จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงแต่งหน้าเผยผิวธรรมชาติ เป็น Goal อย่างหนึ่งในปี 2021 ของเราเลยค่ะ
จากสายที่ฟาดหนัก ต้องการแต่การปกปิด ต้องเนี๊ยบทุกมุม
มาปีนี้อยากลองชาเลนจ์ตัวเองดูบ้าง กลับมาสู่งานผิว แบบธรรมชาติ
ด้วยรองพื้นและคอนซีลเลอร์ใหม่ล่าสุด ของ Clinique
สีที่เราเลือกมาคือ สี 65 Neutral เหมาะสำหรับผิวขาวปานกลางค่อนไปทางเหลือง
ทั้งสีของรองพื้นและคอนซีลเลอร์
______________________________________
รองพื้นที่ผสานการบำรุงแบบสกินแคร์ มอบการปกปิดสีเดียวกับผิวของคุณ เพื่อสีผิวสม่ำเสมอทันทีที่ใช้ มาพร้อมเทคโนโลยี 3 เซรั่ม เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ จะช่วยมอบความชุ่มชื้น ลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ให้ผิวดูเรียบเนียนกระจ่างใส
(clinique.co.th)
__________________________________________________
สภาพผิวของเรา :ผิวมัน รูขุมขนกว้าง มีรอยดำจากสิว
แพ็คเกจ
ขวดแก้วมาในลักษณะทรงไข่ มีความน่ารัก หยิบง่าย มีฝาครอบหัวปั๊ม แอบเปิดยาก (ตอนแรกเข้าว่าต้องหมุน ><) หัวปั๊มมีความแข็งแรง ไม่ก๊องแก๊ง ควบคุมการกดได้ค่อนข้างดี เวลาทารองพื้นเสร็จด้วยความที่ฝาเป็นสีขาว จะเลอะง่ายนิดนึง
กลิ่น
ไม่ผสมน้ำหอมนะคะ เป็นกลิ่นแบบธรรมชาติ คือไม่ใช่ไม่ได้กลิ่นเลยนะ ทางเราไม่ได้ติดอะไร ใช้ได้ค่ะ
เนื้อสัมผัส
รองพื้นเป็นแบบลิควิด เกลี่ยง่าย ให้สีชัด แต่แอบแห้งไว
ความรู้สึกหลังใช้
อย่างแรกเลยคือการใช้งานของตัวขวด เราไม่รู้ว่าขวดมีฝาปิดอีกที 555 ดันไปหมุนแล้วเอาเนื้อรองพื้นจากหลอดดรอปเปอร์มาใช้ซะงั้นค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย แอบแห้งไวไปหน่อย เทคนิคของเราคือจะวอร์มเนื้อที่ปลายนิ้วก่อน แล้วแท็บๆด้วยนิ้ว อุณหภูมิจากนิ้วจะช่วยให้รองพื้นติดทนมากกว่า และเนียนเรียบกว่าการใช้แปรง หรือฟองน้ำ (เราทดลองการลงรองพื้นมาทั้ง แปรง , ฟองน้ำ, นิ้ว) ควรเตรียมผิวมาให้ดีก่อนใช้รองพื้น สำหรับเราจะงดการเลเยอร์เยอะๆ เหลืองแค่การลงไฮยาฯ กับกันแดดชนิดน้ำเท่านั้นค่ะ จะทำให้ไม่เกิดคราบ วันแรกที่ลองคือเราใช้สกินแคร์ตามปกติ แล้วลงรองพื้นด้วยแปรง ปัญหาที่พบคือมีคราบตามมุมต่างๆ โดยเฉพาะช่วงคาง คราบหนักมากจริง ส่วนฟองน้ำชุบหมาด ก็เป็นคราบ ไปไม่รอด มาลงเอยด้วยนิ้วที่ล่ะ เราชอบฟินิชผิวหลังลงมากก สวยจริงๆ ลองแต่งตั้งแต่ 10.00 น. มาถึงช่วง 18.00 น.ก็ยังมีรองพื้นติดอยู่ แม้จะใส่แมสก์ (ประมาณ 60%) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ activity ของแต่ละคนด้วยค่ะ รองพื้นไม่คุมมันจนแมท จะได้ความผิวสวย ดูมีออร่าแบบธรรมชาติ แนะนำว่าควรเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นแบบไม่มีสีจะสวยสุด
______________________________________
คอนซีลเลอร์เนื้อครีมเจลบางเบา ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ติดทนนาน ช่วยปกปิดจุดที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆบนใบหน้า มาพร้อมฟองน้ำ Blurring Blender
ที่ออกแบบให้เข้าถึงทุกจุดต่างๆบนใบหน้าโดยเฉพาะ
(clinique.co.th)
_____________________________________________________
แพ็คเกจ
มาในรูปแบบแท่ง มีฝาปิด เปิดออกจะเจอกับฟองน้ำหัวตัด มีความนุ่มปานกลาง ใช้เพื่อเกลี่ยเนื้อคอนซีลเลอร์ได้ หัวแปรงเป็นหัวตัด ออกแบบเพื่อให้เข้ามุมต่างๆของใบหน้า
กลิ่น
ไม่มีกลิ่นเหมือนรองพื้น
เนื้อสัมผัส
มีความยืดหยุ่นสูงมาก ไม่แห้งไว เกลี่ยง่ายสุด
ความรู้สึกหลังใช้
ตอนที่ลองเราไม่ค่อยมีสิวแล้วค่ะ สิวได้แห้งยุบตัวไปแล้ว จะเหลือรอยดำ รอยแดง จากผิว และจากสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอในบางจุด ด้วยความที่เลือกสี 65 มาจะเข้มกว่าการลงใต้ตา หรือปิดสิว เนื้อมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นดีมาก แบบเอาจริงๆคือเกินคาดเลยค่ะ แปรงที่เป็นหัวตัด ออกแบบมาใช้ง่ายมาก เราชอบใช้นิ้วมากกว่าในการเกลี่ย หรือจะใช้ฟองน้ำที่มีมาให้ด้วยก็ได้ค่ะ ด้วยความที่เกลี่ยง่าย การเกิดคราบเราไม่เจอเลย (แนะนำควรบำรุงให้ตาให้ชุ่มชื้นมาก่อน) ยกเว้นบริเวณที่สิวลอก ต้องระวัง ส่วนการปกปิด เราให้ปานกลาง ต้องมีย้ำในจุดรอยสิวที่ฝังลึก ความติดทนปานกลาง คืออยู่ได้เกินบ่ายแน่นอน
Finish Look!
โดยภาพรวมของรองพื้น คอนซีลเลอร์ตัวใหม่ในปี 2021 ของClinique Even Better เราพอใจในผลลัพธ์ที่ได้ ช่วยให้ผิวดูสมูธขึ้น การปกปิดให้งานผิวแบบธรรมชาติ ทั้งนี้ก็สามารถบิ้ลเพิ่มได้ ความคุมมันให้ปานกลางกลาง อย่างที่บอกว่าเขามาเพื่องานผิวโดยเฉพาะ แต่ซับความมันออกก็ได้ฟินิชผิวที่จริงไปอีกแบบค่ะ การใช้งานและการออกแบบมาเพื่อความสะดวกจริงๆ ทั้งนี้ผลลัพธ์การใช้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะคะ แนะนำว่าก่อนแต่งหน้า
เราควรเตรียมผิวให้ดีก่อนค่ะ เพราะส่งผลต่อการใช้เมคอัพจริงๆ ^^
*มีภาพระหว่างใช้รองพื้น คอนซีลเลอร์ ถ่ายสดๆจากกล้องมือถือ ถือว่าความติดทนจนถึงเย็นผ่านอยู่ค่ะ และมีติดแมสก์นะคะ เป็นปกติของรองพื้นเลย