จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงKisaa BB Semi-Matte VS Laneige Neo Cushion Matte
หลายคนอาจจะรู้จักคุชชั่นตลับเขียวของ Laneige กันดีอยู่แล้ว ว่าเป็นสูตรแมตต์ ให้การปกปิดที่ดีเยี่ยม เบลอรูขุมขนได้ดี ติดทนยาวนานตลอดวัน ไม่ทำให้ผิวหมองคล้ำลง ที่สำคัญให้ฟินิชงานผิวที่สวยเป็นธรรมชาติอีกด้วย สีที่มิ้วใช้คือเบอร์ 21 ค่ะ แต่ก่อนจะไปเปรียบเทียบกัน มิ้วขอพามาทำความรู้จักกับเจ้า Kisaa BB Semi-Matte ซองสีดำซองนี้กันก่อน
Kisaa BB Semi-Matte มิ้วไปเจอมาในเซเว่นแถวบ้านนี่แหละค่ะ นางเป็นบีบีครีมเนื้อกึ่งแมตต์ ให้การปกปิด แต่ยังคงความบางเบา มาพร้อมนวัตกรรม Neosticker ที่ช่วยเคลือบผิว กระจ่างแสง เปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ มีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกกุหลาบ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และทำให้ผิวกระจ่างใส และไฮยาลูรอนิค แอซิด, คอลลาเจน, วิตามินซี และกลูต้าไธโอน ช่วยให้ผิวเรียบเรียน สุขภาพดี มาพร้อม SPF50 PA กันแดดได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี แถมยังควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี ใช้ได้กับทุกสภาพผิวค่ะ
รู้จักเจ้าตัวนี้กันไปคร่าว ๆ แล้ว คราวนี้เราก็ลองมาเปรียบเทียบงานผิวของทั้งสองตัวกันได้เลย!
Kisaa VS Laneige
สี / เนื้อสัมผัส
สี : ของ Kisaa จะออกโทนเหลืองซึ่งเข้ากับอันเดอร์โทนของสาวไทยมากกว่า ในขณะที่ Laneige จะออกมาโทนชมพู ซึ่งเข้ากับผิวของสาว ๆ ทางฝั่งเอเชียตะวันออก อย่างจีน เกาหลี และญี่ปุ่นมากกว่าค่ะ
เนื้อสัมผัส : Kisaa เนื้อเหลว เกลี่ยง่ายกว่า มีความบางเบากว่า Laneige ที่มีความหนากว่า แต่ให้การปกปิดที่พอ ๆ กันค่ะ
เมื่อทาเปรียบเทียบหน้าของมิ้วทั้งสองฝั่ง ถ้าไม่สังเกตก็คงเห็นว่าแทบจะไม่แตกต่างกันมาก แต่ถ้าดูดี ๆ หน้าฝั่งขวาที่ทา Kisaa สีจะออกเข้มกว่าเล็กน้อย แต่ก็สัมพันธ์ไปกับสีผิวกายของมิ้วเอง ฟินิชผิวให้ความแมตต์ และการปกปิดได้ดี ในขณะที่ Laneige ก็ให้การปกปิดได้ดีเช่นกัน แต่ผิวจะดูสว่างขึ้น และโดดมาทางชมพูอยู่สักหน่อย ฟินิชผิวยังคงมีความวาวที่หน้าแก้มเล็กน้อยตามสไตล์การแต่งหน้าแบบสาวเกา
ทาหน้าทั้งสองฝั่งเสร็จเรียบร้อย เราจะยังไม่คลีนผิวไปในทันที แต่ไปแต่งหน้าต่อ และทำการทดสอบในส่วนอื่น ๆ ต่อไปค่ะ
การคุมมัน
เนื่องจากเป็นคนผิวผสม หน้ามันระหว่างวัน เป็นเรื่องปกติธรรมดาของมิ้วไปแล้ว โดยเฉพาะตามบริเวณทีโซน หลังจากที่แต่งหน้าเสร็จ ส่วนตัวมิ้วรู้สึกว่าทั้ง Kisaa และ Laneige เซตตัวได้เร็ว และให้การปกปิด คุมมันได้ดีพอ ๆ กัน จึงลองใช้กระดาษซับมันมาทดสอบดูในแต่ละชั่วโมงค่ะ
ส่วนตัวมิ้วไม่ได้แยกฝั่งการใช้กระดาษซับมันนะคะ เพราะเท่าที่มองจากตาเปล่า หน้าทั้งสองฝั่งยังคงความติดทนเสมอกัน เรียกว่าชั่วโมงแรก ๆ หน้าผ่องเด้ง ไร้ความมัน และไม่มีทีท่าว่าข้างไหนจะเยิ้มออกมามากกว่ากัน แม้จะผ่านไป 3 ชั่วโมง ก็มีความมันออกมาให้เห็นเพียงเล็กน้อย หรือตอนที่ผ่านไปแล้ว 6 ชั่วโมง แม้จะมีความมันออกมามากขึ้น แต่ก็ถือว่าน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก (เมื่อก่อนในที่นี้ คือตอนที่ยังไม่รู้จักสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวตัวเอง และยังดูแลผิวได้ไม่ค่อยดีค่ะ)
การกันน้ำ
ผ่านการทดสอบเรื่องคุมมันไปแล้ว ขอทดสอบอีกอย่างหนึ่ง ก็คือเรื่องของการกันน้ำค่ะ ลองฉีดน้ำเข้าที่ใบหน้าเยอะ ๆ อย่างที่เห็นในรูป แล้วซับออก ผิวก็ยังดูสวย มีความผ่องเด้งอยู่ทั้งสองฝั่ง ผิวยังคงสวยเนียนเป็นธรรมชาติ เรียกว่าทั้งสองตัวทำหน้าที่กันน้ำ กันเหงื่อได้ดี ไม่ทำให้เมคอัพหลุดในระหว่างวันจริง ๆ เลยค่ะ
------------------------------------------------
จบบริบูรณ์สำหรับการประชันกันระหว่างไอเทมงานผิวสองสัญชาติ แม้ว่าราคาจะต่างกันมาก แต่เขาก็ให้คุณภาพที่ใกล้เคียงกันจริง ๆ อาจจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างในรายละเอียดยิบย่อย เอาเป็นว่าอยู่ที่ใครชอบ และสะดวกแบบไหน ใคร่จะใช้แบบไหนมากกว่ากันนะคะ ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของมิ้วคนเดียว ยังไม่ต้องเชื่อทั้งหมด แต่ลองไปพิสูจน์กันเอง เพราะของแบบนี้อยู่ที่สภาพผิวของแต่ละคนด้วย สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ชมรีวิวกันจนจบนะคะ ไว้พบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่า