จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานผิวมาโดยตลอด สำหรับแบรนด์ COVERMARK ตั้งแต่ที่มิ้วเข้าสู่วังวนของเครื่องสำอางสมัยเป็นวัยรุ่น จนได้มาเข้่าสู่วงการของการเป็น Makeup Artist ในไม่กี่ปีมานี้ ก็ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างของเขามาเสมอ แต่ก็ไม่มีโอกาสหรือจังหวะเหมาะ ๆ ที่จะได้ลองใช้จริง ๆ จัง ๆ สักที จนมาเข้าสู่วัยใกล้เลข 3 ในอีก 2 ปีนี่แหละ ถึงเพิ่งจะได้ลองใช้ แล้วก็รู้สึกว่าไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ ค่ะ อาจเพราะว่ามิ้วมีผิวผสม-มันมากบริเวณ T-Zone ซึ่งไอเทมของ COVERMARK ที่มิ้วจะมารีวิวให้ได้ชมกันในครั้งนี้ อยู่ในภาพด้านล่างนี้แล้วค่ะ!
ใช่ค่ะ วันนี้มิ้วจะมารีวิวกันถึง 2 ไอเทม มาเริ่มกันที่ตัวแรกคือเมคอัพเบสกันก่อนเลยค่ะ
COVERMARK Connecting Base
ขวดนี้คือเมคอัพเบสเนื้อลิควิดที่ถูกออกแบบมาเพื่อสาวผิวมันและผิวผสมโดยเฉพาะ ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น ทำให้อนุภาคของรองพื้นติดทนนาน และทำให้เครื่องสำอางติดทนนานตลอดทั้งวัน ที่สำคัญคือควบคุมความมันได้ดีด้วย!
เนื้อเบสจะออกสีชมพูอ่อน ๆ ประมาณนี้ค่ะ มีลองเทสต์ที่หลังมือก่อน และลองป้ายที่ผิวหน้าด้วย
เปรียบเทียบให้ดูก่อน-หลังทาเบส หน้าดูสว่างอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที ผิวดูอิ่มน้ำสุขภาพดีขึ้นมาเลยค่ะ มิ้วใช้บริมาณที่ไม่เยอะมากค่ะ เทียบเท่ากับเหรียญ 5 บาท นิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วใบหน้าแล้ว ขวดนึงมีปริมาณ 38 ml. อยู่ที่ 1,600 บาทค่ะ
เมื่อได้เตรียมผิวให้สว่างกระจ่างใสตามอย่างที่ต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาของไอเทมตัวถัดมาค่ะ มาดูกันซิว่าเป็นยังไงกัน
COVERMARK Moisture Veil LX
ปกติหลังจากทาเมคอัพเบสแล้วเราจะตามด้วยรองพื้นเป็นลำดับถัดมา สำหรับสิ่งนี้เขาบอกว่าคือรองพื้นประเภทแป้ง COVERMARK Moisture Veil LX มีจุดเด่นคือสามารถใช้ได้กับทั้งคนผิวแห้งและผิวมัน ซึ่งแน่นอนค่ะว่าคนผิวผสมอย่างมิ้วก็ใช้ได้เช่นกัน
คุณเขามี Moisture Coating ซึ่งเคลือบอนุภาคแป้งทุกอณูด่้วยความชุ่มชื้น สัมผัสแล้วจะมีความนุ่มลื่น เรียบเนียน และทำให้แป้งเกลี่ยง่าย แม้กับคนผิวแห้ง ที่สำคัญยังมี Sandwich Complex Powder และ Moist Change Powder และสารบำรุงต่าง ๆ ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันการหลุดลอก และเปลี่ยนความมันส่วนเกินบนใบหน้าให้กลายเป็นความกระจ่างใส (ตรงนี้แหละที่เหมาะกับคนผิวมันสุด ๆ) มาพร้อมกับการกันแดด SPF32 PA+++ ซึ่งบอกได้เลยว่าคุณเขาครบเครื่องจริง ๆ ค่ะงานนี้
ที่จริงคุณเขามีทั้งหมด 6 สีค่ะ สีที่มิ้วเลือกมามี 2 สีคือ MN10 และ MN20 เป็นสีผิวขาวสุดที่ออกมาทางอมชมพูทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าสี MN20 จะยังเข้มกว่าผิวมิ้วอยู่นิดหน่อย MN10 จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ค่ะ
พอได้สีแป้งที่เราต้องการแล้ว ก็เอารีฟิลใส่ตัวตลับเลย ลืมบอกไป ว่าแบรนด์นี้แป้งเขาตลับ+พัฟเขาขายแยกกันนะคะ
รีฟิลอยู่ที่ 1,500 บาท
ตลับ+พัฟ 700 บาท
ไปทาแป้งให้ดูกัน เห็นความแตกต่างก่อนทาแป้งกับหลังทาแป้งไหมล่ะ รูป Before นี่คือก่อนทาเมคอัพเบสนะคะ เห็นชัดเลยไหมว่าเปลี่ยนไปแค่ไหน นี่ไม่ได้ใช่คอนซีลเลอร์มาช่วยเลย ใช้แค่แป้งอย่างเดียวก็กลบรอยจุดด่างดำ ปกปิดได้เนียนแล้ว
จริง ๆ แล้วทาแป้งไปแค่ครึ่งหน้า เปรียบเทียบให้ดูกันอีกรอบนึง จะได้เห็นความต่างกันชัด ๆ รู้สึกว่าผิวมันเนียนขึ้นจริง ๆ นะ!
แต่งหน้าแต่งตาแบบเต็ม ๆ กันบ้าง รูปนี้เป็นตอนแต่งหน้าเสร็จใหม่ ๆ นะคะ ผิวออกจะแมตต์แต่ก็ไม่ได้แมตต์จนด้าน ยังได้ความเป็นงานผิวอยู่ ที่สำคัญผิวดูเนียนเวอร์!
แต่งหน้าตอนเช้ากันแล้วก็มาอัพเดทผิวในระหว่างวันกันบ้าง! มาถึงรูปนี้ ตกบ่าย ๆ หน่อยแล้ว ระหว่างวันหน้าก็ยังเนียนเป๊ะอยู่เลย (พี่ถนัดหน้ามุมนี้ 555) คุมมันยาวนานมาก ผิวหน้าไม่ค่อยดรอปด้วย จะมีตอนเย็นที่ตรงจมูกจะแอบเยิ้ม ๆ ออกมาหน่อย แต่ก็มันน้อยกว่าเดิมมาก เหมาะกับการแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน และเหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ชอบใช้รองพื้นสุด ๆ เพราะคุณเขาตอบโจทย์เรื่องความเบาสบายได้ดีมาก ๆ
ถ้าให้ถามความคิดเห็น ก็บอกได้เลยค่ะว่าพอใจมาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมความมันที่ยาวนาน ที่เซอร์ไพร์สอีกอย่างคือเขาเปลี่ยนความมันบนใบหน้าให้กลายเป็นความกระจ่างใสได้จริง ๆ แถมยังดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตาอีกด้วย เลิฟสุดเลยจ้ะงานนี้ ^^
สุดท้ายก็หวังว่าจะถูกใจรีวิวในครั้งนี้กันนะคะ คงจะเป็นประโยชน์ให้กับหลาย ๆ คนในการเลือกหาซื้อเมคอัพไอเทมดี ๆ สักตัวได้ ขอลากันไปแต่เพียงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่คราวหน้านะคะ บ๊ายบาย ^^
thanks