จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่ะ สาวๆ Cosmenet ทุกท่านนะคะ
เป็นการเขียนบล็อกครั้งแรก ผิดพลาดประการใด
ก็ขออภัยด้วยนะคะ ????❤️❤️
สำหรับวันนี้ขอรีวิวน้ำหอม แบรนด์ถูกและดี
ซึ่งพึ่งมีโอกาสได้ลองใช้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะ
ออกคอลเล็กชั่นใหม่มาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส
ได้ลองตัวใหม่ เลยขอรีวิวรุ่นขายดีของทางแบนด์
เขาก่อนนะคะ หวังว่าสาวๆหลายคนจะถูกใจ
หรืออย่างน้อยก็นำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
ที่จะลองซื้อมาใช้นะคะ
สำหรับแบรนด์ที่จะรีวิวนี้นะคะ ชื่อว่า JANUA
ไม่แน่ใจว่าอ่านว่า แจนยัวร์ ถูกต้องหรือไม่
ซึ่งทางแบรนด์เขามี 5 กลิ่นนะคะ แต่อีกกลิ่นพอดีได้ยกให้เป็นของขวัญเพื่อนไป เลยไม่ได้ถ่ายรวมไว้ค่ะ
ตัวบรรจุภัณฑ์ แพคเกจของเขาน่ารักมากๆค่ะ ถือว่าทำมาสมราคา ไม่ก๊องแก๊งเลยค่ะ
ซึ่งกลิ่น น้ำหอม ที่ทางแบรนด์มีนะคะ มี 5 กลิ่น
กลิ่นมีดังนี้ค่ะ
-Wood Sand And Fresh Vibe
-Sexy On The Beach
-Sweetie Picnic
-Flower Shop
-Bonnie Bo
เดี๋ยวจะมารีวิว แต่ละกลิ่นกันนะคะ
• กลิ่น Wood Sand And Fresh Vibe
-Top Notes (กลิ่นแรก) จะเป็นกลิ่นของ Citrus, Bergamot, Italian Lemon ซึ่งเน้นกลิ่น Fruit เป็นกลิ่นนำ
- Middle Notes จะเป็นกลิ่น ของ Floral ดอกไม้
- Base Notes เป็นกลิ่น ของ Vetiver Grass, Mask, Amber กลิ่นของยางไม้ต่างๆ
ซึ่งกลิ่นนี้จะเป็นกลิ่น เฟรซๆ สะอาดๆ สดชื่น ซึ่งมีความเป็น Unisex ใช้ได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง
• กลิ่น Sexy On The Beach
- Top notes ของกลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นของ Pimento, Clementine, และ Cactus Flower ผลไม้ตระกูลส้มผสมกับกลิ่นของดอกต้นตะบองเพชร
- Middle Notes เป็นกลิ่นของ Camellia, Hydrangea, และ Mimosa ซึ่งเป็นกลิ่นของ Floral ดอกไม้ 3 สายพันธุ์
- Base Note จะให้กลิ่น ของ White amber, Musk, Vanilla กลิ่นของยางไม้ผสมกับกลิ่นวนิลา
ซึ่งเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกเซ็กซี่เบาๆ หวานๆอมเปรี้ยวนิดๆ เป็นกลิ่นที่เจ้าของบล็อกชอบมากค่ะ กลิ่นสบายๆไม่ชวนแสบจมูก กลิ่นนี้ละมุนมาก
• กลิ่น Sweetie Picnic
-Top notes เป็นกลิ่นของ Osmanthus, Peach Blossom ซึ่งเป็นกลิ่นดอกไม้โซนเอเชียเป็นกลิ่นแรกที่สัมผัส
- Middle Notes เป็นกลิ่นของ Peony, Wisteria, Green Tea จะเป็นกลิ่น Floral ผสมกลิ่นของชาเขียว
- Base Notes จะเป็นกลิ่นของ Cedarwood, Amber, Musks จะเป็นกลิ่นของเปลือกไม้ ยางไม้ และน้ำมันหอมระเหย
กลิ่นนี้จะให้กลิ่นหอมสดชื่น สปอร์ตๆ กลิ่นค่อนข้าง Unisex ฉีดแล้วให้ความรู้สึกสะอาดๆ สดชื่น เป็นอีกกลิ่นที่หอมมาก
• กลิ่น Flower Shop
- Top Notes จะเป็นกลิ่นของ White Mulberry, Mandarin Essence ซึ่งกลิ่นแรกจะออกเป็นกลิ่น Fruit ผลไม้
- Middle Notes เป็นกลิ่นของ Damascena Rose ess, และ Damascena Rose abs เป็นกลิ่นของดอกกุหลาบมอญ 2 สายพันธุ์
- Base Notes เป็นกลิ่นของ Sandalwood ess, และ Musks ซึ่งก็คือกลิ่นไม้จันทร์ และกลิ่นชะมด
ซึ่งกลิ่นนี้จะให้ความรู้สึกสบายๆ ผ่อนคลาย ออกแนวเฟรชๆอบอุ่นๆ ธรรมชาติๆ เพราะมีกลิ่นไม้หอมและกลิ่นหวานๆของดอกกุหลาบ ซึ่งกลิ่นนี้ใช้ได้ทั้ง ผู้ชายและผู้หญิง กลิ่นมีความเป็น Unisex พอสมควร
• กลิ่น Bonnie Bo
-Top Notes เป็นกลิ่นของ Mandarin, Pear, และ White Peach เป็นกลิ่น Fruitผลไม้หวานๆ
- Middle Notes เป็นกลิ่นของ Jasmine, Lily Of The Valley และ Orchid รวมกลิ่นดอกไม้ 3 ชนิด
- Base Notes สัมผัสกลิ่นสุดท้าย เป็นกลิ่นของ Akigalawood, Sandawood, Vanilla และ Masks ซึ่งเป็นกลิ่นของไม้หอม กลิ่นวนิลา และกลิ่นชะมด
ซึ่งกลิ่นนี้เหมาะกับสาวๆ สายหวาน เพราะตัวกลิ่นนั้นหวานมากๆ เพราะเป็นกลิ่นของดอกไม้ ผสมกับกลิ่นของไม้หอมต่างๆ ฉีดแล้วให้ความรู้สึกคุณหนูผู้ดี สายหวานสุดๆ
หวังว่า รีวิวนี้จะเป็นทางเลือก และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของสาวๆ Cosmenet กันนะคะ
โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าน้ำหอมแบรนด์ไทยถือว่าคุณภาพโอเคเลยค่ะ และกลิ่นก็คือดีมาก แล้วก็หาซื้อง่าย ราคาค่อนข้างน่ารัก สนนราคาอยู่ที่ขวดละ 290 บาท ขนาด 30 ML. ซึ่งคิดว่ากำลังพอดีและพกพาง่ายค่ะ พกติดตัวไปใช้ต่างจังหวัด เข้าฟิตเนส ก็คือพกไปได้ทุกที่ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณสาวๆที่ติดตามอ่านรีวิวกันจนจบนะคะ รอบหน้าจะมารีวิวอะไรต่อ ฝากติดตามนะคะ
อยากไปลองน้ำหอมคนไทยเลย ราคาก็ดี
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ :))
1 / 2