ก่อนจะลงคุชชั่น ในเซทนี้ตองพาน้องกันแดด เนื้อน้ำ
ตัวนี้กลับบ้านมาด้วย เบสงานผิวพร้อมกันแดด ด้วยในตัว
JUNGSAEMMOOL PRE-TECT Sun Waterfall
SPF50+ PA++++
ใช้ปริมาณที่เกลี่ยได้ทั่วใบหน้าพอนะคะ ไม่ต้องเยอะ ตองบีบแบบในรูป 2 ที ก็ทั่วหน้าแล้วค่ะ
เค้าเป็นกันแดด ที่ช่วยบำรุงผิว ปกป้องผิวและเป็นเบสเมคอัพได้ในตัว
ลงแล้วได้ผิวที่ลื่นมีความหนึบกำลังดี ช่วยให้เมคอัพติดทนได้มากขึ้น
และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นแบบรู้สึกได้ เหมาะกับลุคงาน Glass Skin เลยนะคะ
หลังจากนั้นก็มาต่อที่งานผิว ตองชอบเวลา JSM เค้าจัดเซทโปรมา
เพราะเราเลือกรุ่นคุชชั่นได้ คุชชั่นที่ตองเลือกมาก็คือ
JUNGSAEMMOOL Essential Skin Nuder Cushion
#Medium ( เป็นโทนสีที่พอลงแล้วได้ผิวที่ดูผ่อง กระจ่างใส )
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ให้งานผิวธรรมชาติมากๆ ช่วยให้ได้ผิวที่ดูกระจ่างใส
มาพร้อม SPF50+ PA+++ ปกปิดริ้วรอยได้เกือบ Full-Coverage เลย
จะเหลือแค่รอยสิวที่หนักมากกก รอยจุดด่างดำ หรือรอยสิวเล็กๆ ก็คือกลบมิดจ้า ไม่หนักหน้าด้วย
อย่างที่ตองบอกไว้ตอนแรกเลย ว่าตองหลงรักรุ่น NUDER เพราะความผิวสวย
และในตัวคุชชั่นนี้ เค้าก็มีส่วนผสมของ Hua Balancing Powder
คำว่า Hua มา สายกราฟฟิคอย่างเราคือ หูผึ่งมาก
เพราะเค้าเป็นส่วนผสมที่ช่วยปรับสีผิว ให้กระจ่างใส
และมีเอฟเฟคสีที่ดูนวลเนียน ดูเบลอผิวสวย สม่ำเสมอ กระจ่างใส
และมีอีกส่วนผสมนึง ที่พอแท็ปลงไปบนผิว เราจะสังเกตุได้เลย
ก็คือ Skin Fitting Polymer ที่พอแท็ปลงผิว แล้วเค้าจะเป็นเหมือนฟิลม์บางๆ
ที่ทำให้ตัวเม็ดสีของเนื้อคุชชั่นและความชุ่มชื้นอยู่บนผิวของเราได้ยาวนาน
เป็นความฉ่ำวาวที่เห็นได้ด้วยตา และติดทนได้ยาวนานนั่นเองจ้า
สำหรับวันนี้ก็จะใช้เทคนิคลงงานผิว ฉ่ำๆ ใสๆ
ด้วยการผสม Mool Cream และคุชชั่นนะคะ
หยด Mool Cream 1 หยด ลงไปบนถาดมิกซ์ของคุชชั่น แล้วกดตัวคุชชั่น 1 ที
เอาตัวพัฟคุชชั่นมาวนๆ วนไปเรื่อยๆ เป็นขั้นตอนที่ต้องละเมียดมาก
เพราะวนไปจนกว่าตัวถาดจะสะอาด ใครกดมาปั้มลึก ( เหมือนตอง ) ก็วนเข้าไปค่ะ
เป็นเทคนิคป้าจองที่เพิ่งได้เรียนรู้มา แล้วพอลองทำตาม ก็ได้งานผิวที่ดูละเอียดขึ้นจริงๆ
เพราะเค้าจะทำให้ตัวรองพื้นกระจายไปในพัฟอย่างสม่ำเสมอ และได้เนื้อคุชชั่นที่ไม่หนา
ไม่กระจุกกัน หลังจากนั้นก็แท็ปเข้าผิวไปได้เลยค่ะ
พอกดลงไปหน้าแก้ม 1 ที สังเกตุเห็นได้เลยนะคะ แทบดูไม่ออกถ้ามองผ่านๆ
เพราะเค้าให้งานที่ดูเป็นผิวมากๆจริงๆ แต่ดูมีความฉ่ำน้ำ เด่นออกมาเลย
เน้นแท็ปในส่วนที่มีเนื้อเยอะ และส่วนที่ติดกระดูกก็แท็ปให้น้อย
นอกจากนั้นป้าจองยังบอกว่า ให้แท็ปไปเรื่อยๆ เพื่อให้ตัวคุชชั่นปกปิดได้ทั่วจริงๆ
ปกติตองเป็นคนที่แท็ปคุชชั่นไปเรื่อยๆ นานอยู่แล้วนะคะ แต่ตอนนี้แท็ปนานกว่าเดิมอีก
โดยที่ตองจะแท็ปจนกว่าคุชชั่นแทบจะไม่เหลืออยู่ในพัฟแล้วนะคะ
เพราะพอแท็ปไปตามปกติ ลองเอานิ้วจิ้มลงไปในพัฟ ก็ยังมีคุชชั่นเหลืออยู่เลย
ก็แท็ปต่อจ้า แล้วจะได้งานผิวที่ดูละมุนกว่าเดิมจริงๆ
ดูเป็นผิวเราเองที่ ดูสวย ใสมากๆ
หลังจากนั้นก็มาเซทตัวคุชชั่นเบาๆ ด้วย
JUNGSAEMMOOL Essential Smooth Finish Pact
#Medium
เป็นแป้งโปร่งแสง เนื้อแคชเมียร์ มีความเนียน ละเอียดมากๆ
ตัวแป้งเค้าจะช่วยเซทงานผิวได้ดูใสมากๆ ช่วยเบลอผิวได้ในระดับที่เป็นธรรมชาติ
และไม่หนาด้วยค่ะ
เค้ามีแปรงมาให้ในตลับด้วยนะคะ แต่ด้วยความรวดเร็วตองแอบใช้ แปรงปัดแป้งอันใหญ่ มากดๆ
ให้ทั่วผิวหน้า จะได้งานผิวที่ดูใสอยู่ และยังคงความชุ่มชื้น ไม่ดูเป็นแป้ง และไม่ทำให้ผิวแห้งอีกด้วยจ้า
หลังจากนั้นตองก็แค่เขียนคิ้ว แตะอายแชโดว์เล็กน้อย 1 สี ปัดมาสคาร่าเบาๆ
ปัดแก้มสีใสๆ และจบด้วยลิปสีแดง เป็นอันฟินิชลุคนี้แล้วคร่า
ได้ผิวใส Glass Skin
เล่นแสง ดูฉ่ำน้ำ โดยที่ไม่ได้แตะไฮไลท์แม้แต่นิดเดียวเลยนะคะ
ส่วนตัวแล้วตองเป็นคนผิวผสม ค่อนไปทางมัน ลองแต่งลุคนี้ไปอยู่ร้านมาแล้วค่ะ
เค้าคุมความมันได้ระดับนึง แต่ไม่ดูเยิ้ม ไม่เหนอะหนะผิว ตองซับหน้า 2 ครั้ง
หมดวันแล้วก็ยังติดทน และได้ผิวสวย ไม่ดูเหี่ยวอีกด้วยน๊าาา
ใครที่ชอบงานผิวใสๆ ฉ่ำน้ำ ดูเป็นผิวและเป็นธรรมชาติ
รุ่น NUDER ตอบโจทย์มากๆ
ยิ่งใช้คู่กับตัว Mool Cream คือที่สุด
เข้าใจแล้วว่าทำไมวันนั้นเพื่อนตั้งใจมาซื้อตัวนี้มากๆ
ยิ่งพอจับคู่ตัวกับตัวคุชชั่น ก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบงาน Glass Skin
แต่ไม่อยากยุ่งยาก เพราะแต่งได้ง่ายมากๆ
แค่หยด เบลน แท็ป ก็ได้เบสงานผิว Glass Skin ง่ายๆเลย
-
สำหรับวันนี้เค้าก็ขอมาเห่อของและป้ายยาเพียงแค่เท่านี้น๊าาา
เพราะเวลามีโปร คือแทบไม่คิดเยอะเลย
แล้วเจอกันใหม่นะคะ
xoxo
ตอบกระทู้