จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง 2379
0
[Review]: มาดูกันว่า ครีมทาฝ้าและเซรั่มแก้ฝ้า Phytonutrients จะช่วยลดรอยสิวและรอยฝ้าได้จริงมั้ย?
สวัสดีค่า ช่วงนี้หายไปเจ็บตัวกับสิวมา 555+ คือแอบเครียดมากแล้วก็กังวลมากกับความเห่อของสิวในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแบบนี้พอเริ่มลดการอักเสบลง เราเลยถือโอกาสไปเสาะหาครีมพวกที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำให้ทันใจเราที่สุด แต่ปรากฏว่า ครีมที่ว่าแน่ สุดท้ายก็ไม่ทันใจเราสักที 555
>>> วันนี้เลยมีสกินแคร์บำรุงผิวหน้า ตัวเซรั่ม และ ครีมสำหรับ ลด ฝ้า กระ จุดด่างดำแบรนด์นึง มารีวิวให้ชมกันค่ะ จากการที่ได้สอบถามบรรดาเพื่อนๆนางก็แนะนำว่าดีงาม ซึ่งต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ผลลัพธ์ที่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพผิวของบุคคลจริงๆ แบรนด์ที่พูดถึงก็ คือ PN Botanic Phytonutrients ค่ะ สำหรับสูตร Whitening ลด ฝ้ากระ รอยดำสิว เค้าทำสกินแคร์ออกมา 2 ตัว <<<
Facial whitening gel และ Dark spot corrector ลองปรึกษาแอดมินเค้าแนะนำบอกให้ลองใช้คู่กันแล้วจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น นี่ก็ใจอ่อนกับทุกการชักจูง เลยจัดมาใช้ทั้งคู่เลยค่ะ 55+ โดยตัวแรกที่เราจะพูดกันก่อนนั่นคือ
1. Phytonutrients: Facial Whitening Gel:
ตัวนี้เป็น ครีมทาฝ้า ที่เป็นบำรุงผิวหน้าด้วย ช่วยในเรื่องของผิวขาวใส ทำให้สีผิวเราดูสม่ำเสมอทั่วหน้า และให้ความชุ่มชื้นผิวเพื่อผิวเรียบเนียน จริงๆตัวนี้น่าจะเห็นผลได้ชัดเจนสำหรับคนที่เป็นฝ้า แต่ในเรื่องรอยสิวก็ไม่แพ้กันเลยค่ะ แถมยัง มีส่วนผสมที่ช่วยปรับสมดุลผิวให้ไม่มันไม่แห้งไปอีกด้วย
ส่วนผสมที่สำคัญของครีมตัวนี้
1. Delentigo สารสกัดจากต้นอ่อนสวิสการ์เดนเครส นำเข้าจาก แลป Mibellebiochemistry สวิสเซอร์แลนด์ มีสารสำคัญคือ Sulforaphane ช่วยลดจุดด่างดำแห่งวัย (age spot) ที่พออายุมากขึ้น ก็จะ เกิดขึ้นได้ง่าย เมื่อเจอ แสงแดด โดยจะ เน้นปรับสีผิวบริเวณที่มีปัญหา เช่น ฝ้ากระ รอยสิว ให้จางเร็วกว่า สีผิวปกติรอบข้าง ทำให้ ผิวหน้าโดยรวม ดูสม่ำเสมอกันยิ่งขึ้น
2. Nanowhite Complex เป็นการรวมสาร Active Whitening ถึง 3 ชนิด ในรูปแบบไลโปโซม ที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และออกฤทธิ์ได้นาน ได้แก่ 1. Natural arbutin จาก ต้น Bearberries) 2. วิตามินซี Ascorbyl Palmitate (มีความสเถียรสูงกว่าวิตามินซีทั่วไปชนิด Ascorbic acid) 3. L-gluthathione (ประสิทธิภาพดูดซึมเข้าผิวหนังได้ดีกว่า กลูต้าไธโอน ชนิดธรรมดา) ช่วยให้ ผิวหน้าโดยรวม ขาวเนียนกระจ่างใส สม่ำเสมอกัน
3. สารสกัดจากดอกข้าว: จากช่วยปรับสมดุลไม่ให้มีผิวพรรณที่หยาบกร้านและชุ่มชื้นขึ้น
4.สารสกัดจากว่านหางจระเข้: ช่วยให้ผิวพรรณมีสภาพสมดุล บรรเทาอาการแสบร้อนและอักเสบโดยแสงแดดทำให้ผิวเนียนเรียบสมานแผลเป็นของสิว ลดการอักเสบทำให้สิวแห้งไว
5. Extra Virgin Olive Oil: มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว เข้ากับผิวได้ดีเพราะมีโครงสร้างคล้ายน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ป้องกันรังสียูวีบี ประกอบด้วยโปรตีน วิตามินอี วิตามินเอ สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันไม่อิ่มตัว
2. Phytonutrients: Dark Spot Corrector
ตัวนี้เป็นแท่งเซรั่มแต้มกระฝ้าและจุดด่างดำ สูตรเข้มข้นค่ะ เค้าออกแบบมาสำหรับเอาไว้แต้มตรงรอยฝ้าและจุดด่างดำ ส่วนตัวรู้สึกว่า หากเราแต้มแล้วไม่เอานิ้วเกลี่ยซ้ำมันต้องใช้เวลาเพื่อให้ซึมลงผิว แต่เนื้อเซรั่มค่อนข้างบางเบามากนะคะ สามารถใช้แต้มได้บ่อยเท่าที่เราต้องการเลย ลัลจึงรู้สึกว่าชอบแบบเป็นหัวหลอดแต้มแล้วเอานิ้วเกลี่ยมากกว่าจะได้ซึมลงผิวเลย 555+ เครื่องไม้ไม่่ต้องเครื่องมือ (นิ้วล้วนๆ) ดีกว่าค่ะ ^^
มาดูกันว่าสารสกัดตัวหลัก ทั้ง 5 ชนิดที่สำคัญในเซรั่มตัวนี้มีอะไรกันบ้าง
2 ตัวแรก คือ Delentigo และ Nanowhite Complex ซึ่งจะเป็น ส่วนผสมตัวเดียวกับ Facial whitening gel แต่จะจัดเต็มและเข้มข้นกว่า
3. GlucoBright จะใช้ร่วมกับ Vitamin B3 (Niacinamide) ทำหน้าที่เป็น whitening ช่วยชะลอกระบวนการก่อสีผิว และ สามารถลบรอยจุดด่างดำ รวมถึงกระตุ้นให้ผิวสร้าง Hyaluronic Acid ได้ตามธรรมชาติ
4. Safe-B3 ตัวนี้เป็นวิตามิน B3 ชนิดพิเศษ ที่มี Niacin ต่ำ และมีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งทำให้ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เหมือนเช่น Vitamin B3 ชนิดทั่วไป ที่จะเกิดขึ้นกับบางคน ที่มีผิวเบาะบาง ผิวแพ้ง่าย ช่วย แก้ไขปัญหา รอยแดง รอยดำ จากสิว ลดการระคายเคือง
5. Licorice root extract ตัวนี้เป็นสารสกัดจากรากชะเอมเทศ มีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ และมีความระคายเคืองต่ำ ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ไม่ให้ไปสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงช่วยลดการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ดี ช่วยลดและต้านการอักเสบของผิว
ทั้ง 2 ตัวใช้ก่อนนอนนะคะ
1.ใช้ Darkspot แต้มเฉพาะบริเวณที่มีปัญหา เช่น ฝ้า กระ รอยสิว ชิ้วนิ้วเกลี่ยให้แห้ง แล้ว ตามด้วย2. ทาครีม Facial whitening gel ทั่วให้ใบหน้า เนื้อครีมค่อนข้างนุ่มมากค่ะ เกลี่ยง่าย ไม่มีกลิ่น และไม่รู้สึกแสบผิว ให้ลุคผิวลื่นๆหน่อย
ผลลัพธ์หลังการทดลองใช้ 7 วัน
ตอนนี้ลัลทดลองใช้คู่กันมาเป็นระยะเวลา 7 วันแล้วค่ะ ถือว่าค่อนข้างพึงพอใจนะ ชอบตรงที่ไม่แพ้เลยแล้วก็ไม่มีน้ำหอมด้วยกลิ่นเคลียร์มาก ตอนแรกก็แอบกลัวจะแพ้เพราะแพ้ง่าย แต่หลังใช้รอยสิวดำๆที่เข้มนั้นจางลงฝ้าแดดนี่เห็นชัดมาก ผิวเรียบเนียนสิวผดผื่นลดลง นุ่มขึ้นด้วยค่ะ ส่วนเรื่องรูขุมขนยังไม่เห็นผลชัดเจนต้องลองใช้ไปเรื่อยๆก่อน
นี่ใครเคยเป็นเหมือนกันมั่งเราจะชอบสังเกตรอยดำว่ามันดีขึ้นหรือยัง จากเวลาที่ใช้แป้งผสมรองพื้นว่าถ้าปกปิดได้ดีขึ้นไม่เห็นรอยชัดนั่นก็ แสดงว่ารอยดำเราเริ่มดีขึ้นละเป็นวิธีการบ้านๆที่รู้สึกว่าเออมันจริงนะ 555ตัวนี้ให้คะแนน 8.5/10 ค่ะ สำหรับครีมที่ไม่ใช่เคาเตอร์แบรนด์แต่ทำผลงานได้ค่อนข้างน่าพอใจ ขอหักตรงแพ็คเกจนิดหน่อยและกัน กับหาซื้อยากเพราะยังไม่มีในเคาเตอร์ตามร้านบิวตี้ store ต่างๆ แต่มีขายออนไลน์อยู่ค่ะ
ฝากเป็นวิดีโอไว้ด้วยน้า
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะค้า สวัสดีค่า
13 ความคิดเห็น
เขียนคอมเมนต์ตอบกระทู้
ไม่เกิน 500 ตัวอักษร
Enter text here...
0
กรุณายืนยันตัวตนก่อนตอบกระทู้
ยกเลิก
Recommended By *Cosmenet
ยืนยันการลบกระทู้
ยืนยันการลบคอมเมนต์
ขอบคุณค่ะ