กระทู้พลีชีพ ฉบับผู้ชายแมนๆแต่งหน้าสู้มลภาวะ

สวัสดีครับ พ่อแม่ พี่น้อง ลุงป้า น้าอา ทุกท่านครับ รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในวงการป้ายยา cosmetics ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า ผมเป็นมนุษย์ที่ผิวแห้งมากกกกกบริเวณ U-Zone มีสิวชนิดที่ไม่เคยว่างเว้นจากหนังหน้าทั้งสิวอุดตันบ้าง สิวอักเสบบ้างตามภาษาคนแตกหนุ่ม แตกหนุ่มว่าซั่นนน555 และ รูขุมขนกว้างมากบริเวณ T-Zone ลองผลิตภัณฑ์มามากมาย ก็ช่วยได้บ้าง ไม่ได้บ้าง วันนี้เลยจะมาแนะนำ item ที่ช่วยให้ชีวิตรอดและสะดวกต่อการใช้ชีวิตต่อมากขึ้นครับ เพื่อปกปิดซากสงครามที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนผิวของผู้ชายอย่างเราๆ(เดี๋ยวคราวหน้าจะมาบอกกันเรื่องการรักษารอยสิว อย่าลืมติดตามล่ะ) รวมถึงบางไอเท็มเนี่ย ยังช่วยรักษาสิวและป้องกันการเกิดสิวซ้ำได้อีกด้วยผม

มาจ้า มาเริ่มกันเถอะ! เราขออนุญาตเล่าเป็นเสต็ปเพื่อเป็นการง่ายแก่ทุกคน จะได้รู้กันว่าไอเท็มไหน ทำหน้าที่ในขั้นตอนไหนบ้าง

เสต็ปที่ 1 งานซ่อมผิว

ตัวแรกที่เราใช้จะเป็นการลงคอนซีลเลอร์ ส่วนไอเท็มที่เราเลือกใช้นั่นก็คือ BK retouch acne concealer pen

Covered : medium to full covered pigment สีแน่นมาก ใช้นิดเดียวก็สามารถปกปิดได้กริบ และที่สำคัญคือเกลี่ยง่าย

Colors : มีให้เลือก 2 สี ด้วยกัน แบ่งเป็นเบอร์ 2 และเบอร์ 3 เป็นโทนออกเหลืองทั้งหมด ส่วนตัวราเอง เราใช้ no.2 แต้มไปช่วงแรกอาจจะดูขาวไปนิด หลังจากเซตตัวแล้วกลืนไปกับผิว

Packaging : ใช้สะดวก Applicatorขนาดเล็กกำลังพอดี ซอกซอนลึกทุกซอก เอ้ะ!? ฟังดูแปลกๆ ป้องกันการ Contaminate ไม่ต้องจิ้มจุ่มให้เชื้อโรคสะสมอยู่ด้านใน วัสดุเป็นซิลิโคนนิ่มๆเลยด้วยนะครับ และที่สำคัญพกพาง่าย สำหรับผู้ชาย (แมนๆแต่งหน้าอย่างเรา) พกใส่กระเป๋าไปเติมระหว่างวันได้ครับ (เพื่อนไม่รู้หรอก บอกว่าสี Highlighter 55555) ถามว่าทำไมเราต้องลงคอนซีลเลอร์ก่อน ปัจจัยสำคัญเลยก็คือป้องกันการที่คอนซีลเลอร์สีต่างกับรองพื้นมากเกินไปนั่นเองฮะ หลักการก็คือการที่เราลงคอนซีลเลอร์ไปก่อนแล้วลงรองพื้นหรือBBเป็นเสต็ปถัดไป จะทำให้สีของรองพื้นนั้นเบลนด์สีของคอนซีลเลอร์ให้กลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ผิวเราก็จะดูธรรมชาติสุดๆ

ภาพเปรียบเทียบก่อนทา คอนซีลเลอร์BK

ภาพเปรียบเทียบหลังทา คอนซีลเลอร์BK

ความเท่ของคอนซีลเลอร์ตัวนี้มันอยู่ที่ Benefit ที่เขามีคือนอกจากที่จะช่วยปกปิดรอยสิวต่างๆได้แล้วเนี่ย ตอนที่เราเป็นสิวเค้ายังช่วยบรรเทาการอักเสบของสิวที่เราเป็นอีกด้วยนะเอ้อ คือพูดง่ายๆเป็นยาแต้มสิวแบบมีสีได้เลย เพราะเค้าเคลมว่าสามารถทานอนได้เลย ทาได้ตลอด 24 ชั่วโมงว่าซั่นนนนนนนนนนน เราเคยทาแล้วออกไป outing ตอนกลางคืน กลับมาก็ไม่ไหวแล้วนอนเลย ตื่นมาไม่มีสิวขึ้นแม้แต่เม็ดเดียวเลยฮะ

ต่อกันที่ตัวที่ 2 คือรองพื้น ในวันนี้ที่เราเลือกใช้จะเป็นคุชชั่น ตัวใหม่จาก Laneige นั่นก็คือ Laneige NEO Cushion Matte SPF42 PA

Covered : medium to full covered pigment สีแน่นมากเช่นกัน สามารถบิ้วได้ แต่ก็ยังดูเป็นงานผิว แต่ต้องใช้แต่พอดีนะฮะ Tap เพิ่มเฉพาะจุดที่ต้องการจะปกปิดพอครับผม ที่สำคัญพอเซ็ตตัวแล้วจะแม็ทไปเลยกับผิว แต่ผิวยังเล่นแสงได้อยู่นะครับ คือผิวค่อนข้างดูธรรมชาติเลยครับ

Colors : มีให้เลือกประมาณ 6 สี ด้วยกันนะในไทย(ถ้าจำไม่ผิด555) มีทั้ง ผิวโทนชมพู แล้วก็โทนเหลืองครับ ส่วนเราเลือกสี 31N Brown มาเพราะพอดีผิวที่สุดครับ เราผิวประมาณ NC35 ครับผม

Packaging : สะดวกดีครับ ตลับแบบคุชชั่นทั่วไป แต่ที่ต่างไปคือความสะดวกในการถอดเปลี่ยนรีฟีลที่เค้าออกแบบมาให้สามารถใช้ได้ทั้งคนถนัดขวาและถนัดซ้ายเลย ตัวพัฟมีความพิเศษคือจะมีรูที่ช่วยทำให้การเกลี่ยเนื้อคุชชั่นที่เป็นเนื้อแมทนี้มีความสมูทมากขึ้นและ กักเก็บปริมาณคุชชั่นที่พอดีต่อการลงบนผิวของเรา ตลับเป็นสีเขียวมิ้นน่าร้าก เราว่าแพคเกจค่อนข้างมีความ Genderless เลย คือไม่ว่าใครก็ใช้ได้แบบไม่ขวยเขิน

ภาพเปรียบเทียบหลังทา Laneige Neo Cushion

มาที่ตัวสุดท้าย ถือเป็นไฮไลท์เลย เพราะไม่ว่าจะคนที่รักงานผิวธรรมชาติ หรืองานผิวเป้ะปัง ก็ใช้ได้ทุกคน

นั่นก็คือแป้งฝุ่นตัวใหม่ล่าสุด จาก BK ครับผม BK Loose powder 3D Diamond หรือที่เห็นในโซเชียลช่วงที่ผ่านมาเรียกน้องกันว่าเป็น #แป้งสายมู บ้าง #แป้งฝุ่นแดง บ้าง ว่าซั่นนน!! เพราะแบรนด์เค้าบอกว่านอกจากใช้แล้วจะผิวจะดีแล้ว ยังดวงดีอีกด้วย

มาดู Benefit ของน้องกันนะฮ๊าฟ

Covered : No covered เลยฮะ เพราะน้องเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง เพราะฉะนั้นสามารถใช้ได้ทุกสีผิว แต่ตัวน้องเองนั้นก็ช่วยอำพรางรูขุมขนได้ดีมากเลยนะฮะ แล้วก็ช่วยกระจายแสงให้ใบหน้าของเราดูมีมิติมากขึ้น ด้วยส่วนประกอบจาก Diamond Powder ที่เป็นเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น(Soft Focus Effect) เนื้อบางเบามาก แล้วก็คุมมันได้นานถึง 12 ชั่วโมงเลยนะครับผม เพราะเค้าใส่ Natural Rice Powder เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่จะคอยควบคุมน้ำมันบนผิวเราได้เป็นอย่างดี ส่วนตัวลองแล้วการคุมมัน และผิวไม่ดรอประหว่างวันนั้น เค้าสามารถทำได้จริง อันนี้เราอยากให้ทุกคนได้ลองเลยครับ เพราะระหว่างวันที่ผิวมีเหงื่อออกบ้าง ความมันออกบ้าง แป้งตัวนี้จะยิ่งทำให้ผิวระหว่างวันดูสวยมากขึ้น

ภาพเปรียบเทียบหลังทา BK Loose Powder 3D Diamond

ปิดท้ายที่การป้องกันมลภาวะ หลายๆคนก็คงค่อนข้าง Concern กับฝุ่นที่จะเข้ามาทำร้ายผิวของเรา เพราะช่วงนี้ก็ใกล้เข้าฤดูหนาว แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือ ฝุ่นPM2.5 ที่เรารู้จักกันดี แบรนด์เค้าก็ใจดี๊ใจดี ใส่เทคโนโลยีที่จะช่วยป้องกันผิวเราจากฝุ่นตัวร้ายมาให้เรา เพราะฉะนั้นมันเหมาะมากกับทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นคนที่แต่งหน้าหรือไม่แต่งก็ใช้ได้ทุกคนเลยครับผม

Colors : มีเบอร์เดียวเลยนะครับ เป็นแป้ง Translucent ที่ใช้ได้ทุกสีผิว

Packaging : น้องมากับตลับสีแดงแรงฤทธิ์ พิชิตภัยร้าย เปิดดวงมากจ้า เพราะว่าสีแดงเนี่ยเป็นสีที่คนจีนเชื่อว่าเป็นสีที่นำพาความโชคดีแล้วก็โชคลาภมาให้ อีกทั้งยังมีกระจกส่องด้วย พกไปเติมที่ไหนก็ได้ แถมยังมีตาข่ายกรองเนื้อแป้ง ทำให้เวลาที่เราใช้เนี่ยสามารถหยิบจับแป้งขึ้นมาในปริมาณที่พอดีมากๆ ตัวพัฟฟ์ของเค้าเองก็นุ่มมาก นุ่มแบบนุ๊มมมม ไม่บาดผิวเลย เกลี่ยแป้งได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบใช้พัฟ #แป้งฝุ่นแดง ตัวนี้ก็สามารถใช้แปรงลงได้อย่างดีนะฮะ

ก็จบไปแล้วนะครับกับการรีวิวเสต็ปเทพในการเอาชีวิตรอดประจำวันของเรา เพื่อนๆคนไหนที่สนใจเนี่ยก็สามารถหาซื้อทุกไอเท็มนี้ ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำเลยนะครับ โดยเคาท์เตอร์ Laneige เราก็สามารถเห็นกันได้ทั่วไปอยู่แล้วตามบิวตี้ฮอล์ต่างๆ ส่วนผลิตภัณฑ์ของ BK ก็สามารรถหาซื้อได้ที่ Watsons / Konvy.com / Cosme Store / EveandBoy หรือร้านค้าชั้นนำทั่วไปนะครับ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวและฝากติดตามคอนเทนต์ของผมกันต่อไปเรื่อยๆ วันนี้ขอลาไปก่อน เจริญพรนะจ้า