห้งผาก ดีงามจริงๆค่ะ
หลังจากใช้
Dr.Ci Labo VC100 Essence Lotion เราตามด้วย
Dr.Ci Labo Aqua-Collagen Gel Enrich Lift EX กล่องสีทอง เหมาะสำหรับสาวที่กังวลเรื่องริ้วรอย มีคำว่า
enrich ,lift อะไรพวกนี้ เชื่อได้เลยว่าเนื้อแน่น บำรุงล้ำลึกสุดยอด (และเหมาะกับคนที่เริ่มมีอายุแต่ไม่อยากแก่ T_T ) ส่วนตัวชอบมากเพราะนอกจากจะมีช้อนตักให้เรากะปริมาณได้สะดวกแล้ว เนื้อครีมของเขาออกเจลๆ แต่แน่นมาก ไม่มีกลิ่นรุนแรง ค่อนข้างเนียน ใช้นิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วใบหน้าแล้วค่ะ ทาตัวนี้แล้วอาจจะเหนอะๆนิดหน่อย
แค่ปาดเดียวได้คุณค่าบำรุงถึง 8 อย่าง!!! ( เป็นทั้ง Lotion, Emulsion, Moisturizer, Eye cream, Cream, Massage cream,Face pack และ Base makeup ) ตื่นมานี่หน้าใสไม่พอ ทาก่อนแต่งหน้านี่หน้าเนียนโอเคเลยค่ะ .
หลังจากใช้งานมา 1 สัปดาห์ เน้นเรื่องรูขุมขน
สภาพผิวหน้าทั่วๆไปก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ
อันนี้คือสภาพผิวหน้าก่อนใช้ผลิตภัณจากทาง Dr.Ci:Labo
หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ Dr.Ci:Labo ทั้งเซต ค่ะ
เรื่องรูขุมขน ตรงนี้ดูชัดเจนมากที่สุดสำหรับเรา เปรียบเทียบได้เลยค่ะ
ขวดเดียวใช้งานได้ครบ แถมเพื่อนอีก 2 ตัวก็ช่วยส่งเสริมพลังได้เป็นอย่างดี
เป็นอีกชุดผลิตภัณฑ์ที่สาว 30 อัพไม่ควรพลาดนะคะ :)
ผลิตภัณฑ์ Dr.Ci:Labo จำหน่ายที่ Watsons, Isetan, Tsuruha และ Matsumoto Kiyoshi ข้อมูลเพิ่มเติม : www.facebook.com/drcilabo.thailand
sponsored review