สวัสดีค่า สาวๆ เพราะความสวยรอไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวนี้แค่ทาครีม ทาเซรั่มบำรุงผิวหน้าไม่พอแล้ว ต้องบำรุงให้ครบทุกสเต็ป น้ำตบเป็นอีกสิ่งที่สาวๆ ทุกคนควรมีติดบ้านไว้
ซึ่งวันนี้ดาด้าหยิบ APARA แบรนด์น้ำตบที่ทุกคนควรมี ไว้มาฝากกัน ตบแล้วสวยเด้ง แบบรู้สึกได้เลย คอนเฟิร์ม!แชร์ประสบการณ์แบบหมดเปลือกหลังจากได้ทดลองใช้ 1 สัปดาห์ ปลื้ม หรือ ไม่ปลื้ม อะไรยังไง
ไปอ่านพร้อมๆ กัน ปัจจุบันการเลือกซื้อสินค้าแต่ละอย่างต้องดูที่ความคุ้มค่า และแน่นอนว่า
APARA อะพาร่า เดอะ เฟิสต์ แคร์ พารา แอคทิเวททิง เอสเซนซ์ ผ่านเกณฑ์เรื่องความคุ้มค่า
อย่างสบาย ไม่เพียงแค่ราคาที่ไม่แพง แต่คุณภาพกลับยอดเยี่ยมมากกว่าสินค้าแบรนด์อื่นในแบบเดียวกัน ทำให้ได้คะแนนของผู้ซื้อไปไม่น้อย
Brand นี้เป็น Brand ของคนไทยเลยนะจ๊ะ รู้ป่าว!!
ถึงจะเป็น Brand น้องใหม่ของคนไทย แต่ของเขาดีจริงนะคะ รับรอง!! แถม Brand APARA น้ำตบอย่างพารา นี้ยังมีกิมมิค (Gimmick) น่ารัก ๆ ของ Packaging Box แถมมีส่งการ์ดมาให้ลูกค้าอีกด้วยค่า ระบุชื่อชัดเจน ชอบมากค่าา ใส่ใจพิถีพิถัน แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของลูกค้า น่ารักมากค่าาา อันนี้ขอชื่นชม ว่ามีความเลอค่าา ดีงามม :)เอาล่ะ! มาดูกันค่ะ ว่าจะดีงามขนาดไหนเริ่มต้นด้วยผิวสวยของคุณ เริ่มต้นที่..ขั้นตอนแรกของการบำรุง APARA ในกล่องที่ทางแบรนด์ส่งมา
ก็จะมีแนบเอกสาร รายละเอียดเกี่ยวกับกับหลักปรัชญาของอะพาร่า บอกจุดกำเนิดของแบรนด์
ผู้เชี่ยวชาญของทางแบรนด์ ว่าแบรด์มีที่มาที่ไปอย่างไง ถือว่ามีเรื่องราวสตอรีที่ชัดเจนดีคะ
รวมถึงบอกคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ และก็วิธีการใช้อย่างชัดเจนค่าา!!
ถือว่าเป็นการสร้างจุดเริ่มต้นความประทับใจในการใส่ใจรายละเอียด ดีเทลของผลิตภัณฑ์และ
ใส่ใจกิมมิคเล็กๆ น้อย ให้กับลูกค้าได้อย่างดีเลยค่าา
ต่อไปเดียวเราไปดูกันนะคะ ว่าจุดเริ่มต้นของแบรนด์ APARA
จะให้ผลลัพท์ที่ดีกับการปรนนิบัติผิวของดาด้าไหม?
ไปค่าาา ไปดูกัน ไป ไป ไป ไป haha :)
มาดูหน้าตา PAKAGING กันก่อนเลยนะคะ
มาในกล่องกระดาษสีขาวเงาเหลือบมุก ดูดี เรียบง่ายแต่หรูหราบรรจุภัณฑ์ ใส่มาในขวดพลาสติก สีขาวขุ่นอย่างดีขนาด 120 ml.
ฝาเกลียว เปิดง่าย ปิดง่าย เกลียวแน่น ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะ ลักษณะขวดเป็นแบบหยด ตกไม่แตกเพราะขวดทำจากพลาสติกออกแบบลวดลายมาแบบสวยงาม จัดว่าสวยในเรื่องดีไซนกันเลยทีเดียว ^^
ส่วนลวดลายที่ขวดของ BRAND APARA เองก็มีความหมาย มีความเป็นมานะคะเป็นลายขีดๆ
ที่ทำเลียนแบบตอนกรีดยางค่ะ ดูมี Gimmick เก๋ไก๋สวยงาม ชนะเลิศค่าาบอกเลย!! :)
มาดูส่วนผสมกันบ้างนะคะส่วนประกอบ (ingredients) ตัวสำคัญของ Brand APARA เลยก็
คือ Hevea brasiliensis extract สารสกัดจากยางพารานั่นเอง สารสกัดจากน้ำยางพารา ประกอบด้วยสารที่มีประโยชน์ในทางเครื่องสำอางหลายชนิด
ส่วนที่น่าสนใจก็คือ สารกลุ่ม Antioxidants ที่ช่วยชะลอวัย สารกลุ่ม Proteaseinhibitor ซึ่งทำงานในการขัดขวางการส่งผ่านเมลานนินที่สร้างเสร็จแล้วไม่ให้ออกมาเห็นเป็นสีผิว
ส่วนการทำงานของน้ำตาลหลายๆ ชนิดช่วยดูดน้ำให้ผิวเพิ่มความชุ่มชื้น มีส่วผสมจากกรดอินทรีย์จำพวก AHA และ BHA วิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิดนอกจากนี้ยังประกอบด้วย- Witchhazel มีคุณสมบัติควบคุมความมันกระชับรูขุมขน
- Chamomilla recutita extract มีคุณสมบัติลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ และ
ให้ความรู้สึกสบายผิว- Artichoke สารสกัดประกอบด้วยเปปไทด์ที่มีคุณสมบัติควบคุมปริมาณของ EGFreceptor บนเซลล์ผิวให้มีจำนวนปกติ มีผลเพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง ทำให้ชั้นผิวหนาตัวขึ้น ช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิว และ ยับยั้งการทำงานของ MMP-1 ที่เป็นเอนไซม์ย่อยสลายคอลลาเจนในผิว
- SodiumPCA เป็น Natural moisturizing factor ตามธรรมชาติในผิวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- สารสกัดจากบัวบก หรือ Centella asiatica extract มีคุณสมบัติเด่นด้านการชะลอวัยและริ้วรอย
- Niacinamide หรือ วิตามินบี 3 มีคุณสมบัติหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น Whitening ลดการอักเสบในผิว เพิ่มการสังเคราะห์ไขมันที่เป็น Barrier function ของผิว เพิ่มการสังเคราะห์ไขมันที่เป็น Barrier function ของผิว
- ว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติด้านความชุ่มชื้น
คนท้องก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของ APARA ได้ค่าา
เพราะดาด้าเองก็ท้องอยู่ และตัวผลิตภัณฑ์ของ APARA (อะพารา) ปราศจากสารใน กลุ่ม Retinoidsซึ่งสารในกลุ่มเรตินอยก์ อาจเป็นอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์ถึงขั้นพิการได้สารในกลุ่มเรตินอยด์ ได้แก่ Retinol (วิตามินเอ) / Retinoic acid (กรดวิตามินเอ) Retinaldehyde / Retinyl esters (เช่น retinyl propionate และ retinyl palmitate) รวมไปถึงกลุ่มอนุพันธุ์กึ่งสังเคราะห์ เช่น Adapalene ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดที่มีส่วนผสมของ retinoids ที่ต้องหลีกเลี่ยง เช่น Retin-A®, Stieva- A®, Renova® , Adapalene (Differin®)
มั่นในได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ของ APARA ปลอดภัยต่อเบบี๋แน่นอนค่าา
มาต่อกันที่ เนื้อสัมผัสและกลิ่นเนื้อสัมผัสและกลิ่น เนื้อผลิตภัณฑ์มีความบางเบา เบาบางมากกก มีความเหลวไม่หนืด
สีขาวขุ่น ดุจสีของน้ำยางพารา เมื่อผลิตภัณฑ์น้ำตบ APARA เซ็ทตัวบนผิวแล้วจะมีความหนึบ
แต่ไม่มาก ไม่เหนียวหน้า ไม่รู้สึกหนักหน้า ไม่รู้สึกรำคาญ
รู้สึกว่าเนื้อเซรั่มน้ำตบอะพาร่าซึมหายไปกับผิวเลย
ส่วนเรื่องกลิ่นของผลิตภัณฑ์ มีกลิ่นอ่อนๆ ของดอกกุหลาบ ปนกับกลิ่นของยางพาราหน่อยๆ แต่ไม่เหม็น ไม่แรงจนเกินไป เพราะผลิตภัณฑ์ของ APARA ไม่ผสมน้ำหอมเลย เพราะฉนั้นสาวๆ หายกังวลไม่แพ้แน่นอน
เอาหล่ะ!! มาต่อกันที่วิธีใช้ และ ผลลัพธ์กันดีกว่าว่าจะดีงามขนาดไหนวิธีใช้น้ำตบ APARA (อะพะร่า)
หลังล้างทำความสะอาด เคลียผิวหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้หยด
น้ำตบ APARA เอสเซนซ์ ลงบนฝ่ามือ ประมาณ 5 หยด และตบเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า เพื่อให้ Essence ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
โดยใช้น้ำตบ APARA Essence เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวหน้า ทำแบบนี้เป็นประจำเช้า – เย็น หลังจากนั้น สามารถเอาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ เช่น กันแดด ตามได้จร้า ยิ่งตบ หน้ายิ่งเป๊ะ! :)
Dada Lish Result
ผลทดลองใช้ 7 วัน ดาด้าต้องบอกก่อนว่า ดาด้าเป็นคนผิวหน้ามัน แพ้ง่าย โดนแค่ฝุ่นก็คันแล้ว แต่บอกเลยว่า APARA มีคุณสมบัติช่วยในการฟื้นฟูบำรุงผิวหน้า อีกทั้งยังอ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารกันเสียในกลุ่มพาราเบน
ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างดาด้า ที่สำคัญดาด้าใช้แล้วไม่แพ้ แถมควบคุมความมัน พอผิวหน้าเริ่มไม่มัน สิวก็ขึ้นน้อยลง รูขุมขนก็รู้สึกกกระชับขึ้น พอผิวหน้าดี อะไรดีๆ ก็ตามมา เวลาแต่งหน้าก็ง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น ไม่มีปัญหาผิวมันเยิ้มระหว่างวันข้อดีของผลิตภัณฑ์น้ำตบ APARA
ที่ดาด้าใช้แล้วชอบ รู้สึกประทับใจ1.ผลิตภัณฑ์มีความอ่อนโยนต่อผิว ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารกันเสียในกลุ่มพาราเบน ซึ่งตรงนี้ดาด้ารู้สึกประทับใจมากๆ เหมาะมากๆ กับคุณแม่ตั้งครรภ์และผิวแพ้ง่าย
2.ควบคุมความมัน หลังจากที่ใช้ไปก็รู้สึกได้ว่าความมันบนใบหน้าลดลง แต่ไม่ได้ถึงกับหน้าไม่มันเลย แต่มันน้อยลงอย่างสังเกตได้
3.รูขุมขนรู้สึกกระชับขึ้น สิวและรอยแดง รอยแผลเป็นจากการแพ้ของหน้าดูจางลง ปลื้มมาก!
ส่วนข้อเสียของผลิตภัณฑ์น้ำตบ APARAน้ำตบ APARA อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวแห้งมาก ๆ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่าผลิต
ภัณฑ์ของ APARA เหมาะกับคนผิวหน้ามัน แพ้ง่ายมากกว่า
แต่ถ้าสาวๆ ผิวแห้งอยากทดลองใช้ ดาด้าแนะนำว่าให้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือเซรั่มบำรุงผิวหน้าสำหรับสาวผิวแห้งโดยเฉพาะ อาจจะเป็นพวกมอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื่นก็ได้ค่าา รับรองเป๊ะเวอร์:)
สรุปเลยก็คือ ดาด้าอยากแนะนำให้ลองใช้กันดูนะคะ
โดยเฉพาะสาวๆ ผิวแพ้ง่าย สาวผิวมัน หรือคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างดาด้า
เป็นคุณแม่แล้วก็อย่าลืมใส่ใจบำรุงผิวหน้ากันนะค่าา เดี๋ยวสามีจะแอบหนีไปมีกิ๊กนอกบ้าน ^^
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่FB : apara.thailand
ส่วนราคาที่ดาด้าซื้อมาจะอยู่ที่ 1,470 บาท ขนาด120 ml.ดีงามไม่แพงเลยยย!! ถ้าเทียบกับคุณภาพส่วนผสมที่ทางแบรนด์ให้มาที่สำคัญใช้ได้นาน เกือบๆ 4 เดือนคะ ซื้อมาใช้ซะ รับรองตบทีเดียวอยู่ ^^ขอบคุณสำหรับการรับชมมากๆเลยนะค้า บ๊าย บายยยยย ><