ถ้าให้พูดถึงครีมที่เหมาะกับคนผิวแห้งทุกวันนี้ก็ผลิตออกมาวางขายกันให้เห็นเยอะแยะมากมายไปหมด
สรรพคุณก็เหมือนๆกัน นั้นคือทั้งช่วยให้ผิวชุ่มชื่นจริงบ้างไม่จริงบ้าง แบบผิวนุ่ม
ดูอิ่มน้ำ แต่แหมมมม!!
แค่แป๊บเดียวแล้วก็หายไปไม่ได้นุ่มเนียนชุ่มชื่นติดนมนานอะไรขนาดนั้น จริงมั้ยละคะ!?
เราเองก็เสียเงินซื้อมาทิ้งไปหลายขวดเลย
จนกับตัวปัจจุบันที่เราใช้อยู่ก็คือตัววาสลีนสีเหลืองที่ช่วยเรื่องทำให้ผิวเราชุ่มชื่นเหมือนกัน
แล้วแอบเห็นมีตัวใหม่ล่าสุดออกมาของนีเวียเป็นออยล์อินโลชั่นเค้าบอกว่าช่วยบำรุงผิวแห้งให้กลับมาชุ่มชื้นได้นานขึ้น
เดี๋ยวเรามาลองดูกันว่าระหว่างโลชั่นตัวเก่ากับตัวใหม่
ตัวไหนจะได้เข้ารอบต่อไปจนอยากใช้ต่อกันบ้างและนี้ก็คือโฉมหน้าของโลชั่นตัวเก่าของเรา
Vaseline
Total Moisture Nourishing Lotionและโลชั่นตัวโปรดน้องใหม่ที่เรากำลังโปรดปรานอยู่ตอนนี้
Nivea
Oil In Lotion Cherry Blossomค่ะ
ซึ่งลักษณะขวดของวาสลีนจะเป็นขวดสีเหลือง
ส่วนนีเวียจะเป็นขวดสีม่วง เป็นโลชั่นแบบOil
In Lotionและมีรูปเป็นดอกไม้สีชมพูแลดูเหมือนซากุระเบาๆ
เริ่มกันที่โลชั่นตัวโปรดตัวใหม่กันก่อนเนอะ
กับNivea
Oil In Lotion Cherry Blossomขนาด
400ml.ราคา 185 บาท
เค้าบอกว่ามีความพิเศษคือให้ผิวนุ่ม สดชื่นดูมีชีวิตชีวา
พร้อมบำรุงให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่ง นุ่มเด้ง สดใส แถมให้กลิ่นหอมละมุน สดชื่น
รู้สึกมีชีวิตชีวาแบบเฟรช ๆ อีกด้วยค่ะคุณๆ ทั้งหลายยย
ต่อกันที่ Vaseline Total Moisture Nourishing
Lotion ขนาด
350ml. ราคา 169 บาท
เป็นสูตรช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้านอย่างล้ำลึก เพราะมีไมโคร-ดรอปเล็ตของวาสลีนเจลลี่
ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นตลอดวัน บำรุงอย่างล้ำลึกและทำให้ผิวชุ่มชื่นตลอดวัน
ซึมเร็ว จึงไม่ทำให้เหนอะหนะตัว
มาถึงเนื้อโลชั่นกันบ้าง
เนื้อของนีเวียจะมีความบางเบา เหลว ๆ รู้สึกถึงความฉ่ำ
เพราะมีน้ำมันสกัดบำรุงผิวผสมอยู่ด้วย
ส่วนเนื้อของวาสลีนจะมีความข้นคล้ายโลชั่นผิวแห้งทั่วไป
พอลองเกลี่ยลงบนแขนแล้วจะเห็นว่า
Nivea
จะเกลี่ยง่ายมาก เบาสบาย ไม่หนืด
ซึมเข้าผิวได้ค่อนข้างเร็ว ที่สำคัญคือกลิ่นหอมแบบสดชื่น เฟรชๆฟินๆ
ไปอีกก 55555
ส่วน
Vaseline
จะเกลี่ยยากกว่านิดนึง มีความเหนอะเบาๆ หลังเกลี่ยเสร็จ
ซึมเข้าผิวช้ากว่า และต้องใช้เวลาเกลี่ย ๆทา ๆ อยู่แป๊ปนึง
มีกลิ่นหอมนะคะ แต่ส่วนตัวชอบกลิ่นของ
Niveaเพราะสดชื่นกว่า
ต่อไปเราจะเปรียบเทียบให้เห็นกันไปเลยว่าตัวไหนซึมไวกว่ากัน
ซึ่งจะทดสอบโดยการฉีกกระดาษโรยเป็นแผ่นเล็กๆ ลงบนผิวที่ทาโลชั่นไปจะเห็นว่า
Nivea
จะซึมไวกว่าและไม่ทิ้งความเหนอะผิว
โดยในภาพมีเศษกระดาษเหลืออยู่ไม่กี่ชิ้นเองแกรร
ส่วน
Vaseline
ด้วยความที่เนื้อครีมมีความข้นกว่า
จึงอาจทำให้ซึมเข้าผิวช้ากว่า
และทิ้งความเหนียวอยู่เลยทำให้มีกระดาษติดอยู่เยอะกว่าค่ะ
สรุปเลยนะคะ
เราขอเทใจไปฝั่งNivea ตัวใหม่ที่เพิ่งไปสอยมา
เพราะจากการใช้ทั้ง 2 ตัวแล้ว ก็รู้สึกถึงความชุ่มชื่นพอๆ กันแหละค่ะ
แต่ครีมของวาสลีนจะซึมเข้าผิวช้ากว่าเลยทำให้มีความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะอยู่บ้างตอนช่วงแรกหลังจากทาไป ส่วนของนีเวียเนื้อครีมทาง่ายซึมเร็วไม่เหนียวจนทำให้รู้สึกหนักผิว
และกลิ่นยังรู้สึกเฟรช หอมแบบธรรมชาติดีกว่าด้วย พอลองทาไปแล้วผิวดูเนียน
ดูผิวนุ่มชุ่มชื้นกว่าจริง ใครยังไม่มีโลชั่นคู่กายคู่ใจเราขอแนะนำตัวนี้เลยจ้า