จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
ใครหน้ามันเชิญทางนี้ค่ะ เพราะวันนี้มี่จะมารีวิวเปรียบเทียบแป้งฝุ่นไหนดี ? ให้ชมกัน…เนื่องจากแป้งฝุ่นนั้นมีคุณสมบัติหลักในการควบคุมความมัน แต่ไม่เน้นปกปิดผิว แป้งฝุ่นตอนนี้มีมากมายเต็มไปหมด แป้งฝุ่นบางตัวอาจจะเน้นคุมมันอย่างเดียว บางตัวช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสด้วย แล้วเราควรเลือกใช้แป้งฝุ่นอย่างไรดี ยังไงวันนี้มี่จะมารีวิวแป้งฝุ่นที่เคยใช้แล้ว 5 ตัวว่าแต่ละตัวแตกต่างกันอย่างไร ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลและทางเลือกสำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาชมกันนะคะ ^^ พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยยยยย
วันนี้แป้งฝุ่นที่หยิบมารีวิวให้ชมมี 5 ตัวนี้เลยค่ะ
1. Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder
2. De leaf Thanaka DUOx2 Translucent Loose Powder
3. SRICHAN Natural Loose Powder Perfect for Oily Skin
4. Kay Cordyceps Light Setting Translucent Powder
5. RAN Smooth Skin Loose Face Powder
มาเริ่มกันที่ตัวแรกกันก่อนเลยค่ะ…
1. Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder
แป้งฝุ่นยอดฮิต ติดอันดับที่โด่งดังมาเป็นเวลานาน กล้าเอ่ยปากว่าไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะนางเป็นแป้งฝุ่นตัวแรกๆที่ถูกนำมารีวิวเยอะมากกกกก ตัวนี้กระปุกเป็นพลาสติกสีขุ่น ฝาสีม่วงเงา แล้วสลักชื่อแบรนด์อยู่ตรงกลางรอบฝา ให้ความรู้สึกหรูหรา แบบเรียบๆ…ปริมาณ 29 กรัม ราคา 1,431 บาท
ตัวนี้เนื้อแป้งละเอียดสีเนื้อ อมเหลือง มีส่วนผสมพิเศษที่ใส่คือ French Cashmere Talc จึงให้สัมผัสที่เนียนนุ่มบางเบาดุจใยไหม เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งคราบ ที่สำคัญคือช่วยกระจายแสง ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใสด้วยเทคนิค “soft-focus” และยังช่วยให้เมคอัพติดทนนานขึ้นด้วย โดดเด่นสุดตรงนี้เลยค่ะ ปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน (Oil Free) จึงช่วยควบคุมความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี
ความรู้สึกขณะใช้ และหลังใช้: รู้สึกว่าเนื้อแป้งดูด้วยตาจะสีเหลืองมาก แต่พอทาขึ้นมาแล้ว ดูเป็นสีผิวเราเลย คือไม่ทำให้สีผิวเปลี่ยน (หรือเราผิวเหลือง ไม่แน่ใจ 55) ส่วนเรื่องความบางเบาขณะทา ตัวนี้โอเคเลยค่ะ ทาแล้วไม่เป็นก้อน ระหว่างวันไม่เป็นคราบ ทาแล้วช่วยให้หน้าสว่างขึ้น ในเรื่องคุมมันเราให้ปานกลางนะ เพราะวันที่ทาร้องพื้น กลางวันหน้าจะมันเยิ้มมาก เรียกได้ว่าทุกครั้งที่ใช้แป้งตัวนี้ ต้องมีกระดาษซับมันติดตัวจ่ะ
2. De leaf Thanaka DUOx2 Translucent Loose Powder
แป้งฝุ่น 2 สีในหนึ่งตลับ คือมีแป้งโทนสีเหลือง และแป้งโทนสีชมพู บรรจุแยกกันอยู่ในกระปุกพลาสติก ฝาสีเนื้อมีลายคล้ายๆกับไม้ แล้วมีโลโก้สีทองเล็กๆบนฝา ส่วนตัวเปิด-ปิดของตลับแป้ง ดีไซน์มาแบบเป็นล็อคหมุน 3 ระดับ คือเลือกเปิดเฉพาะแป้งโทนเหลือง, แป้งโทนชมพู หรือจะเปิดทั้ง 2 โทนสีผสมกันก็ได้ จึงสามารถเลือกใช้ได้แบบสีโทนเดียว หรือสองสีผสมกันก็ได้ค่ะ… ปริมาณ 15 กรัม ราคา 270 บาท
แป้งฝุ่นเดอลีฟ ทานาคา ประกอบด้วย สีโทนเหลือง ที่มีส่วนผสมของเปลือกไม้ทานาคา จึงให้เนื้อแป้งโปร่งแสง เนื้อละเอียด ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า และสีโทนชมพู จากสารสกัดทับทิม และชิมเมอร์ จึงให้เนื้อแป้งเปล่งประกายมีมิติ กับใบหน้า ให้ความรู้สึกบางเบา และช่วยให้หน้าดูสว่างกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ แป้งฝุ่นตัวนี้ไม่ใส่น้ำหอม, ไม่มีพาราเบน และได้ผ่านการทดสอบ Dermatologist Tested จึงมั่นใจว่าผิวบอบบาง แพ้ง่าย ใช้ได้นะจ้า
ความรู้สึกขณะใช้ และหลังใช้: แป้งฝุ่นเดอลีฟ ทานาคาตัวนี้ชอบที่เลือกสีแป้งได้ คือจะทาแค่สีโทนเหลือง จะช่วยให้หน้าดูเนียน คุมมันได้ดี หรือจะเลือกโทนสีชมพู ช่วยให้หน้ากระจ่างใส มีชิมเมอร์น้อยๆก็ได้ เมื่อนำมาใช้ผสมกัน จะได้ลุคที่ให้ความกระจ่างใสกับผิวได้ดีเลย คือใช้แล้วผิวดูขาวขึ้น แต่…เนื้อแป้งจะค่อนข้างหนา เหมือนอณูแป้งมีน้ำหนักค่อนข้างมาก เวลาเทออกจากกระปุกก็จะยากนิดนึงค่ะ ตัวนี้มี่ชอบในเรื่องของการปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้น และโดดเด่นมากในเรื่องควบคุมความมันบนผิวหน้า ระหว่างวันหน้าไม่ค่อยมันขึ้นเลยค่ะ
3. SRICHAN Natural Loose Powder Perfect for Oily Skin
แป้งฝุ่นศรีจันทร์ เป็นอีกแบรนด์ที่โดดเด่นมากในเรื่องของแป้งฝุ่น ถือได้ว่าเป็นโปรดักส์ชูโรงของแบรนด์นี้เลย แต่ตัวที่มี่หยิบมารีวิวไม่ใช่ตลับสีม่วงที่โฆษณาบ่อย แต่เป็นรุ่นใหม่กว่าที่มีลายกุหลาบด้านหน้าสีชมพู ตัวกระปุกเป็นพลาสติก ฝาสีชมพูลายกุหลาบสวยงาม ตัวนี้มาพร้อมกระจกด้านใน (มีกระจกอยู่ด้านหลังฝา) ถือว่าแปลกดี เพราะปกติแป้งฝุ่นไม่มีกระจกนะ แต่ตัวล็อคฝาแป้งไม่เหมือนรุ่นสีม่วง ที่จะสามารถหมุนล็อกได้ ตัวนี้ไม่มีที่ล็อคค่ะ จึงไม่เหมาะที่จะพกไปไหนมาไหนมาก คือไม่งั้นมีหกเลอะกระเป๋าแน่ๆ… ปริมาณ 5 กรัม ราคา 260 บาท
เนื้อแป้งอณูละเอียด สีเนื้อค่อนข้างเข้ม ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า แป้งออกอมชมพูนิดหน่อย และมีชิมเมอร์ด้วย… จริงๆซีรีย์กุหลาบนี้จะมี 3 เฉดสี (โกลเด้น โอ๊ค, สเปเชียล วอลนัท และคันทรี่ พายน์) มี่เลือกสีคันทรี่ พายน์ มารีวิวค่ะ แป้งฝุ่นศรีจันทร์รุ่นนี้ปราศจากพราราเบน และน้ำหอมค่ะ
ความรู้สึกขณะใช้ และหลังใช้: เนื่องจากเนื้อแป้งสีเค้าค่อนข้างเข้ม ทำให้แป้งฝุ่นศรีจันทร์สามารถปกปิดรอยดำต่างๆได้ดีกว่าแป้งตัวอื่นๆ นอกจากนี้เวลาโดนแสงไฟ/แสงแดด จะเห็นประกายชิมเมอร์ด้วย ที่ชอบสุดของตัวนี้ คือเรื่องความเนียน และให้สัมผัสที่ลื่นของผิวหลังทา แป้งเกลี่ยง่าย ไม่เป็นก้อน ผิวจะดูออกขาวอมชมพู แต่ไม่สว่างมากนักค่ะ ในเรื่องของการคุมมัน มี่ว่าปานกลางนะ คือมีมันบ้างในตอนกลางวัน บ่ายๆ ก็ต้องซับหน้ากันไป แอบมีขัดใจกับการพกพา เพราะมีกระจกติดมาที่ตัวผลิตภัณฑ์น่าจะหมายถึงให้เราพกไปไหนมาไหนได้ แต่ตัวกระปุกกลับไม่มีตัวล็อคผงแป้ง ทำให้ผงแป้งหกออกมาเลอะกระเป๋าได้ง่าย ไม่กล้าพกไปไหนอีกค่ะ
4. Kay Cordyceps Light Setting Translucent Powder
แป้งฝุ่น Kay (เคย์) ตลับสีดำ แบรนด์ไทยอีกแบรนด์ที่มีความโดดเด่นทางด้านส่วนผสมที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ จริงๆแป้งฝุ่นของเค้ามี 2 รุ่น คือตลับสีทอง และตลับสีดำ โดยตลับสีทอง จะเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย เป็นสูตรที่ให้ความรู้สึกว่าแป้งเนียนละเอียด ส่วนอีกตัวเป็นตลับสีดำ เนื้อแป้งจะหยาบกว่า แต่ให้การปกปิดที่ดีกว่า ตัวนี้เหมาะกับผิวธรรมดา ซึ่งตัวที่มี่จะหยิบมารีวิวเป็นตลับสีดำค่ะ ตัวกระปุกแป้งเป็นกระปุกพลาสติก ฝาสีดำ ด้านหน้ามีโลโก้ Kay สีขาวอยู่…ปริมาณ 5 กรัม ราคา 450 บาท
แป้งฝุ่น Kay เป็นแป้งโทนสีเนื้อกลางๆ ดูออกไปทางโทนเหลืองมากกว่า ตัวนี้โดดเด่นในเรื่องของส่วนผสมที่ใส่ นั่นคือ เค้าใช้ ถั่งเช่า ข้าว และว่านหางจระเข้ เป็นส่วนผสมหลัก เพราะ ถั่งเช่า เป็นวัตถุดิบที่มีราคาสูง มีสรรพคุณช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด ทำให้เวลาทาแป้งแล้ว ผิวจะมีสุขภาพดีขึ้นด้วย
ความรู้สึกขณะใช้ และหลังใช้: เนื้อแป้งโทนสีเนื้อออกเหลือง ทำให้เวลาทาแล้วหน้าออกสีเนื้ออมเหลืองไปด้วย ในเรื่องของผงแป้งนั้นละเอียด น้ำหนักเบา แต่มีความหยาบ คือเวลาทาไปแล้ว หน้าจะไม่ลื่น ไม่เนียนมาก เป็นก้อน ต้องเกลี่ยดีๆ แต่มีข้อดีที่ปกปิดได้ดี คือถ้าเป็นคนผิวไม่ได้มีปัญหาอะไร สามารถทาแป้งฝุ่น Kay แทนแป้งตลับเนื้อบางได้อยู่ค่ะ ในเรื่องของการคุมมัน ไม่ได้ดีมาก จะรู้สึกถึงความมัน และรำคาญหน้าได้ ระหว่างวันต้องซับหน้าอยู่ค่ะ
5. RAN Smooth Skin Loose Face Powder
มาถึงตัวที่ 5 กันแล้วววว ตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นเพิ่งออกใหม่เลย แป้งฝุ่นรันของน้องฉัตร ช่างแต่งหน้ามือทองของเมืองไทยนั่นเองค่ะ > . < ส่วนประกอบหลักของแป้งฝุ่นรัน ได้แก่ Pearl Powder ผงมุกที่ได้จากไข่มุกธรรมชาติ อุดมไปด้วย Amino Acid ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ดูสุขภาพดี อีกตัวคือ Precious Gem ซึ่งมีคุณสมบัติ Photoluminescence จะช่วยเข้าไปชดเชยความบกพร่องของผิว ปกปิดริ้วรอย ให้ผิวกลับมาดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็น Soft Focus ให้ผิวดูอ่อนวัย สุขภาพดีด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังมี Sodium Ascorbyl Phosphate สารอนุพันธ์วิตามินซีที่เสถียร (Stable Vitamin C Derivative) ช่วยชะลอความหมองคล้ำของผิว พร้อมปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ… ตัวแป้งฝุ่นมาในกระปุกพลาสติก ฝาสีดำ ด้านบนมีโลโก้ของ RAN อยู่…ปริมาณ 5 กรัม ราคา 390 บาท…จะบอกว่าพัฟตัวนี้ต่างจากแป้งฝุ่นทุกตัวที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพราะพัฟแป้งฝุ่นทั่วๆไปส่วนมากจะเป็นฟองน้ำ แต่แป้งฝุ่น RAN ตัวนี้ พัฟเป็นผ้านุ่มๆ ขนปุยนะจ้า
แป้งฝุ่นรันมี 3 เบอร์ (RAN 01 – Ivory, RAN 02 – Natural, RAN 03 – Golden tan) ตัวที่เลือกรีวิวนี้เป็นเบอร์ 02 ค่ะ เนื้อแป้งสีโทนกลางๆ เป็นสีเนื้ออมชมพู (สว่างกว่าศรีจันทร์) เนื้อแป้งผสมชิมเมอร์ เมื่อต้องแสงจะเห็นเป็นประกายระยิบระยับดูสวยงาม ในเรื่องของความละเอียดของอณูแป้ง จะบอกว่า ละเอียด บางเบามาก คือถ้าจะเทออกมาจากกระปุกแป้งก็ทำง่ายมากๆเลยค่ะ
ความรู้สึกขณะใช้ และหลังใช้: เนื้อแป้งโทนสีเนื้ออมชมพู มี่มองว่าชิมเมอร์ตัวนี้กระจายแสงให้หน้าดีมาก เคาเตอร์แบรนด์ต่างๆ นิยมใส่หลายแบรนด์ ให้ความรู้สึกผิวที่ลื่น เกลี่ยง่าย ทำให้ผิวเรียบเนียนมาก เผยผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ชอบความรู้สึกหลังทามาก จับแล้วหน้าลื่นเลย อีกทั้งยังทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย เวลาโดนแสงไฟ หรือแสงแดด จะเห็นว่าผิวเป็นประกาย ระยิบระยับเหมือนมีกลิตเตอร์น้อยๆ ดูสวยดีมาก ส่วนในเรื่องของการควบคุมความมันก็ทำได้ดีค่ะ เพราะระหว่างวันไม่ได้รู้สึกหนักหน้า หรือเป็นคราบเลยนะ
ต่อมา จะขอมาสรุปเปรียบเทียบเป็นหัวข้อๆ เพื่อให้อ่านได้ง่าย และเข้าใจกันมากขึ้นนะคะ
1. ความหนาของแป้งฝุ่น – วัดจากผลของการทาแป้งฝุ่นที่ผิวหน้า ให้ลุคออกมาอย่างไร มีความรู้สึกอย่างไร
จากที่ได้ทดลองใช้แป้งฝุ่นทั้ง 5 ตัว มี่รู้สึกว่า แป้งฝุ่น De Leaf Thanaka ให้ลุคที่ดูหนา และหนักหน้าที่สุดเลย ในความรู้สึกของมี่ คิดว่า ไม่ใช่คุณสมบัติที่ควรจะเป็นของแป้งฝุ่นนะ จากที่เข้าใจคือ แป้งฝุ่นควรมีลักษณะบางเบา คุมมันได้ดี ไม่เน้นปกปิดเท่าไรค่ะ ตัวที่หนารองลงมา คือ แป้งฝุ่น Kay, Laura Mercier และ Srichan ตามลำดับ ส่วนตัวที่ให้ลุคบางเบาสุด สบายหน้ามากสุด คือแป้ง RAN ค่ะ
De Leaf > Kay > Laura Mercier > Srichan > RAN
2. ความละเอียดของอนุภาคแป้งฝุ่น – วัดจากการเทแป้งออกมาจากกระปุก ถ้าเทง่าย แสดงว่าอนุภาคแป้งละเอียด ถือว่าดีที่สุด เพราะจะเกลี่ยได้ง่ายสุด ส่วนแป้งที่หนัก จะเทออกมาได้ยาก และเกลี่ยยากค่ะ
RAN ~ Kay > Srichan > Laura Mercier > De Leaf
3. การควบคุมความมันของแป้งฝุ่น - วัดจากการซับหน้าตอน 15.00 น. โดยผิวหน้า ใช้ครีมบำรุงและกันแดดตัวเดียวกันค่ะ
De Leaf > RAN > Srichan > Kay > Laura Mercier
4. สีแป้งฝุ่น
Laura Mercier แป้งฝุ่นโทนสีเนื้ออมเหลืองอ่อน
De Leaf แป้งฝุ่น 2 สี: โทนสีเหลือง และโทนสีชมพู มีชิมเมอร์
Srichan แป้งฝุ่นโทนสีเนื้อ ค่อนข้างเข้ม สีออกเนื้ออมชมพู
Kay แป้งฝุ่นโทนสีเนื้ออมเหลืองมาก
RAN แป้งฝุ่นโทนสีเนื้ออมชมพู
ตารางสรุป คะแนนของแป้งฝุ่นยี่ห้อต่างๆ
สรุป: เปรียบเทียบแป้งฝุ่น 5 ตัวที่มี่ได้ลองใช้ โดยแยกเป็นหัวข้อต่างๆ ในเรื่องของความหนาของแป้งเวลาที่ทาบนผิว, ความละเอียดของอนุภาคแป้ง, การควบคุมความมัน, ปริมาณ, ราคาและความคุ้มค่า พบว่า แป้งฝุ่น RAN ของน้องฉัตร ได้รางวัลชนะเลิศไปค่ะ แม้ราคาจะไม่ได้ถูกมาก แต่น่าใช้มากค่ะ ^^
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่ได้เข้ามาชม เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อแป้งฝุ่นนะคะ ถ้าใครได้ลองใช้แป้งฝุ่นตัวที่มี่นำมารีวิว อย่าลืมมาแชร์กันด้วยนะ อยากรู้เหมือนกันว่าแป้งฝุ่นไหนดี เราจะตามหากันต่อไปค่า ^O^
++++ ขอบคุณที่เข้ามาชมกันค่ะ ++++
ว้าววววว