จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงต้องบอกก่อนเลยว่า อยากจะลงมาตั้งหลายวันแล้วค่ะ แต่รูปที่ถ่ายมันไม่โอเคเลย เบลอซะจนรับไม่ได้ คือมันไม่ยอมโฟกัสที่หน้า ทั้งที่ใช้โหมดซุปเปอร์มาโคร (เรื่องมันเศร้า) ? แต่วันนี้แหละ ได้ภาพสุดท้ายเลยอยากจะมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดูกันสักที ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองใช้ Clinique Even Better Clinical™ Dark Spot Corrector + Interrupter
ขอเล่าคร่าวๆ ตามที่เข้าใจนะคะ
Clinique Even Better Clinical™ Dark Spot Corrector + Interrupter เป็นเซรั่มที่สามารถลดเลือนรอยด่างดำเฉพาะจุด และยังสามารถผิวให้ใสขึ้น รอยแผลเป็นและรอยสิวก็ใช้ได้
ปล.ตัวนี้เป็นสูตรใหม่ เน้นเรื่องการยับยั้งจุดด่างดำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ปัญหาของผิวตอนนี้คือ แอร์เป็นคนที่ผิวหน้าแห้งและขาดน้ำมาก มีรอยกระเกือบทั้งสองแก้ม มีรอยหลุมสิวอยู่บริเวณแก้มขวา และจุดด่างดำจากการไปฉีดสิวมา อีกทั้งยังมีรอยสิวเม็ดเล็กๆ ร่วมด้วย
หลังการใช้มาเป็นระยะเวลา 14 วัน ครบตามที่กำหนดที่ท้าพิสูจน์พอดี ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นที่พึงพอใจมากนะคะ ดูจากรูปนะคะ ถึงจะไม่หายไปทั้งหมด แต่ก็จางลงอย่างเห็นได้ชัด (แสงอาจจะไม่เท่ากันนะคะ เพราะถ่ายกันคนละเวลาและโฟกัสไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าชัดมากแล้ว)
วิธีใช้ หลังล้างหน้า กดเซรั่ม 1-2 ปั๊ม ใช้ทาได้ทั้งเช้าและเย็น แอร์จะลงเฉพาะจุดเท่านั้น จะไม่ลงทั้งหน้าเพราะกลัวว่าส่วนที่ไม่มีข้อบกพร่องอะไรจะขาวกว่ารอยสิวที่อยากจะให้มันจางลง
1. ถ้าถามว่า ซึมซับเข้าผิวง่ายมั้ย? คำตอบคือ ซึมเข้าผิวง่ายอยู่นะคะ ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวเลย
2. ถ้าถามว่า ใช้แล้วแพ้มั้ย? คำตอบคือ แอร์ใช้แล้วไม่แพ้นะคะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ อันนี้แอร์ไม่คอนเฟิร์ม ? ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่า ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน,ไม่มีกลิ่นหอม และไม่มีสารในกลุ่มพาทาเลต
3. ถ้าถามว่า ทำไมถึงชอบ? ขวดจับถนัดมือ และบรรจุภัณฑ์ตัวใหม่นี้ทำมาแบบหัวปั๊มเดี่ยวที่ใช้งานง่ายเพื่อคุณค่าของเซรั่ม ซึ่งต่างจากตัวเก่าที่มีสองหัว เวลากดทำให้เนื้อเซรั่มออกมาไม่เท่ากันนั่นเอง
4. ถ้าถามว่า ควรซื้อมั้ย? ถ้าใครไม่ติดปัญหาการเงินอะไร ก็จัดไปเลยค่ะ เพราะคิดว่าเรื่องลดรอยด่างดำ ตัวนี้เอาอยู่นะ อาจจะช้าหน่อย ของดี มันจะไม่เห็นผลภายในคืนสองคืนหรอกค่ะ ของดีต้องใช้เวลา แต่ส่วนตัวคิดว่ามันแพงไปนิดเมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้รับ(30ml./2,850.-)(50ml./4,100.-) ราคาใช้ได้อยู่นะ 5555
5. ถ้าถามว่า เหมาะกับสภาพผิวแบบไหน? คำตอบคือ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวนะคะ
ปล. ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
วันนี้ขอรีวิวแค่นี้นะคะ ลากันไปก่อนนะ บั้ยยยย ??
Thanks