จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
สวัสดีค้าาา เพื่อนๆ มีใครชอบใช้สบู่ก้อนบ้างงง??
เริ่มจากที่บ้านใช้สบู่ก้อนสมุนไพรไทยกันมาตลอดและเราก็ใช้มาตั้งแต่เด็กๆ
พอมาใช้สบู่เหลวแล้วรู้สึกว่าเปลืองกว่า สบู่ก้อนนี่คือใช้กันจนลืมกว่าจะได้เปลี่ยนก้อนที
ยิ่งมาเรียนมหาลัยต้องอยู่หอก็ใช้เงินเยอะไปกับความสวยความงาม
เลยขอเลือกใช้สบู่ก้อนดีกว่า ประหยัดเงินไปได้เยอะเลยค่ะ
ตั้งแต่ที่ใช้มาก็จะมียี่ห้อที่ใช้อยู่เป็นประจำ 3 ยี่ห้อ ที่หาซื้อง่ายใน 7-11
ซื้อไปซื้อมาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเทียบกันแบบจริงจังแล้วอันไหนดี อันไหนไม่ดีบ้างมาบอกกันค่ะ
วันนี้ขอเลือก 3 ยี่ห้อนี้ที่ใช้ประจำนะคะ ช่วงนี้อินกับสบู่ก้อนมินิมากค่ะ
ใช้ได้นานและแบ่งใช้กับเพื่อนรูมเมทก็ได้ หารกัน ถูกดี อิอิ
ตัวแรกคือ แพรอทเฮอร์เบิล สูตร "ว่านหน้าขาว"
ที่เลือกมาเป็นสูตรออกใหม่ล่าสุด สีเขียวสดใสแบบนี้ เป็นสูตรออร์แกนิค ดีท๊อกซ์ไวท์เทนนิ่ง
ผสมว่านหน้าขาวและวิตามินซีญี่ปุ่นที่ไม่กัดผิว แล้วยังสามารถใช้ได้ 2 แบบคือ
ทั้งแบบฟองนุ่มกับแบบวิปโฟมค่ะ มี 7 รางวัลนวัตกรรมงานวิจัยการันตีด้วยว่าเห็นผลจริงแน่นอน
จริงๆสำหรับเรา แค่เห็นชื่อ ก็คิดไปก่อนแล้วนะคะว่าหน้าชั้นต้องขาวตามชื่อด้วยสิ 555
นี่ตอนแกะแบ่งออกมาได้ 4 ก้อนค่ะ สะดวกใช้ดี เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดก็หยิบออกมา 1 ก้อน
เค้าแบ่งใส่ซองคั่นแต่ละก้อนไว้ด้วย ไม่เลอะกระเป๋าแน่นอน ปรับสูตรใหม่เป็นแบบออร์แกนิคยิ่งชอบไปใหญ่เลย
อ่อนโยนต่อผิวดีค่ะ ใช้แล้วสบายใจด้วย เพราะเค้าบอกว่าสูตรนี้ใช้ได้ทั้งหน้าทั้งตัว
ยิ่งถ้าต้องใช้กับหน้าแล้วยิ่งเป็นออร์แกนิคยิ่งดีใหญ่ค่ะ ฟองนุ่ม ฟองเยอะและละเอียดดีมากค่ะ
กลิ่นหอมติดผิวดีมาก มีเพื่อนมาค้างด้วยยังถามเลยว่าใช้สบู่อะไร หอมจัง ตอนนี้เพื่อนไปซื้อตามเรียบร้อย
ตัวที่ 2 คือ Protex Thai Therapy
เลือกสูตรวิตามินซีและอีมาเทียบค่ะ เพราะเห็นว่าทั้ง 3 แบรนด์มีวิตามินซีเหมือนกันหมดเลย
เพื่อความเท่าเทียม สูตรนี้ช่วยให้ผิวดูขาวกระจ่างใสและถนอมผิวให้นุ่มชุ่มชื้น
แบ่งออกมาได้ 4 ก้อนเหมือนกันค่ะ มีซองพลาสติกแบ่งกันเลอะเหมือนกัน
แตกต่างตรงที่แต่ละซองยังเชื่อมติดกันเหมือนเวลาเราไปซื้อแชมพูซองตามร้านค้าเลย
ก้อนนี้สามารถใช้ได้ทั้งหน้าทั้งตัว มีส่วนประกอบที่เป็นธรรมชาติ
หลังใช้แล้วรู้สึกว่าผิวยังคงความชุ่มชื่นไว้อยู่ใช้แล้วผิวใสดี มีฟองเยอะนะคะ
แต่ฟองไม่ละเอียดและเยอะเท่าแพรอทเมื่อกี้นะคะ เราว่าอันนั้นอาบสนุกกว่า
แต่เอาเป็นว่าโดยรวมอาบสะอาดดีค่ะ กลิ่นจะออกส้มๆเลย กลิ่นแรงอยู่เหมือนกัน
อาบเสร็จมีกลิ่นอ่อนๆติดผิวมานิดหน่อย แต่ส่วนตัวเราว่ามันละลายเร็วไปหน่อยอะ
ตัวที่ 3 คือ สบู่ Bennett
ต่อมาเป็นแบรนด์ที่ทุกคนเห็นแล้ว ต้อเห็นหน้าพรีเซนเตอร์ คุณบุ๋มลอยมา
นอกจากวิตามินอีและซีที่เป็นส่วนผสมแล้ว ยังสามารถระงับกลิ่นกายได้ด้วย
แต่เรื่องนี้เค้าขอไม่คอนเฟิร์มนะค้าา เพราะไม่เคยกล้าออกจากบ้านโดยไม่ทาโรลออนเลยสักครั้ง
แต่เรื่องสิวผดที่หลังตัวนี้จัดว่าเด็ด แต่ถ้าคนผิวแห้งมากๆ ตัวนี้อาจจะไม่เหมาะ
เนื่องจากนางทำความสะอาดได้ดีมากๆ เลยอาจทำให้ชะล้างน้ำมันผิวตามธรรมชาติออกไปหมด
ตรงส่วนหลังของเรา ผิวนี่เนียนกริบ แต่พอเอามาล้างหน้าก็รู้สึกตึงๆ แสบๆ อยู่เหมือนกันค่ะ
เราเลยเอามาใช้เฉพาะกับผิวกายอย่างเดียว แต่ถ้าคนที่หน้ามันแล้วล่ะก็ เราว่าเวิร์คค่ะ
ด้านในแบ่งออกมาได้ 6 ก้อนค่ะ แต่ขนาดแต่ละก้อนจะเล็กที่สุด
เมื่อเทียบกับ Parrot และ Protex ค่ะ แต่ Bennett
แตกต่างตรงที่นอกจากจะใส่ซองมาให้แล้ว ยังมีเรียงสบู่ใส่ถาดพลาสติกมาให้ด้วย
และด้วยความที่เราเป็นสายประหยัด ก็คิดขึ้นมาว่าอยากจะลองดูว่าสบู่ที่ซื้อมาอันไหนจะคุ้มค่าเงินสุด
และยี่ห้อไหนจะละลายยากสุด จะได้ใช้นานๆ เราก็เลยลองเอาทั้ง 3 ก้อนไปแช่น้ำเป็นเวลา 1 วันดูกันค่ะ
ว่าเมื่อเวลาผ่านไปจะเป็นยังไงกันบ้าง
ผลออกมาก็คือ แบรนด์ที่ละลายน้อยสุดคือ Parrot ค้าาา
มอบมงกุฏเพชรด้านความคุ้มค่าให้ไปเลย
แต่ละแบรนด์ก็มีความดีงามแตกต่างกันไปนะคะ
ส่วนตัวเราใช้เป็นประจำอยู่แล้วทั้ง 3 แบรนด์เลย ยังไงก็ลองพิจารณาดู
ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองกันด้วยนะคะ บ๊ายบายค่ะ
ขอบคุณค่ะ