Matte 2 Go Lip Color ลิปพร้อม Go ทุกสถานการณ์

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้นิคกี้มาตามสัญญา กับรีวิวลิปออกใหม่จากมิสทีน 555 ออกรัวๆ ปังรัวๆ คราวนี้มาแบบลิปสองด้าน แล้วมันจะต่างกันยังไง ตามมาดูค่ะ

ลิปสติกเนื้อแมทท์ ที่มาในรูปแบบแท่งและแบบจุ่ม ด้านแท่งมาในแบบ Extra Matte ให้ความรู้สึกชุ่มชื่น เนื้อสัมผัสที่Matte สนิท และด้านจุ่มบางเบา Soft Matte ให้เรียวปากนุ่มและMatte ไม่ตกร่อง เมื่อใช้ร่วมกันทั้ง2ด้านจะให้สีคมชัดกว่าเดิม และยิ่งติดทนนานมากขึ้น เพิ่มความสวย โดดเด่นให้กับริมฝีปาก

นี่ค่ะ ด้านที่เป็นแบบแท่งหมุนๆ ด้านนี้เค้าบอกว่าเป็นเนื้อเอ๊กตร้าแมทท์ คือเป็นแมทท์ที่เม็ดสีแน่น แต่ทาแล้วปากไม่แห้ง ไม่ตกร่อง อารมณ์แบบลิปเนื้อครีมกำมะหยี่ แต่ติดทนกว่าสีชัดกว่าค่ะ ด้านนี้ทาง่ายดี เพราะมันลื่นละมุน สีไม่ด่าง สีสม่ำเสมอ

อีกด้านนึงเป็นซอฟท์แมทท์ แมทท์แบบเบาๆ แมทท์แบบแมทท์สนิทเลย คือตอนทามันจะเกลี่ยง่ายนะ แต่พอมันเซ็ทตัวแล้วมันจะแห้งขึ้น ด้านนี้สีจะบางเบากว่าด้านที่เป็นแท่ง มีความแมทท์กว่า ใครปากแห้งมากๆทาด้านจิ้มจุ่มนี้ไม่รอดนะ ต้องลงลิปบาล์มก่อน

มาดูสวอชสีกันบ้าง ในรูปนิคทาทั้งด้านที่เป็น Extra Matte โดยใช้ตัวย่อว่า “E” ส่วนด้านที่เป็น Soft Matte นิคใช้ตัวย่อว่า “S” เพื่อเปรียบเทียบให้ดูทั้งสองเนื้อว่าเหมือนหรือต่างกันยังไง และผลก็คือ ด้านที่เป็น Extra Matte “E” ทาแล้วเงากว่า ชุ่มชื้นกว่าและสีสดชัดกว่า ส่วนด้านที่เป็น Soft Matte “S” แห้งกว่า ให้ลุคแมทท์กว่า มีความแป้งกว่า และใครปากแห้งก็จะเป็นขุยกว่า สีด้านนี้จะอ่อนกว่า เนื่องจากพอเค้าเซ็ทตัวแล้วเนื้อเค้าจะเบาขึ้น สีเลยซอฟท์กว่า และจากการทาแล้วทำกิจวัตรประจำวันแล้วสำหรับตัวนิค ผลคือด้านที่เป็น Extra Matte “E” จะติดทนกว่าค่ะ คือสีเค้าเหมือนฝังอยู่ที่ปากอะ เพราะนิคปากแห้ง ด้านที่เป็น “S” เลยเป็นขุย เพราะฉะนั้นบอกได้เลยว่านิคชอบด้านที่เป็น “E” มากกว่า แต่เค้าก็มีทางแก้มาให้นะ คืออย่างที่บอก ทาทับกันทั้งสองด้านจะยิ่งสีสดยิ่งติดทน คือทาด้านที่เป็นจิ้มจุ่มก่อน จากนั้นทาด้านที่เป็นแท่งทับ บอกเลยว่าสีสดชัดสัมผัสดีเวอร์

มาดูแต่ละสีกันดีกว่า ในรูปนิคก็ทาทั้งสองด้านเหมือนกัน คือด้านแบบแท่งทาปากล่าง ด้านจิ้มจุ่มทาปากบนค่ะ อิอิ