จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงก้อยเป็นคนชอบล้างมือมาก ถามคนรอบข้างดูได้ ไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไร ต้องรีบเดินไปเข้าห้องน้ำต่อ ล้ามือธรรมดาก็ไม่ได้นะ ต้องล้างด้วยสบู่เท่านั้น ติดการล้างมือมากจนกระทั่งพกสบู่ติดตัวไว้ เผื่อที่ไหนไม่มีสบู่ ที่ก้อยชอบล้างมือจนเป็นนิสัยแบบนี้เพราะสืบเนื่องมาจากกลัวเผลอเอามือมาจับหน้า กลัวหน้าสกปรก กลัวสิวขึ้น แต่ความโรคจิตของก้อยไม่ใช่ว่าจะมีข้อดีเสมอไป ใช่อยู่ที่มือเราจะสะอาดตลอดเวลา แต่เชื้อโรคบางตัวก็ถูกทำลายไป ซึ่งก้อยเคยได้ยินมาว่ามันไม่ดีเท่าไหร่หรอก แต่ก้อยไม่แน่ใจในเรื่องนั้น แต่สิ่งที่แน่ใจและรู้สึกได้เลยคือ มือก้อยจะแห้งกร้านมาก จับมือตัวเองไปนี่รู้เลยว่ามันสาก มันแห้งจริงๆ แต่จะให้ก้อยหยุดล้างมือก็คงจะยาก ก้อยติดไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือหาครีมทามือมาทาบำรุง
ก้อยเคยได้ลองใช้ครีมทามือหลายๆ แบรนด์ ส่วนใหญ่จะซื้อแบบไม่แพงมาก พวกแบรนด์เกาหลี หรือบางทีก็เป็นของดีสนีย์แพกเกจน่ารักจากญี่ปุ่น ยอมรับว่าบางทีเราก็พ่ายแพ้ให้แก่แพกเกจ ไม่ได้สนใจว่าเนื้อผลิตภัณฑ์มันดีมั้ย คิดเพียงแต่ว่าใช้ๆ ไปเถอะ มันก็เหมือนๆ กัน ฮ่าๆๆๆๆๆ
แต่ได้มีโอกาสลองใช้ครีมทามือจาก Loccitane เนื่องจากช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมา Loccitane เค้าทำพวกเซ็ต Holiday มาวางขายหน้าร้าน มันดึงดูดใจให้ก้อยลองเข้าไปชมสินค้าของเค้าดู พี่คนที่ไปด้วยแนะนำมาว่าของเค้าดีนะ มือแห้งๆ แบบก้อยเนี่ย ควรได้ลอง ก็มีความตัดใจลองซื้อมาใช้ดูเหมือนกัน สี่ร้อยกว่าบาท ราคาไม่ได้ถูกเลยเด้อ แต่ไปๆ มาๆ ก็เอากลับบ้านมา 3 อันซะงั้น 55555555+
บอกก่อนว่า 3 ตัวนี้เนื้อของเค้าคล้ายๆ กัน เป็นเนื้อครีมสีขาวที่ไม่ได้บางเบาเท่าไหร่ แตกต่างจากครีมทามือที่ก้อยได้ลองใช้
เนื้อเค้าจะหนืดๆ ฝืดๆ ตอนแรกที่ใช้ก็คิดว่า เนื้อหนืดขนาดนี้ จะทำให้มือเราเหนียว มือลื่นทั้งวันหรือเปล่า แต่เปล่าเลย ความที่เนื้อของเค้าไม่ได้บางเบามาก มันกลับทำให้ก้อยรู้สึกว่ามือของก้อยค่อนข้างชุ่มชื่น มือนิ่มขึ้น เหมือนเนื้อผลิตภัณฑ์เค้าไปเคลือบผิวไว้ ช่วยลดความแห้งกร้านของมือเราได้ดี ไม่ต้องทาครีมซ้ำ แถมมันยังไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย มันไม่ได้ซึมเข้าผิวจนจางหายไป คือเรารู้สึกได้ว่ามือเรามีครีมเคลือบ แต่ไม่เหนียวมือ ไม่ลื่นมือ เข้าใจก้อยมั้ย 5555+ เอาเป็นว่าชอบความชุ่มชื่นที่เนื้อครีมให้มา ชอบกลิ่นของแต่ละตัวมากด้วยเช่นกัน เรามาดูกันทีละกลิ่นเลย
Shea Butter Rose Heart Hand Cream
ขนาด 30 ml ราคา 450 บาท
ตัวนี้กลิ่นแรงอยู่ เป็นกลิ่นกุหลาบหวานๆ เหมาะสำหรับสาวหวานแบบเราจริงๆ ถูกจริตกับกลิ่นนี้ มันหอมหวาน เหมาะกับสาวหวานแต่แอบมีความเปรี้ยวอยู่ในตัว มีส่วนผสมของเชียร์บัตเตอร์เข้มข้น Rose Damascene และ Rose Centiflia Flower Oil จึงทำให้มีกลิ่นของดอกกุหลาบหวานๆ แบบที่ก้อยชอบ กลิ่นหอมฟุ้งกระจายเลยนะอันนี้
Neroli & Orchidee Hand Cream
ขนาด 30 ml ราคา 450 บาท
อันนี้หยิบมาเพราะชอบแพกเกจ 5555+ แพกเกจดูเป็นคุณหนูดี แต่ก็ชอบกลิ่นด้วยเหมือนกันนะ ครั้งแรกที่ใช้ก้อยได้กลิ่นดอกกล้วยไม้เต็มๆ แบบว่าชัดมาก คือลองทามือให้แฟน แฟนบอกนี่กลิ่นดอกกล้วยไม้นิ โอมายกอช กลิ่นชัดจริงๆ อันนี้หยิบมาใช้บ่อยสุด กลิ่นมันละมุน หอมแบบไทยๆ และกลิ่นค่อนข้างอ่อนสุดในบรรดา 3 กลิ่นนี้ ใครไม่ชอบกลิ่นที่ชัดเจนมาก แนะนำอันนี้นะ กลิ่นอ่อนและหอมหวานละมุน
Arlesienne Velvet Hand Cream
ขนาด 30 ml ราคา 450 บาท
อันนี้แพกเกจดูสดใสวัยรุ่นมาก ชอบบบบบ!! และที่ก้อยเลือกมาก็เป็นกลิ่นดอกไม้อีกแล้วครับท่าน 5555+ อันนี้เป็นกลิ่นดอกไม้ 3 ชนิดจาก Provence มี May rose, Violet และ Saffron เป็นดอกไม้ที่มีความแตกต่างกัน แต่เอามารวมกันแล้วได้กลิ่นหอมแบบเย้ายวน เป็นผู้หญิงแบบมีเสน่ห์ลึกลับหน่อยๆ กลิ่นแรงเตะจมูกพอๆ กับตัวดอกกุหลาบเลย
โดยรวมทั้งหมด กลิ่นจะหอมฟุ้งในช่วงแรกๆ พอเวลาผ่านไปซักระยะกลิ่นจะค่อยๆ จางลง ถามว่ามีความแตกต่างกันมั้ยสำหรับครีมทามือทั้ง 3 อันนี้ มันต่างแค่จริตของกลิ่นที่เราชอบ ซึ่งในความจริง Loccitane เค้ามีให้เลือกหลากหลายกลิ่นนะ แล้วแต่ใครจะชอบกลิ่นแบบไหน ชอบที่ขนาดเล็กกำลังดี แต่ก็คล้ายๆ ครีมทามือยี่ห้ออื่นๆ ทั่วๆ ไป แพกเกจมีความแข็งแรงน่าหยิบใช้ และหากจะให้ติข้อเสีย ก็อาจจะเป็นในส่วนของราคาที่แรงพอสมควร 450 บาท น่าจะเป็นราคา 2เท่าของครีมทามือทั่วไป แต่สำหรับใครที่มือแห้งกร้านมากๆ แบบก้อย ก้อยแนะนำนะ มันช่วยบำรุงผิวมือของเราให้ชุ่มชื่นได้ดีกว่าเนื้อครีมบางๆ ที่ก้อยเคยได้ใช้มา ^___________^
ขอบคุณค่ะ