จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่าเพื่อนๆทุกคนนนน
วันนี้นัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก Etude มาแนะนำค่า ?
นั่นก็คือออ Etude Double Lasting Cushion ✨
เค้ามีทั้งสูตร Matte & Glow ให้เลือกใช้ตามความชอบเลยค่ะ
แต่ละสูตรจะมีถึง 6 สีให้เลือกเลย
และยังมี SPF50 PA ด้วย
ส่วนตัวนัทใช้สี Sand ที่เหมาะสำหรับผิวประมาณ 23N ค่า
ให้ดูน้องพัฟกันก่อน
พัฟแต่ละสูตรมีขนาดต่างกันนะคะ
แต่ไม่กินเนื้อคุชชั่นทั้งคู่
ตัวพัฟของสูตร Matte จะหนาและนุ่มกว่า
ส่วนสูตร Glow ตัวพัฟจะบางกว่าค่า
พอเปิดแผ่นที่ซีลไว้ ก็จะเจอเนื้อคุชชั่นหน้าตาแบบนี้ ?
มาพูดถึงสีก่อนเลยค่ะ
อย่างที่บอกไปค่ะว่านัทใช้เบอร์ Sand ทั้งสองรุ่นเลย
แต่นัทรู้สึกว่าถึงน้องเค้าจะเป็นเบอร์เดียวกันแต่สีที่ได้ก็ต่างกันนะ
รุ่น Matte สีจะค่อนข้างสว่างรุ่น Glow และสว่างกว่าผิวนัทเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ผิวดูวอก ลอยหรือเทานะคะ
ส่วนรุ่น Glow สีจะพอดีกับผิวของนัทมากกว่าค่ะ
ตัวคุชชั่นก็เซ็ตตัวไวอยู่นะ
แต่ต้องใช้เวลาซักพักกว่าสีจะดรอปแล้วพอดีกับผิวนัทมากขึ้น
( ประมาณ 15 - 30 นาทีได้ค่ะ )
แต่ถึงดรอปแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าทำให้ผิวดูหมองน้า
ส่วน Texture ก็บางเบาเกลี่ยง่ายทั้งคู่เลยค่ะ
แต่รุ่น Glow จะมีความบางเบากว่า
จากที่นัทใช้มาไม่ได้มีปัญหาการลงแล้วเป็นคราบเลย
ให้ฟินิชผิวที่ดู้เป็นธรรมชาติทั้ง 2 สูตรด้วย
รุ่น Matte ก็ไม่ได้ดูแมทจนแห้ง
ยังได้ฟินิชที่ดูเป็นผิวเราอยู่
ส่วนรุ่น Glow ได้ฟินิชผิวฉ่ำน้ำ ดูโกลว์เป็นกระจก เล่นแสงสวยมากๆๆๆๆ
มารีวิวแต่ละสูตรเพิ่มเติมกันดีกว่า
เริ่มที่สูตร Matte กันก่อนเลย
บอกเลยว่านัทเลิ้บสูตรนี้ที่สุดดดดด ?
อยากจะบอกว่าสูตร Matte เค้าเบลอรูขุมขนได้กริบมากๆๆๆๆ
เบลอได้กริบเลยค่ะ มองไม่เห็นรูขุมขนเลย
ผิวเรียบเนียนสุดดด แล้วก็ปกปิดได้ดีมากๆๆๆๆๆด้วย
พวกสิวเม็ดเล็กๆและรอยดำรอยแดงที่ไม่ชัดมาก
ก็สามารถปิดได้มิดเลยประทับใจจริงๆ ?
แต่ถ้าใครมีสิวเม็ดใหญ่ๆ สิวตกสะเก็ดหรือสิวที่แห้งลอก
อาจจะไม่ได้ปิดมิดมากนะคะ
แต่ก็สามารถบิ้วการปกปิดเพิ่มได้
โดยที่ไม่ได้ทำให้ผิวดูหนาเกิน
เพื่อนๆคนไหนที่ผิวแห้งและอยากใช้สูตรนี้
นัทขอแนะนำให้ลงสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนนะคะ
ตัวคุชชั่นจะได้ไม่ไปเกาะอยู่บริเวณผิวที่แห้งลอก
อย่างรูปนี้นัทไม่ได้ใช้คอนซิลเลอร์เลยค่ะ
ลงคุชชั่นทั่วใบหน้า 1 รอบ ทาย้ำบริเวณที่มีรอยสิวบางๆอีกหนึ่งครั้ง
ก็สามารถปิดพวกสิวและรอยสิวได้มิดแล้ว ?
เพื่อนๆชาวผิวแห้งไม่ต้องเสียใจน้า
เพื่อนๆยังสามารถใช้สูตร Matte ได้ค่ะ
แต่ก็ตามที่นัทได้แนะนำไปด้านบนเลยว่า
ควรบำรุงผิวโดยการเติมความชุ่มชื้นก่อนแต่งหน้า
คุชชั่นจะได้ไม่เป็นคราบ
แต่ใครที่ไม่มั่นใจ กลัวใช้แล้วหน้าเป็นขุย
นัทขอแนะนำเป็นสูตร Glow ค่ะ ชาวผิวแห้งใช้ได้แน่นอน
เพราะสูตรนี้เค้าเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย ?
ด้วยความที่สูตร Glow เนื้อค่อนข้างเบากว่าสูตร Matte
เค้าเลยจะไม่ได้เน้นการปกปิดมากนะคะ
แต่ก็สามารถเบลอรูขุมขน
และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นได้ดีเหมือนกัน
ส่วนเรื่องความติดทนและการคุมมัน
ด้วยความที่อาทิตย์ที่ผ่านมานัทไม่ได้ออกไปไหนเลย
อยู่บ้านตลอดแล้วก็อยู่แต่ในห้องแอร์
ก็เลยรู้สึกว่าน้องเค้าก็ค่อนข้างติดทนดี
แต่ถึงจะอยู่ในห้องแอร์
นัทก็รู้สึกว่าระหว่างวันก็มีการหน้ามันเพิ่มขึ้นนะ
แต่ก็ไม่ถึงกับมันเยิ้มหรือคุชชั่นเกิดการไหลมากองรวมกันเป็นชั้นๆ
มีอยู่วันนึงที่นัทลองทาทั้งสองสูตรพร้อมกันเลย
โดยทาฝั่งละ 1 สูตรเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
นัทรู้สึกว่าผิวฝั่งที่ใช้สูตร Matte หน้ามันน้อยกว่าข้างที่ใช้สูตร Glow
นัทเลยประทับใจสูตร Matte มากกว่าค่ะ
และคิดว่าเป็นสูตรที่เหมาะกับการทาไปข้างนอก
และเหมาะกับอากาศเมืองไทยเลย
ส่วนสูตร Glow ถึงเวลาผ่านไปจะทำให้ผิวมันมากกว่า
แต่ก็ไม่ได้ดูมันเยิ้มนะ
สำหรับเพื่อนๆที่ผิวผสมแบบนัทหรือเป็นชาวผิวมัน
นัทแนะนำให้ใช้สูตร Glow ในวันที่อยู่บ้านสบายๆ
หรือวันที่อยากถ่ายรูปแล้วอยากได้ฟินิชผิวสวยๆมากกว่านะคะ
อันนี้คือฟินิชลุคที่นัทใช้สูตร Matte ค่า ?
จากที่นัทใช้มาก็ไม่ได้มีการอุดตันหรือมีสิวขึ้นเพิ่มน้า
อย่างสูตร Matte เองเค้าก็มีส่วนผสมของ
คาลาไมด์ / แพนธีนอล / มาเดคาสโซไซด์และซิก้าที่ช่วยบำรุงผิวด้วย
แต่ยังไงเพื่อนๆก็อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้าทุกคน ?
ใครที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน Etude ทุกสาขา
หรือ Official Store ในช่องทางออนไลน์ของทางแบรนด์ได้เลยนะคะ
สูตร Matte ราคาตลับละ 970 บาท ( แบบรีฟีล 480 บาท )
ส่วนสูตร Glow ราคาตลับละ 890 บาท ( แบบรีฟีล 550 บาท )
แบบรีฟีลเค้าก็จะมีพัฟมาให้เพื่อนๆด้วยน้า
สำหรับกระทู้นี้เพื่อนๆคิดยังไงก็คอมเมนต์มาบอกกันได้น้า
ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่า บ๊ายบาย <3
1 / 2