สวัสดีค่ะ สาวๆ
หลังจากที่ห่างหายไปนาน ช่วงที่ผ่านมาเราเจอกับภาวะหน้าแห้งหนักมาก
เลยต้องเสาะหาสกินแคร์ที่เหมาะกับหน้าอย่างจริงจังเปิดหารีวิวอย่างหนักหน่วง ใครว่าดีก็ไปตามล่าซื้อมาลองอยู่หลายแบรนด์เลย
แต่ก็ใช้ยังไม่เห็นผลมากนัก บางแบรนด์ใช้ก็แพ้ จนในที่สุดเราก็เจอClarins ที่ดีต่อใจสำหรับผิวแพ้ง่ายแบบเรามาค่ะ ใช้แล้วหน้าค่อยๆดีขึ้น ไม่เป็นขุ๋ย
ดูชุ่มชื่นขึ้น แต่งหน้าก็ติดง่าย ใช้ไปใช้มาก็ซื้อเพิ่มเรื่อยๆ
ตอนนี้เลยมีเต็มบ้านเลย บอกได้คำเดียวค่ะว่า เริ่ดมาก...ใช้ดีบอกต่อในคร่านี้แหละ ไม่รอช้ามาดูกันดีกว่าค่ะ
ว่ามีตัวไหนกันบ้าง
เราเห็นมีแต่คนแนะนำตัวนี้เลยไปลองซื้อมาใช้บ้างไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ
เนื้อเซรั่มจะเป็นแบบแยกน้ำกับน้ำมันแต่พอปั๊มออกมาก็จะผสมกันพอดี ตอนแรกนึกว่าทาแล้วหน้าต้องมันแน่ๆ
ปรากฎว่าซึมเร็วและไม่ทำให้หน้ามันค่ะ แต่จะรู้สึกเด้งๆ (ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าว
อิอิ) ส่วนกลิ่นของตัวเซรั่มก็ไม่ฉุนจนแสบจมูกกำลังพอดีเหมือนดอกกุหลาบแห้งๆเลย
เซรั่มตัวนี้ช่วยในเรื่องริ้วรอย จุดด่างดำค่ะ ใครที่เริ่มมีริ้วรอยตามหา
แนะนำให้สอยตัวนี้มาลองใช้เลยค่ะ เราใช้มาเกือบ2 เดือนละ
ริ้วรอยและจุดด่างดำค่อยๆจางลง รูขุมขนกระชับขึ้น หน้าดูเนียนๆใสๆ ไม่แต่งหน้ายังรู้สึกว่าหน้าไม่โทรมเลย
(มโนว่าสวยแบบธรรมชาติ อิอิ)
ตัวที่สองClarins lift-Affine Masque Intensif V-facial
intensive wrapช่วงนี้กินเยอะเป็นพิเศษ ก็เป็นคนenjoy eatingอ่ะเนอะ ฮ่าๆ เหนียงก็ถามหา มาแบบไม่บอกกล่าวกันเลย-.-ต้องหาตัวช่วยล่ะทีนี้
ในเมื่อClarinsมีครีมช่วยให้หน้าV shapeได้ ก็ไม่รีรอที่จะไปตำมาอีกสักกระปุก ตัวนี้เป็นครีมมาร์คหน้าที่ช่วยในเรื่องของการลดอาการบวมน้ำ
ยกกระชับเข้ารูปและยังช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินได้อีกด้วย เนื้อครีมมันจะเหมือนมูสหน่อยๆ
วิธีใช้ก็พอกให้ทั่วใบหน้า เริ่มจากโหนกแก้มลงไปถึงกลางลำคอ เว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้
10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หลังจากล้างหน้าแล้วรู้สึกได้เลยว่ามันดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้จริง
ดูหน้าสดชื่นขึ้น และในส่วนของความบวมน้ำนั้นแอบรู้สึกว่าหน้ามันกระชับขึ้นนิดนึง
เข้ารูป
เราจะชอบใช้ตอนที่นอนน้อย(+กินเยอะ)แล้วหน้าบวมค่ะ ถือว่าเป็นตัวช่วยลดหน้าบวมได้ดีทีเดียวค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
ตัวที่3เป็นClarins Treatment Essence พออายุเข้าเลข3แน่นอนละต้องหาสกินแคร์ที่ช่วยให้ผิวดูเด็กลงอย่างเร่งด่วน ก็มาเจอเจ้าน้ำตบตัวนี้
ที่เป็นAnti-agingซึ่งเป็นตัวแรกที่ใช้ก่อนที่จะบำรุงตัวอื่นๆ
เพราะTreatment
essenceนี้เป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับทุกการบำรุงที่ล้ำลึก ผิวจึงดูชุ่มชื้นและความกระจ่างใสขึ้นทันตา ตัวนี้ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เราใช้ทาก่อนนอน
พอตื่นมาแล้วรู้สึกหน้าชุ่มชื่น นุ่มและหน้าใสขึ้นค่ะเหมือนได้รีบูสหน้าใหม่อีกครั้ง
ตัวที่4 และ5ที่ขาดไม่ได้เลย คือClarins Hydra Esentiel Moisturizers and quenches
light creamและClarins hydra essential bi-phase serumแนะนำให้ใช้ควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เป็นตัวล่าสุดออกใหม่ที่พึ่งไปตำมา ลองใช้มาเกือบเดือนละค่ะ
เลิฟมากจริงๆ เพราะเราพึ่งกลับมาจากญี่ปุ่นด้วย หน้านี่แห้งลอกเป็นขุยเลย
พอได้ใช้แค่2 วันผิวหน้าก็กลับมาเป็นปกติล่ะค่ะ
รู้สึกคุ้มค่าที่ตัดสินใจซื้อมา ความพิเศษของตัวนี้ก็คือมีสารสกัดอย่างLeaf
of Life เป็นพืชที่มีคุณสมบัติช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิวได้ดีขึ้นและที่น่าสนใจคือไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและพาราเบนค่ะผิวแพ้ง่ายใช้ได้
ปลอดภัยหายห่วงค่ะสำหรับเซรั่ม เนื้อเซรั่มจะออกสีฟ้าอ่อนๆ ก่อนใช้ให้เขย่าทุกครั้งเพื่อให้เนื้อเซรั่มเข้ากันก่อนใช้นะคะ
เราใช้ประมาณ2 ปั้มแล้วก็มานวดวนๆลงใบหน้า
จะรู้สึกเย็นๆเฟรชๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเร็ว รู้สึกเลยว่าหน้านุ่มขึ้น
ชุ่มชื้นสุดๆรับรองผิวจะดูอิ่มเอิบ
สดใสทั้งวันสำหรับครีม ตัวเนื้อจะนุ่มๆเนียนๆเนื้อบางเบามาก
กลิ่นหอมอ่อนๆ ซึมเร็วไม่หนักหน้าและรู้สึกเลยว่าผิวเรามันชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ
ไม่ทำให้ผิวมันขึ้นนะคะ คนหน้ามันก็ใช้ได้นะจ๊ะ ยิ่งใครที่ทำงานอยู่ห้องแอร์บ่อยๆ
หรือ ต้องเดินทางข้างนอกเจออากาศร้อนๆผิวก็สูญเสียความชุ่มชื้นได้เหมือนกันนะคะ เราจะทาเซรั่มก่อนแล้วตามด้วยครีมนะคะ
บอกเลยค่ะว่า2ตัวนี้รักสุดๆ
เพราะว่าเรามีปัญหาผิวแห้ง หน้าแห้งเป็นประจำเลยทำให้ดูโทรมแต่งหน้าไม่ค่อยติด
พอได้ใช้เห็นชัดเลยว่าแต่งหน้าติดง่ายสบายหายห่วงไม่ต้องพอกหนา
เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น ออกไปทำงานสวยๆได้อย่างมั่นใจต้องไปตำตัวนี้มาเลยค่ะ ตัวแม่เรื่องชุ่มชื้นเลย
ตัวสุดท้ายClarins eclat minute
บำรุงผิวหน้าแล้วก็ไม่ลืมบำรุงริมฝีปากนะคะ
จะปล่อยให้หน้าสวยแต่ปากแห้งได้ไง อะ เอาตัวนี้ไปเลยค่ะClarins eclat minuteเป็นลิปสติกบำรุงริมฝีปากที่มีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์,มะม่วง,สารสกัดมะกอก,วิตามิน A&Eและสีสำชมภูก่อนๆ
จะทาทีเดียวหรือจะทาทับลิปสติกที่ใช้ประจำก็ได้ ก็จะดูวาวๆ ฉ่ำๆ ออกลุคสาวหวาน
ปิดท้ายด้วยสภาพผิวหน้าที่ชุ่มชื่นและอวบอิ่มของเราละกันนะคะ
ถ้าใครมีปัญหาหน้าแห้งขาดน้ำ
ต้องการฟื้นฟูหน้าเหมือนเราก็ลองหามาลองใช้กันดูนะคะ Clarins
ถึงราคาจะสูงไปหน่อยแต่ก็คุ้มค่าแก่การลงทุนค่ะ^^
ขอบคุณค่ะ