** กระทู้นี้เหมาะกับสาวๆ
ที่อยากปฏิวัติการช้อปเครื่องสำอางจ้า **
สวัสดีคร่า ขอแนะนำตัวซักนิด อิชั้นเป็นผู้หญิงที่คลั่งการช้อปปิ้งมาก
โดยเฉพาะเรื่องความสวยความงาม เรียกได้ว่าสำหรับสกินแคร์ และเครื่องสำอางแล้ว
มีพันหมดพัน มีหมื่นหมดหมื่นจริงๆ555 หลังๆ
เริ่มรู้สึกผิดเลย ลองคิด mission เล่นๆ
ให้ตัวเองโดยการกำหนดเงินในการช้อปแต่ละเดือน มาดู mission เดือนนี้ของเราดีกว่า
กำหนดว่า เข้าวัตสันด้วยเงิน 1,500 บาท
ต้องช้อปให้คุ้มค่าที่สุด เพราะท่องคำ
พี่เกดไว้เสมอว่า“ไฮ
เฮฟ สติ” มาดูดีกว่าว่าเราจะทำได้มั้ย…
มาเริ่มกันที่สกินแคร์ดีกว่า
เดือนนี้เน้นงานผิวเป็นพิเศษ เพราะอากาศเปลี่ยนไปมา ทำร้ายผิวสุดๆ
POSITIF
Phyto Crystal Purifying Cleansing Oil
พอเดินเข้าร้านวัตสันอิชั้นก็พุ่งตัวไปที่โซนคลีนซิ่งก่อนเลย
เพราะเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา หน้าพังค่ะซิสสส เพราะหลังๆ
ชอบใช้
เครื่องสำอางกันน้ำชนิดที่ติดแน่นทนนาน สตรองตลอดวัน แต่พอล้างไม่สะอาด
สิวผด สิวอุดตันนี่มาตรึมค่ะ เลยตั้งใจว่าจะมาซื้อคลีนซิ่งออยล์ เพราะนางล้างเมคอัพกันน้ำได้สะอาดกว่าคลีนซิ่งประเภทอื่นๆ
ไปสะดุดกับเจ้าตัวนี้ นางเป็นคลีนซิ่งออยล์ที่อิชั้นเคยเห็นบล็อกเกอร์เค้ารีวิว และนางก็จัดโปร
ชื้อชิ้นแรกราคาเต็ม ชิ้นที่2 ลด50% โอ๊ยยย ทนไม่ไหว สอยมาสิคะ นางเป็นคลีนซิ่งออยล์อุ่นจากประเทศญี่ปุ่น
มีส่วนผสมของ Crystal oil สกัดมาจากพืชพรรณธรรมชาติหลายชนิด
ที่เด่นๆ คือ Avocado oil และ Royal Jelly (จำได้แค่นี้เด้อ555) นอกจาก ทำความสะอาดได้ล้ำลึกแล้ว
นางยังช่วยเติมความชุ่มชื่น แบบไม่ทิ้งคราบมัน ลดการอักเสบของผิว ลดจุดด่างดำ สิวไม่อุดตัน
ปริมาณ: 60 ml. ราคา:
550 บาท, ชิ้นที่สอง 275 บาท
ต้องบอกเลยว่า
คลีนซิ่งออยล์ตัวนี้แตกต่างจากคลีนซิ่งออยล์ยี่ห้ออื่น เพราะนางเป็นออยล์อุ่น
เวลานวดวนๆ บนใบหน้า รู้สึกอุ่นๆ เปิดรูขุมขน ผ่อนคลายสุดพลัง ความเริ่ดของนางคือ ล้างเครื่องสำอางออกง่ายมาก
โดยเฉพาะเครื่องสำอางกันน้ำ นวดวนๆ แปปเดียวก็หลุดแล้ว ที่ยอมใจอีกอย่างคือ
นางอ่อนโยนมาก ไม่กลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ ถูใกล้ดวงตาได้ ไม่แสบเลย สาวผิวแพ้ง่าย
น่าจะปลื้มเหมือนเรา เวลาใช้เราจะกดออกมา 3-4 ปั้ม
แล้วนวดวนๆ บนหน้าที่แห้ง จากนั้นใช้น้ำพรมทั่วหน้า นวดต่อ เน้นตรงพวกเครื่องสำอางติดทน
พวกกันน้ำทั้งหลาย เนื้อออยล์จะกลายเป็นน้ำนม แล้วก็ล้างออก รู้สึกว่าสะอาด
ไม่ทิ้งความมัน แต่ไม่ถึงขั้นหน้าแห้งตึง ยังมีความชุ่มชื่นนิดๆ โดยรวมดีงาม
ซื้อต่อไหม:
ซื้อวนไปค่ะซิสส! เดี๋ยวจะไปตุนไว้อีก
เพราะเดี๋ยวโปรโมชั่นหมด
ต่อมาคือ อโลเวล่าเจล
เพราะอิชั้นเป็นชะนีที่คลั่งไคล้เจลว่านหางมาก เรียกได้ว่าซื้อบ่อยมาก ลองมาเยอะ
เจอปังบ้าง แป้กบ้าง ตัวนี้ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาหนาหู
ว่าเป็นแบรนด์ที่เจลว่านหางเริ่ดมาก
เจ้าตัวนี้เป็นสูตรเข้มข้นมากที่สุดตั้งแต่เคยใช้มา นางมีส่วนผสมของว่านจระเข้ถึง 99.5%
ใช้ทาหลังออกแดด จะช่วยเรื่องลดอาการผิวไหม้
และเติมความชุ่มชื่นให้ผิว ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้า และผิวกายเลยจ้า
ปริมาณ: 120 g.
ราคา:
149 บาท (ลดราคา อิอิ)
เนื้อเจลใสๆ
แต่เข้มข้นมาก เพราะนางผสมว่านหางจระเข้ไว้เยอะ ตัวนี้เราซื้อเพราะจะพกไปทะเล แต่! ในส่วนของการไปทะเลหน้าฝนนั้น ไม่เจอแดดเลยจ้า เจอแต่มรสุมล้วนๆ555
แต่ก็ใช้ทาก่อนนอน ปรากฏว่า
ปลื้มปริ่มเรื่องความชุ่มชื่นแต่ซึมลงผิวได้เร็ว แต่ไม่โอเคกับกลิ่นเท่าไหร่
เพราะค่อนข้างฉุน นางน่าจะผสมแอลกอฮอล์ สรุปแล้วเราเลยใช้ทาตัว ไม่ทาหน้า
เพราะกลัวจะแพ้ (เพราะเก๊าผิวเซ็นซิทีฟง่ะ)
ซื้อต่อไหม:
ตัวนี้ไม่ซื้อแล้ว แต่อาจจะไปลองสูตรอื่นของนางที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์จ้า
Popco
Facial Charcoal Mask Sheet
ภารกิจต่อมาคือ ตามหามามาสก์ใหม่ๆ
มาลอง เราเป็นคนที่อินกับมาสก์แผ่นมาก เพราะรู้สึกว่า ง่ายต่อการใช้งาน แค่ฉีกซอง
เล้วก็แปะหน้าได้เลย แถมพกพาไปตจว.ก็สะดวกสบาย แล้วก็ไปสะดุดกับยี่ห้อนี้เข้า
เพราะนางวางเรียงรายกันเยอะมาก เท่าที่นับได้ นางมีด้วยกัน 8 สูตร เป็นมาสก์ชาร์โคล หรือถ่านที่ได้จากพืช ชนิดต่างๆ เช่น เปลือกไม้หรือ
ไม้ไผ่ นำไปผ่านการเผา อะไรประมาณนี้แหละ ฮ่าๆๆ ตัวชาร์โคล
จะช่วยเรื่องการดูดซับสิ่งสกปรก และแบคทีเรียที่อุตันในผิวได้ดี
เท่าที่อ่านตัวนี้ทำมาจากธรรมชาติ100% ปราศจากสารอันตรายทั้ง
7 ชนิด โนแอลกอฮอล์ ดังนั้นน่าจะอ่อนโยน ตอบโจทย์ผิวอิชั้น
ดังนั้นสอยค่ะซิส เลือกมาลองก่อน2 สูตร ได้แก่ สูตรAloe
หรือว่านหางจระเข้ที่อิชั้นเลิฟนั่นเอง ตัวนี้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น
ช่วยสมานผิว ลดการอักเสบต่างๆ เหมาะกับผิวอ่อนโยน และCollagen ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ลดการหย่อนคล้อย และกักเก็บความชุ่มชื่น
ปริมาณ: 28 ml. ราคา: 69 บาท ซื้อ 1 แถม 1 (คุ้มเวอร์วังลังการ
เย่!)
เราใช้ไปครบแล้วทั้ง2 แผ่น สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือหน้านุ่มชุ่มชื่นมาก เพราะเค้าให้เนื้อเอสเซ้นส์มาเยอะมาก
เรื่องความขาวกระจ่างใสรู้สึกนิดหน่อย อาจเพราะเราเลือกมาแต่สูตรเน้นเติมน้ำให้ผิว
แอบบอกเวลาจะใช้เราจะเอาไปแช่ตู้เย็นแปปนึง พออาบน้ำเสร็จก็เอามาแปะหน้า
ฟินม๊ากกก ความดีงามอีกอย่างคือ
แผ่นมาสก์สีดำๆ ที่เห็นอยู่เนี่ย พอดิบพอดีกับหน้าเป๊ะ หลายแบรนด์ชอบทำใหญ่เกิน
เวลามาสก์ก็จะรำคาญมาก เราใช้มาสก์ประมาณ20 นาที แล้วดึงออก
จากนั้นตบๆ เนื้อเอสเซ้นส์ให้ซึมเข้าใบหน้า แล้วนอนโลดดด ความดีงามอีกอย่างคือนางเป็นมาสก์เกาหลี
แต่ก็มีภาษาไทยและรูปประกอบชัดเจน เข้าใจง่าย ทำให้ชะนีไม่สับสน ฮ่าๆ
ซื้อต่อไหม:
ซื้อแน่นอน รักความชุ่มชื่นของนาง กำลังจะไปสอยสูตรอื่นมาลองค่ะ
งานผิวก็ผ่านไป
งานเมคอัพก็มีคร่าซิสสส!!
Wet n
Wild Contouring Palette Contour สี Caramel Toffeeพาเลทคอนทัวร์ลูกรักของอิชั้นเอง
พอดีนางหมด เลยต้องมาซื้อ เพราะเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ สำหรับชะนีหน้าใหญ่555 การคอนทัวร์ก็จะทำให้เรามั่นใจยิ่งขึ้น ตัวนี้เป็นพาเลทที่รวมเอาทั้งไฮไลท์
และบรอนเซอร์ไว้ในตลับเดียวกัน
พิกเมนต์แน่นประหนึ่งเคาท์เตอร์แบรนด์ สีของนางเข้ากับผิวเราได้พอดี
ปริมาณ: 12.5 g. ราคา:
299 บาท
รักในความสีชัดของนาง เวลาใช้เราจะเอาสีน้ำตาลมาลบกรอบหน้า
เช่น ข้างแก้ม เหนียง ปีกจมูก ส่วนไฮไลท์จะเอามาใช้ปัดบริเวณโหนกแก้ม กลางหน้าผาก
สันจมูก ช่วยเพิ่มมิติ (ลี้ลับ) ให้ใบหน้า สีไฮไลท์ไม่มีชิมเมอร์นะ ส่วนตัวชอบ
เพราะถ้าวาวมาก จะเหมือนหน้ามันเยิ้ม แต่ที่ไม่เลิฟเท่าไหร่ คือ
เวลาปัดจะเป็นฝุ่นมากไปหน่อย ไม่ค่อยติดทนระหว่างวัน แต่ก็สมกับราคา ถือว่าผ่าน
ซื้อต่อไหม:
ซื้อค่ะ เพราะถูกและดี
in 2
it Gel Stay Waterproof GelLiner Pen สี very black
ชิ้นสุดท้าย
สอยมาเพราะอายไลน์เนอร์หมดพอดี เห็นตัวนี้ราคาถูกดี แถมนางเขียนว่าWaterproof
มีให้เลือก2 สี ดำ กับน้ำตาล
แต่เราเลือกสีดำมาลอง พนักงานแนะนำว่า ตัวนี้เป็นอายไลน์เนอร์เนื้อเจล สีเข้มมาก
เนื้อนิ่ม เขียนง่าย
ปริมาณ: 0.35 g. ราคา
149 บาท
นางเป็นอายไลน์เนอร์แบบดินสอออโต้
ไม่ต้องเหลา หมุนขึ้น หมุนลงได้ ยอมใจเรื่องเนื้อนิ่ม
เราใช้เขียนทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง เขียนง่าย ไม่เจ็บตาซักนิด
เรื่องสีเข้มถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่ส่วนตัวใช้แล้วแพนด้าระหว่างวัน
คิดว่าเรื่องกันน้ำไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเปลือกตาไม่มัน น่าจะรอดจ้า
ซื้อต่อไหม:
ไม่ซื้อแล้วจ้าาาา
มาสรุปค่าใช้จ่ายกันดีกว่า
…
หมดแล้วคร่า
ซื้อมาพอหอมปากหอมคอ เหลือเงินตั้ง9 บาทแหน่ะ อิอิ
ถือว่า ภารกิจเดือนนี้สำเร็จ เอ้า! ปรบมือสิคะ
รออะไร… แต่ก่อนเราเป็นคนที่บ้าช้อปเครื่องสำอางมาก
จนเงินเดือนนี่แทบไม่เหลือ ถือว่าวันนี้มาแชร์วิธีคุมงบในการ
ช้อปแต่ละเดือนในแบบเราล่ะกัน ใครยังไม่เคยลอง ก็เอาไปลองได้นะ ส่วนใครมีวิธีอื่นๆ
ก็มาแนะนำเราได้ วันนี้ไปแล้ว ซียาค่ะ^__^”