จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงขอรันวงการความงามที่เข้าแล้วออกยากมาก เพราะมีของเล่นใหม่ ๆ ที่น่าลองน่ารีวิวไปหมดเลยค่ะ อย่างการเลือกสำลีสำหรับเช็ดหน้าก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เลยนะคะทุกคน เพราะว่าที่เราเห็นว่าเป็นสำลีแผ่นสีขาวที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กัน แต่คุณสมบัติแตกต่างกันนะตัวเธอ
อย่างสำลีของ Evergreen ที่เค้าออกไลน์สำลีแผ่นรีดขอบสำหรับเช็ดหน้ามา 2 รูปแบบ ซึ่งทุกคนเคยสงสัยกันมั้ยว่าใช้แตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ แบบ คหสต. นะทุกคนว่าทั้ง Evergreen Silky Smooth และ Evergreen 5-Layers นี้ใช้อะไรยังไง และแบบไหนคือเวิร์กกว่า ตามมาค่ะทุกโคนนน ><
Evergreen Silky Smooth
มาเริ่มกันที่ Evergreen Silky Smooth ซึ่งเป็นสำลีรีดขอบ ที่มีจุดเด่นของทำมาจากฝ้ายธรรมชาติ 100 % รวมถึงใช้เทคโนโลยีแรงดันน้ำจึงทำให้ใยสำลีค่อนข้างแน่น ฉีกขาดยาก แถมยังดูดซับและกระจายน้ำได้ดีเยี่ยม จึงทำให้ผิวชุ่มชื้นในขณะที่เช็ด โดยไม่ทำให้มีขุยติดหน้า สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวบอบบางและแพ้ง่าย เพราะไม่ผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้สารเคมีเลยแม้แต่นิดเดียว
จุดเด่นอีกอย่างของสำลีรีดขอบตัวนี้คือขนาดที่ใหญ่ 5x7 ซม แถมยังหนามาก ๆ จึงเหมาะกับนำมาใช้กับโทนเนอร์ เซรั่มหรือเอสเซนส์ เพราะว่าดูดซับน้ำได้ดี สามารถใช้งานได้สองด้าน ลองใช้แล้วจะรู้สึกว่าประหยัดโทนเนอร์มากขึ้น และเช็ดผิวได้ทั่วถึงมากขึ้น
และด้วยความที่สำลีมันหนามาก ๆ ทุกคน จึงสามารถพลิกอีกด้านแล้วใช้เช็ดอีกครั้งได้ เพราะว่าตอนหยดโทนเนอร์ลงไปบนสำลีนั้น โทนเนอร์ไม่ทะลุไปถึงด้านหลัง เราจึงสามารถหยดโทนเนอร์อีกครั้งแล้วเช็ดลงบนผิวอีกที ผิวหน้าสะอาดเกลี้ยง เตรียมการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้เลย
สรุปหลังจากใช้งาน
ความนุ่มผิว ความประหยัดโทนเนอร์ต้องให้ซิลกี้ สมูทชนะไปเลยจ้ะแม่
เพราะว่าเนื้อสำลีแน่นจริง ดูดซับน้ำได้ดีมากจริง ๆ ใช้แล้วเหมือนผิวได้รับการปลอบโยน
เพราะไม่รู้สึกถึงความระคายเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะทุกคน
ผิวบอบบางแพ้ง่ายอย่างเราก็สามารถใช้ได้
แถมห่อหนึ่งมีทั้งหมด 120 แผ่น ใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือนเลยนะ
นับว่าคุณภาพมากและคุ้มมากเช่นกันจ้า
Evergreen 5 Layer
มาต่อเลยกับสำลีรีดขอบ Evergreen 5 Layer ซึ่งหลายคนมองว่าต่างกับ Silky Smooth อย่างไร โดยสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเลยก็คือ 5 เลเยอร์นี้ได้เพิ่ม นวัตกรรมใยตาข่ายเข้ามาช่วยให้เช็ดคราบเมคอัพที่ติดทนให้หลุดออกง่ายขึ้น รวมถึงในสำลีรีดขอบ 1 แผ่น สามารถแยกออกได้ 5 ชั้นจึงสามารถนำมาทำเป็นแผ่นมาสก์หน้า เช็ดสำอาง โทนเนอร์ได้ตามแต่ใจเราเลยค่ะ
ส่วนคุณสมบัติอื่น ๆ ที่คล้ายกับซิลกี้สมูทก็คือทำมาจากฝ้ายบริสุทธิ์ 100% เช่นเดียวกัน ไม่มีสารเคมี ไม่มีสารเรืองแสงจึงค่อนข้างปลอดภัยกับผิว รวมถึงใช้เทคโนโลยี Water Jet ในการทอสำลี ทำให้ใยสำลีแน่นไม่ฉีกหรือขาดง่าย สามารถซึบซับน้ำเริ่ด โดยเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้
แยกให้เห็นชัด ๆ เลยว่า 5 เลเยอร์ 1 แผ่นสามารถแยกได้ 5 ชิ้นจริง ๆ จึงต้องยอมรับเลยว่าคุ้มค่า คุ้มราคามากที่สุด โดยห่อนึงสามารถใช้ได้หลายเดือนมาก ๆ ยิ่งใครซื้อมาตุนรับรองเลยว่าใช้จนลืมว่าใช้มาแล้วกี่เดือน
กิจวัตรประจำวันของเราทุกคืนคือการมาสก์หน้า เพียงวันละไม่กี่นาทีโดยอาจใช้อโลเวร่าเจล เอสเซนส์หรือน้ำตบเทลงบนสำลี จากนั้นจึงนำมามาสก์หน้าทิ้งไว้ประมาณ 5 - 10 นาที ซึ่งสำลี 5 เลเยอร์นับว่าตอบโจทย์การมาสก์หน้าจริง ๆ เพราะว่า 1 แผ่นสามารถแยกได้ 5 ชิ้น เราจึงสามารถนำ 5 เลเยอร์มามาสก์หน้าได้ทั่วทั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ข้างแก้มทั้ง 2 ข้างได้อย่างสะดวกสบายที่สุด
สรุปหลังจากใช้งาน
ยอมรับเลยค่ะว่าติดใจกับความคุ้มค่าของ 5 เลเยอร์มาก ๆ นอกจากนี้เรายังชอบนำ 5 เลเยอร์มาลบคราบเครื่องสำอางอีกด้วยเพราะด้วยใยตาข่ายด้านหน้าของสำลี 5 เลเยอร์นั้นสามารถลบคราบเมคอัพได้อย่างหมดจด แถมยังนำมามาสก์ผิวหน้าได้เวิร์กมากๆ อีกทั้งยังมอบสัมผัสที่นุ่มละมุนผิว โดยไม่ทำให้เป็นขุย ไม่บาดผิว จึงทำให้สำลี 5 เลเยอร์กลายเป็นลูกรักของเราไปแล้วค่า
โดยทั้งเอเวอร์กรีนทั้ง 2 รุ่นจะใช้งานต่างกัน สำหรับซิลกี้สมูทเรามักจะนำมาใช้เช็ดโทนเนอร์มากกว่า เพราะว่าแผ่นใหญ่ หนานุ่มสามารถใช้ได้ 2 ด้าน ส่วน 5 เลเยอร์มันดีมาก ๆ ที่จะนำมาเช็ดพวกคราบเมคอัพที่ออกยาก ๆ เพราะมีใยตาข่ายที่ช่วยเช็ดเครื่องสำอางโดยไม่ทำร้ายผิว และยังสามารถนำมามาสก์หน้าได้แบบสะดวกสุด ๆ จึงนับว่าทั้ง 2 รุ่นของเอเวอร์กรีน นั้นสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และดีต่อผิวทั้งคู่ แถมยังไม่ทำให้เกิดการแพ้และระคายเคืองอีกด้วยค่ะ