มันแน่มาก!!!! รองพื้น Burberry ผู้จับโป๊ะไม่ได้ว่าเราแต่งหน้า แถมได้อั่งเปาไปอี๊กกก

รีวิวนี้เป็นอีกรีวิวที่บังเอิญต้องทำขึ้นมา เพราะผู้ชายชมว่าผิวใสจัง เลยต้องมาบอกบุญสิจ้ะ  

ขอเกริ่นนิดนึงว่าแต่งหน้าลุคนี้เพราะนัดเจอผู้พาผู้ไปเที่ยวสถานี MRT วัดมังกร (ผู้ชายไต้หวัน เป็นเพื่อนกันค่ะ นางนิสัยดี เคยอ่อยเค้าอยู่แต่เค้าไม่เอาเราอ่ะค่ะ จบ...นกสิ บินวนไป ฮ่าๆๆๆ)  

คือหล่อนเดินตั้งแต่เที่ยงกว่าๆยัน 4 โมงเย็น เดินแถววัดมังกร - เยาวราช - หัวลำโพงไม่ใช่เล่นๆนะ เหงื่อไหลมากมายยังกับน้ำตกไนแองการ่า แฉะยันกกน.เลยจ้า หลังจากนั้นก็ทานข้าวแล้วกลับเข้าห้องตอนประมาณค่ำๆ อยู่ดีๆผู้บอกว่า “ทำไมผิวใสจัง ผิวไม่โทรมเลยขนาดออกไปตากแดดทั้งวัน” เราก็แอบยิ้มเบาๆแล้วตอบว่า “จริงหรอ ไม่ได้ทำไรเลยนะเนี่ยยยยยย” แต่ในใจกรี๊ดละนะ ดีใจที่นางดูไม่ออกว่าอีนี่แต่งหน้ามานะยะ 

เอาล่ะเบนซ์เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆว่าวันนั้นใช้ตัวไหนอะไรยังไงบ้าง 

เริ่มที่ Burberry Fresh Glow Luminous Fluid Base 

เบสเตรียมผิวที่มีเนื้อสัมผัสกึ่งครีมกึ่งเจล เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้น หลังทาผิวดูฉ่ำขึ้นมานิดนึงแต่ไม่ทำให้ดูมัน ให้งานผิวเปล่งประกายเวลาเจอแสงไฟ (แนะนำให้ลองส่องผิวกับแสงไฟดู ผิวมีความเล่นไฟอยู่นะ) เบนซ์ใช้ตัวนี้หลังจากลงกันแดด ทาเบสนิดเดียวก็ได้งานผิวเปล่งประกาย หรือวันไหนอยากได้งานผิวสวยธรรมชาติสุดๆไม่ลงรองพื้น จบที่เบสตัวนี้ได้เลย ผิวสวยเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีน้ำหอมด้วยนะ 

ต่อด้วย Burberry Matte Glow Foundation สี Light Neutral No.30

รองพื้นให้งานผิวโกลว์ ต่างจากรองพื้นโกลว์ตัวอื่นๆ เพราะคำว่าโกลว์ส่วนใหญ่จะต้องมาแบบผิวฉ่ำ ดิวอี้ ดูมันๆไรงี้ แต่ตัวนี้ไม่ค่ะ โกลว์แต่ออก Soft Matte ผิวมันง่ายเลิฟแน่นอน เบนซ์ผิวมันง่ายใช้ตัวนี้แล้วได้ฟินิชลุคผิวกระจ่างใสแบบแมตต์นิดๆ ระดับการปกปิดเบาถึงปานกลางค่ะ ยังเห็นรอยดำรอยแดงสิวอยู่ สามารถลงซ้ำได้โดยไม่ทำให้ดูหนาและเป็นคราบ ส่วนตัวเบนซ์ชอบลงรองพื้นเบาๆ เวลาใช้จะใช้แค่ครึ่งปั้มเองค่ะ ส่วนใครต้องการปกปิดตรงไหนเพิ่มลงแค่บริเวณนั้นได้เลยค่ะ เนียนๆใสๆ และไม่มีน้ำหอมอีกเช่นเคย รักก็ตรงนี้ละ 

ลงคอนซีลเลอร์ Cle De Peau Beaute บริเวณรอยดำรอยแดงสิว 

ตัวนี้ใช้บ่อยมาก เพราะมีอยู่ตัวเดียว ฮ่าๆๆๆๆ แพงเลยขอซื้อแค่อันเดียวพอ สรรพคุณไม่ต้องบรรยายเยอะค่ะ รีวิวแน่น กลบรอยแดงรอยดำสิวให้จางลงแต่ไม่ได้ปกปิดจนมิดนะ เบนซ์จะกลบแค่พอประมาณให้จางๆพอ เพราะถ้ากลบมิดมันทำให้เห็นรอยคอนซีลเลอร์ชัดอยู่เหมือนกัน ทาใต้ตาลดรอยคล้ำ มีส่วนผสมของสารกันแดด 

ปัดแก้มด้วยลูกรักเหมือนเดิม Burberry Burberry Peony Blush No.4 สีชมพูนัวๆ

บลัชออนสุดเลิฟ ปัดเบาๆให้งานผิวสุขภาพดี แก้มอมชมพู ที่สำคัญมีกลิ่นหอมด้วย ปัดไปหอมไปมีความสุข กลิ่นจะออกแนวกุหลาบ เอาจริงหอมมาก ปัดตัวนี้ชวนให้ผู้หอมแก้มมากแม่!!!! 

จบท้ายด้วย Clarins Lip Comfort Oil 

ลิปกลอสที่ออกสีนิดแต่ได้ความฉ่ำและบำรุงริมฝีปากแห้งๆได้ดีมาก สามารถทาตัวนี้ก่อนนอนได้นะ เช้ามาริมฝีปากไม่แห้ง คือสารพัดประโยชน์ใช้ตอนแต่งหน้าก็เลิศ ใช้ตอนนอนก็ว้าว กลิ่นเหมือนลูกอมอีก ทาไปหิวไปอยากกินลิปตัวนี้ไป ฮ่าๆๆๆๆๆ

ฟินิชลุคก็จะประมาณนี้ รูปนี้ถ่ายตอนค่ำๆ หลังจากผจญเหงื่อมาทั้งวัน มีใช้ซับมันไป 1 ครั้ง ในรูปผิวมีความมันวาวอยู่ เพราะไม่ได้ซับมันก่อนถ่ายนะคะ แต่พอลองถ่ายรูปเบนซ์ว่าผิวออกมาดูดีมากเลย ดูอิ่มน้ำ ฉ่ำๆกำลังดี ชอบนะ แถมรองพื้นติดทนนาน สีไม่ดรอปด้วย 

(แอบอวดของนิ้สนุงโน๊ะ)

หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน ก่อนแยกย้าย ผู้ไต้หวันยื่นของมาให้ มี Aesop อยู่ข้างในจ้า แถมแจกอั่งเปาอีก พร้อมกับหน้ากากอนามัยของไต้หวัน???!!! สงสัยกลัวเราติดไวรัสโคโรน่า ฮ่าๆๆๆๆ ถึงจะนกแต่ได้ของก็ปลื้มใจละ เอาไว้บำรุงผิวให้สวยๆรอผู้ต่อไปดีกว่า อิอิ