สวัสดีค่าาา ช่วงนี้ฮิตรีวิวรองพื้นมากๆ เพราะกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะซื้อตัวไหนดี
(ทุกคนต้องเข้าใจนะ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เราก็ต้องคิดให้คุ้ม ว่าตัวไหนตอบโจทย์เรามากที่สุด
///จริงๆคือ งก แหล่ะ ดูออก 5555+)
จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่าาา ช่วงนี้ฮิตรีวิวรองพื้นมากๆ เพราะกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะซื้อตัวไหนดี
(ทุกคนต้องเข้าใจนะ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี เราก็ต้องคิดให้คุ้ม ว่าตัวไหนตอบโจทย์เรามากที่สุด
///จริงๆคือ งก แหล่ะ ดูออก 5555+)
สำหรับวันนี้ ปายจะมารีวิว รองพื้นตัวเทพ !
ที่บล๊อกเกอร์และสาวๆต่าง Recommend กันเป็นเสียงเดียวกันว่า
ปายเคยได้ยินฝรั่งเศสสอนอ่าน จริงๆเค้าออกเสียง อีฟว์ แซงฮ์ โลฮอ
เคยพยายามพูดตามนั้นแหล่ะ แต่ลำบากมาก 555
เอาล่ะ เข้าเรื่อง !
หน้าตาเค้าเป็นแบบนี้ค่ะ
แพคเกจจิ้ง เรียบหรู ดูแพงตามสไตล์ ตัวขวดเป็นขวดแก้ว
มีน้ำหนักพอสมควร ถ้าตกก็อาจจะแตกได้ค่ะ
ขนาด 25 มล. ราคา 2,500 บาท ( มิลลิลิตรละ 100 บาท โอ้วขุ่นพระ!)
ตระกูล Encre de Peau มีจุดเด่นคือ Night-Proof ที่ติดทนนานตลอด 24 ชม.
ประมาณว่าแต่งหน้าตอนเช้า ไปทำงาน กินข้าว แฮงก์เอ้าท์เสร็จ หน้าก็ยังสวยเป๊ะ
มี SPF20 มาให้ พร้อมกับเป็นสูตร Oil Free ด้วยจ้า
โดยรุ่นนี้มีทั้งหมด 22 เฉดสี ซึ่งครอบคลุมทุกเฉด ทุกโทน ทุกสีผิวเลยจริงๆ
เรียกได้ว่า ต้องมีอันใดอันนึงแหล่ะที่เข้ากับสีผิวของเราได้อย่างพอดิบพอดีแน่นอน
ซึ่งเค้าแบ่งเป็นทั้งหมด 3 โทนตาม อันเดอร์โทน ของเราค่ะ
สำหรับใครที่กังวลกับการเลือกเบอร์สีรองพื้นของ YSL
ปายแนะนำให้เข้าไปลองเล่นในเว็บเค้าได้ค่ะ
https://www.yslbeautyus.com/find-your-perfect-foundation-match
โดยอันดับแรก เลือกระดับความเข้มสีผิวเราก่อน
Light (ผิวขาว) / Medium (ผิวสองสี) / Deep (ผิวเข้ม)
ลองกดดูค่ะ ว่าสีผิวเราน่าจะประมาณไหน
จากนั้นเลือกอันเดอร์โทนที่ใช่เรา ( Cool / Warm หรือ Neutral )
เพื่อที่จะได้เลือกสีได้ถูก
จากนั้นเราค่อยไปเทสต์อีกครั้งที่เคาน์เตอร์ค่ะ
แต่ที่จะมารีวิวในวันนี้ จะเป็นขนาด Tester ที่ได้มาจากการเป็น Beauty Tester ของ Cosmenet จ้าา (เว็บแนวหน้าเรื่องการจัดอันดับเครื่องสำอาง สกินแคร์ของเมืองไทยน้าา)
ดูหน้าตาเทสเตอร์สิ ยังดูหรู ดูแพงขนาดนี้เลยอ้าาา~ แค่เห็นกล่องก็ใจละลายแล้นนน
ด้วยความที่อ่านรีวิวมาว่า รองพื้นตัวนี้ของ YSL เมื่อทาไปแล้ว จะมีการอ๊อกซิเดชั่นเล็กน้อย
คือสีจะมีความเข้มขึ้นนิดดดนึง
ปายเลยตัดสินใจลองเลือกสีที่สว่างกว่าผิวตัวเองนิดหน่อยค่ะ
เพราะเคยเลือกสีพอดีผิวแล้ว ปรากฏว่า พอมันอ๊อกซิเดชั่นปุ๊บบบ หมองคล้ำปั๊บบบ
จากนั้นปายไม่รอช้า ทำการลงกับผิวหน้าในทันที
เพราะเราจะมาดูว่า ถ้าใช้แต่รองพื้นเพียวๆแล้ว เค้าทำได้ดีมากสุดขนาดไหน
แท่นนนน แท๊นนนนน ~
เอารูป Before กับ After มาให้ชมเลย
สวยมากกกกก โกลว์มากกก งานผิว ลุคคุณหนูไฮโซก็มาจ้าา
วันนี้ปายจะแต่งเบาๆ แบบ Everyday Look แนวใสๆ ไม่จัดเต็ม
(เพราะอย่างที่บอกว่า ไม่ได้ลงแป้ง ไพรมเมอร์ คอนซีลเลอร์ ไฮไลท์เตอร์)
ทีนี้เราจะมาทดสอบการติดทนระหว่างวันกันเจ้าค่ะ
ปายเริ่มแต่งในตอนเช้า ประมาณ 8-9 โมง ถ่ายในห้อง ด้วยแสงธรรมชาติ ไม่เปิดไฟ
ภาพด้านซ้าย คือ ภาพระหว่างวัน (หลังทาไปแล้ว ประมาณ 5 ชม. ค่ะ)
แสงธรรมชาติจากหน้าต่างที่มีฟิล์ม สีเลยดูแปลกๆไปหน่อย
เค้ายังมีความโกลว์ สดใส มีออร่า
จนถึงตอนนี้ ปายมีซับเหงื่อไปบ้าง แต่ไม่มีการเติมอะไรใดๆค่ะ
ภาพด้านขวา คือ กลับมาบ้าน (หลังทาไปแล้วประมาณ 10 ชม)
ถ่ายในห้องน้ำ ไฟสี warmwhite ออกไปทาง daylight ค่ะ
(ไม่เหลือง ไม่ขาวจนเกินไป)
จริงๆคือจะอาบน้ำแล้วแหล่ะ ลืมมมว่าต้องถ่าย 5555 เลยหยิบเสื้อตัวที่ใส่ง่ายๆมาใส่ถ่ายรูปไปก่อน
จะเห็นว่า สีลิปอะไรหลุดไปแล้ว บลัชที่แก้มก็จางมากกกก
แต่เห็นความเงาของหน้ามั้ยคะ เป็นความเปล่งปลั่งที่มาจากรองพื้นจ้าาาา
ยังสวย ยังโกลว์สุด เอาอยู่จริงๆอะ
ดูหรู ดูแพง(ตามราคาอ่ะเน้อะ 55)
นับถือความ Full Coverage มากๆ ปายใช้ทั้งกลบใต้ตา กลบรอยสิว จุดด่างดำ อีกทั้งบริเวณที่รูขุนขนกว้าง เค้ายังช่วยเบลอไปอีก
ตัวนี้ ตอนปายลง ปายใช้มือเลยนะ มีความหนืด แต่เกลี่ยง่าย
ไม่เหนียวเหนอะ ยังรู้สึกว่ามีอยู่บนผิวหน้า แต่ก็บางเบา เหมือนผิวได้หายใจ
ต้องยอมรับว่า พอตกเย็น เหงื่อเราออก มีร่อนไปบ้างเล็กน้อย
แต่เนื่องจาก ยังไม่ได้ลองเคสโหด (เช่น กรณีออกไปถ่ายงาน Outdoor แบบฮาร์ดคอร์ ฟีลรับปริญญา ถ่ายรูปหมู่กลางแดด // เอ้ะ เดี๋ยวนี้เค้ายังถ่ายรูปหมู่กลางแดดอยู่ป้ะ?)
ราคา 2,500 บาท ปายถือว่าแพงพอสมควรเลย แต่ถ้าเค้าเนียนกริบ และอยู่ได้ยาวนานขนาดนี้
ปายมองว่ามันคุ้มค่า เพราะเอาจริงๆ เราก็คงไม่ได้ซื้อรองพื้นอะไรกันบ่อยๆ แต่ถ้าสาวๆคนไหนได้ลองใช้ หรือได้ลองทาไปทำงานแล้วนั้น จะพบว่า คุณไม่สามารถเปลี่ยนรองพื้นได้ ! 55555 เพราะผิวคุณจะสวยแบบสวยมากถึงขีดสุด เพราะฉะนั้น ตัวนี้จะเป็นอีกตัวที่ปาย ซื้อ ! ค่ะ
เอาล่ะค่ะ ก่อนจบรีวิวนี้ ต้องขอย้ำกันอีกครั้ง ว่าปีนี้ปายอายุ 30 แล้ว
ไม่มีฉีดเพิ่มเติมแต่งฟีลเลอร์ใดๆ ไม่มีไปคลีนิค ไม่มีกะตัง 555555
บอกเลยคำเดียวว่า
คร่าาา
จบรีวิวนี้ แน่นอนเลยว่า ต้องพุ่งตัวไปที่เคาน์เตอร์ YSL กันอยู่หลายคนเลยใช่ม้าาา
อย่าลืมแวะกลับมาเม้ามอยด้วยน้าา ว่าใช้สีอะไร เป็นยังไงกันบ้าง
วันนี้ขอตัวลาไปก่อนแล้วค่าา อย่าลืมติดตาม Kinistapai ไว้ด้วยน้าาา
❤
ขอบคุณค่ะ