ก็ต้องใช้อะไรที่เป็นลาเวนเดอร์นี่แหละ
ขอพื้นที่ให้แชร์คำคมและส่งต่อความหวานอย่างต่อเนื่องนิดนึง ><
และถ้าช่วงนี้ถ้าสังเกต แทบทุกไอเท็มที่เป็นskin careมีสูตรลาเวนเดอร์เกือบทุกแบรนด์
นอกจากเป็นปีของสีม่วงแล้ว ปีนี้ยังเป็นปีของลาเวนเดอร์ด้วยจริงๆ
มาแรงอย่างต่อเนื่องไม่หยุดแบบนี้
ล่าสุด แบมม์ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องผายมือยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ห้องน้ำไปเรียบร้อย
กับLux Lavender Lush
เล่าก่อน ว่าก่อนหน้านี้ แบมม์เคยได้ใช้แชมพูของเค้ามาแล้ว
Lux Luminiqueที่เป็นสูตรDamage repairกลิ่นผลไม้ปรากฎว่ากลิ่นหอมมากๆ
ติดผมทั้งวันจริงๆคนรอบข้างชมตลอดว่าใช้ของอะไร ปลื้มไง เลยอยากให้คนถามอีก55555555
นี่เลยเป็นหนึ่งในการตัดสินใจใจที่แบมม์อยากลองครีมอาบน้ำของเค้าเหมือนกัน
อยากรู้นักว่าจะหอมเหมือนกันแค่ไหน
ก่อนจะไปใช้ เราไปทำความรู้จักให้มากขึ้นอีกนิดดีกว่าสำหรับสูตรลาเวนเดอร์ลัช
นางเป็นลูกครึ่งนะเพราะมีทั้งกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ ที่ส่งตรงมาจากดินแดนทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุดในโลก
เมืองโพรวองค์ ประเทศฝรั่งเศสและยังมีกลิ่นซิตรัสจากประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
(ไปเปิดกุ๊กเล่มา เค้าบอกว่าซิตรัสเป็นกลิ่นในผลไม้เปรี้ยวๆ
ซึ่งหน้าทีหลักของมันเลยคือช่วยบำรุงผิวพรรณ)
เอาซิ ความหอมตัวแม่มาอยู่ในมือขนาดนี้
ไม่หอมให้มันรู้ไป๊!
ส่วนสีของเนื้อครีมจะเป็น สีม่วงมุกอ่อนๆ แบบนี้ไม่ข้นและไม่เหลวมากแค่กดออกมาเองนะ
กลิ่นของลาเวนเดอร์ยังส่งกลิ่นหอมมากๆ
ดูแพง ละมุน ควรค่าแก่ผู้หญิงมากจริงๆ
รับรองว่า ช่วงเวลาอาบน้ำของเราจะเปลี่ยนไปดูฟองโฟมสิ
ขนาดไม่ได้ใช่ฟองตาข่ายช่วยตีโฟมความนุ่มของโฟมยังละเอียดมากๆ
แทบจะละมุนเป็นเนื้อวิปครีมเลยยิ่งแตะลงไปกับผิว ยิ่งมีความนุ่มสุดๆๆๆๆ
แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความฟินในช่วงเวลาพักผ่อนแบบนี้
แนะนำว่าให้ใช้ใยตาข่ายช่วยจะยิ่งได้โฟมนุ่มฟูขึ้นไปอีก
ส่วนกลิ่นหอมบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะว่านางส่งกลิ่นหอมยวนสะกดฟุ้งไปทั่วห้องน้ำเลย
.
หลังจากอาบน้ำโดยใช้ครีมอาบน้ำตัวนี้นอกจากความหอมและความฟูของโฟมที่หลงรักแล้ว
เรายังรู้สึกเฟรช
สดชื่นจากกลิ่นของซิตรัสด้วยแถมหลังจากอาบน้ำเสร็จ
สังเกตได้ทันที
ว่าผิวของเรายังเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นอีกด้วยไม่ผิดหวังแบบนี้
แนะนำเลยว่าทุกคนควรจะไปลองตำโดยเร็วเพราะเห็นว่าเค้ามีจำนวนจำกัดแค่ summerนี้นะ
ส่วนครั้งหน้า ถ้ามีไอเท็มอะไรเด็ด
#ของมันต้องมี อีกแบมม์จะเอามารีวิวฝากกันนะคะ
วันนี้ไปแล้ว จุ้บๆ