จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
ฮายฮายยย สวัสดีจ่ะสาว
วันนี้หิ้วเรื่องเหลาใหม่มาฝาก ก็นอกจากหน้า นอกจากผิวแล้วเนี่ย
สาวๆอย่างเราก็มีอีกอย่างแหละที่ต้องดูแลอยู่ตล๊อดตลอดดด
นั่นคือ คื๊อออออ คื๊อออออออออออ......ผม!!!!!!
และ ด้วย ความ ที่!!! ตัวเองเป็นสาว Graphic อะนะ หายใจเข้าออกก็เป็น AI ไม่ก็ PS
งานรัดตัวมาก ทั้งงานนอกงานในทำหมด บางทีเออีลากไปขายงานลูกค้า ณ เดี๋ยวนั้น
เวลาดูแลตัวเองก็มีน้อยเหลือเกินพี่จ๋า อย่าว่าแต่หน้าตาไม่มีเวลาจะแต่ง ผมนี่หนักเข้าไปใหญ่
ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลย หน้าก็เริ่มโทรม ผมก็เริ่มเสีย
ยิ่งร้านทำผมไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่คิดจะตัดผม นานมากๆ กว่าจะได้เข้าร้านแต่ละที 55555
ออกจากบ้านแต่ละทีผมก็ดื้อสุด บางทีแต่งออกมาซะงามแต่โดนลมเสยทีก็จบเห่เรียบร้อยโรงเรียนแพรว
ความมั่นใจหายไปเลย 50%
ยิ่งอากาศตอนนี้ก็เดาใจไม่ถูก เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน คันศีรษะแต่ละที
รังแค ก็โผล่มาเซฮายยย บวกกับอยู่ในช่วงแพ้ครีมย้อมผม คุณแพะแย่มาก!
แต่จุดเปลี่ยนที่ต้องทำให้ต้องหันมาดูแลผมแบบจริงจังคือ เป็นรังแคนี่แหละ!!
วันไหน ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม ตาย! รังแคตกมาเห็นบนไหล่ชัดเลย ปล่อยผมก็ไม่ได้ รวบผมก็ไม่ได้!
แค่แต่งหน้าให้ดูดีกลบมันไม่พอไง ก็เลยต้องหันมาดูแลผมของเราแบบจริงจัง
วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ 5 วิธี ที่แพรวได้ลองมาทั้งหมดด้วยตัวเอง โนสปอนเซอร์จริงๆ
เป็นวิธีที่ลองแล้วทำให้ผมสวย สวอน แบบช่างมืออาชีพ ไม่ต้องง้อร้าน! ไปเริ่มกันเลย
วิธีที่ ที่ ที่ หนึ่ง
ถ้าไม่อยากมีรังแค ก็ต้อง… “ใช้แชมพูขจัดรังแค”
เป็นวิธีที่ง่ายแสนง่ายเลย หาซื้อได้ไม่ยากด้วย จริงๆ มีแชมพูขจัดรังแคหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อมากๆ
ขึ้นอยู่กับว่าสาวคนไหนถูกใจกับคุณคนไหนไม่ว่ากันโน้ะ
ที่ผ่านมาปกติแล้วเป็นคนไม่ได้ใช้แชมพูขจัดรังแคเลย เพราะคิดว่ามันไม่สำคัญอะไร
ใช้แชมพูปกติไปก็ได้มั้ง แต่ที่ไหนได้พอเป็นรังแคจริงๆ แชมพูปกติใช้ยังไงสำหรับเราก็ไม่หาย
เลยใช้ดูคิดว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายสุดแล้วงี้ อีกอย่างแชมพูขจัดรังแคเค้าเกิดพาเพื่อบำรุงหนังศีรษะโดยเฉพาะ
ก็เอามาสระผมปกติแหละ เราสระผมวันเว้นวันน่ะ สระทีก็เกาเบาๆไป 2 รอบ จะได้สะอาดสบายหัว
ใช้มาเรื่อยๆ น้องสโนว์ก็ลดลงกว่าเดิม ผมนุ่มด้วย ความมั่นใจกลับมามากขึ้น ช้อยโล่งใจ
วิธีที่ สองงงง “ใช้ทรีทเม้นต์แทนครีมนวด หมักทิ้งไว้ 15 – 30 นาที”
วิธีนี้ค่อนข้างใช้เวลานิดนึง คือเราเอามาใช้แทนครีมนวดไปเลยจ้า
แต่ก็ทำให้เพิ่มเวลาอาบน้ำมากขึ้นด้วย เพราะเราหมักไว้นานกว่าที่เคยใช้ครีมนวด รวมๆประมาณ 15-30 นาที
แต่บางคนก็สะดวกหมักหลังสระผมเสร็จ อันนี้แล้วแต่คนว่าจะโดนใจแบบไหนละกัน
ส่วนตัวไม่ได้หมักทุกครั้งที่สระผม เพราะว่าบางทีติดนิสัยรีบ
ก็จะแบบอาทิตย์ละ 2 วันงี้ >< เราเด็กเกเร
ทรีทเม้นต์สมัยนี้ก็มีให้เลือกใช้อยู่เยอะแยะ แต่อันนี้เราแย่งพี่มาใช้
พอได้ใช้แล้วความรู้สึกที่ใช้ทรีทเม้นต์ค่อนข้างต่างจากครีมนวดมาก
อย่างทรีทเม้นต์จะมีความบำรุงล้ำลึกลึกซึ้งซับซ้อนกว่าอยู่แล้ว
ลองครั้งแรกแล้วจับได้เลยว่าผมนุ่มขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย
ก็ใช้มาเรื่อยๆ เราว่าสภาพผมเราดีขึ้นนะ มีน้ำหนัก ไม่แห้งกรอบเหมือนเดิม
เปลี่ยนใจจากครีมนวดมาใช้ทรีทเมนต์แทนแล้วล่ะ เราว่าวิธีนี้ดีย์
แต่สำหรับสาวสายรีบก็ค่อยๆลองใช้ในวันที่มีเวลาแล้วกันโน้ะ
ส่วนตัวเราเองไม่ได้สระผมทุกวันเพราะจะทำให้หนังศีรษะยิ่งแห้งแหละ อย่างมากก็วันเว้นวันจ้าจ้า
วิธีที่ สามมมม “ไม่ใช้ไดร์เป่าผม แต่ใช้เป็นผ้าเช็ดผมซับผมจนหมาด และปล่อยให้เป็นธรรมชาติ
ปกติเป็นคนติดไดร์เป่าผมมากกกกกกก จะยังไงจะไปไหนก็ต้องไดร์ทุกครั้ง
แม้กระทั่งหลังสระผม ก็ไม่เคยรอให้ผมแห้งเองเลย ด้วยความที่ไม่มีเวลา อยากให้ผมแห้งไวไว
นี่ไงยิ่งทำให้ผมเราแห้งแบบโดนจับได้เลย โถ่ชีวิต สงสารคนที่เกิดเป็นผมตัวเองเลยค่ะ
เลยลองเปลี่ยนให้ผมแห้งเองดู ค่อยๆเอาผ้าขนหนูเช็ดให้ผมหมาดๆ แล้วไปนั่งหน้าพัดลมให้ลมเย็นๆเป่าผม
แต่ด้วยความที่เราเป็นคนเกเรรีบร้อนอีกนั่นแหละ บางครั้งย้ำย้ำว่าบางครั้งเราก็แอบใช้ไดร์อยู่เหมือนกัน
เปลี่ยนจากลมร้อนเป็นลมเย็นแทนแหละ แต่วิธีนี้เราจะรอให้ผมหมาดๆ ก่อนแล้วค่อยไดร์ต่อ
ไม่ชอบที่แบบพึ่งออกมาแล้วไดร์เลย รู้สึกสงสารผมตัวเอง อะไรช่วยนางได้ก็ช่วยไป ><
แต่เลี่ยงได้จะดีมากจ้า
วิธีที่ สี่ “บำรุงผมด้วยเซรั่มหลังสระทุกครั้ง”
อันนี้ทั้งง่ายทั้งดีย์ เหมาะมากๆสำหรับผมคนทำสี ดัด หรือหนีบผมบ่อยๆ จนทำให้ผมแห้งเสีย (แบบเรา)
เซรั่มตัวนี้ก็ได้มรดกมาจากพี่สาวอีกทีนั่นแหละ นางใช้ไรเราใช้ด้วยข่าาาาา
แต่จ่ะแต่ เซรั่มมีไว้ใช้ที่ส่วนกลางลงไปถึงปลายผมนะจ้ะ หยดนิดเดียวก็ทั่วผมแล้วล้าาาาา
เซรั่มจะมาช่วยเคลือบผมจากการเปราะขาด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมของเรา
และทำให้จัดทรงง่ายมากขึ้นนนนน
เราใช้ทุกครั้งหลังสระผมเลย เซรั่มใช้ได้ทั้งตอนผมเปียกและผมแห้ง
แล้วแต่สาวคนไหนสะดวกแบบไหนอีกนั่นแหละ สำหรับเราเราใช้ตอนผมหมาดแล้วก็ลูบๆไป
กู้ให้ผมกลับมาแข็งแรงขึ้นกว่าเก่า แต่ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอด้วยน้าาาา
ต่อไปวิธีสุดท้ายล้าวววว “ดีท็อกซ์ผมเดือนละ 1 ครั้ง (เหมาะสำหรับคนทำสีผม หรือผมโดนสารเคมีมา)
แก๊ เดี๋ยวนี้มีไอเท็มดีท็อกซ์ได้เองทีบ้านแล้ววววว
สำหรับคนที่ไม่มีเวลาเดินเข้าร้านทำผมอย่างเราที่แท้ทรูเลย
ส่วนตัวเราเป็นคนผมทำสีแต่สีไม่ได้แรง และมีดัดผมถาวรอีก
วิธีดูแลผมที่แชร์ให้ฟังทั้งหมดข้างบน ก็เป็นวิธีที่เราเอามาดูแลผมเราที่ดัดและทำสีมา
ดีท็อกซ์ต่างจากทรีทเม้นต์ยังไง?
ต่างจ้า! บอกเลย เพราะดีท็อกซ์จะมาช่วยล้างสารเคมีในเส้นผมของเรานี่แหละ
วิธีการของเค้าคือหลังสระผม เช็ดผมให้หมาดๆ และชโลมคุณเค้าให้ทั่วผมเลยจ้า
ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีก็พอ หาไรทำไปพลางๆ แล้วไปล้างออก
แรกๆเราใช้ติดกัน 5 ครั้งตามที่นางบอกไว้ พอครบตอนนี้เราก็ดีท็อกซ์แค่เดือนละครั้งผมก็แข็งแรงขึ้นแล้วจ้า
ทีนี้ลมก็ลมเถอะมาเลยข้าไม่กลัว ผมพันกันน้อยลง และสางง่ายมากขึ้นด้วยยยยย
เป็นไงบ้างกับ 5 วิธีกู้ผมสวยและหนังศีรษะของเราให้กลับมาสตรองอีกครั้ง
ให้ผมสวย สวอน ก่อนออกไปเฉิดฉายแบบไม่ต้องง้อร้านกันเลย
เก็บเงินเข้าร้านทำผม เอาไปกินอะไรอร่อยๆ หรือเอาไปทำอย่างอื่นได้น่าจะได้เยอะอยู่นาาา
สำหรับเรา 5 วิธีนี้ทำแล้วผมเราโอเคขึ้นมากๆ เลยอยากมาเหลาให้สาวๆได้พิจารณากัน
ใครเคยเจอปัญหาน่ารำคาญแบบเรา ก็ลองเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้ได้เลย
หรือใครมีวิธีอื่นมาแชร์กันใต้โพสนี้ได้เลยน้าาา
-สำหรับวันนี้ขอตัวไปทำภารกิจต่อแล้วจ้า-
บ้ายบายยยย see yaa
ว้าวๆๆ ขอบคุณค่ะ