จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน
วันนี้นุ่นกลับมาอีกแล้วกับการรวบรวมคลีนซิ่งต้องโดนสำหรับทุกสภาพผิวและดีสุดๆสำหรับผิวแพ้ง่าย บอกไว้ก่อนว่านุ่นเป็นผิวผสมค่อนข้างมันเพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยถูกกับคลีนซิ่งที่มีน้ำมันสักเท่าไหร่เพราะจะชอบเกิดการอุดตัน แล้วก็ไม่ชอบเลยพวกคลีนซิ่งที่เช็ดแล้วหน้าแห้งไม่หลงเหลือความชุ่มชื้นอยู่เลยแบบนั้นคือไม่โอเคมากๆ
คลีนซิ่งที่รวบรวมมาในวันนี้นอกจากจะดีต่อผิว ผิวยังชุ่มชื้น ทำความสะอาดได้ดี ไม่อุดตันผิวแล้วยังราคาดีงามมากๆด้วย เพราะนุ่นคิดว่าคลีนซิ่งดีๆบางทีไม่จำเป็นต้องแพงแล้วยิ่งเราต้องใช้ล้างหน้าทุกวันด้วยทำให้เป็นตัวที่ใช้หมดเร็วที่สุดยิ่งกว่าสกินแคร์และเครื่องสำอางค์ซะอีก ดังนั้นถ้ามันแพงเงินในกระเป๋าจะฉีกเกินไปแน่นอน 555
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้า 3 ตัวที่จะนำมารีวิวในวันนี้กันเลยดีกว่า
ตัวแรกคือ Fresh Drop Pure Micellar Make-Up Removing Water
ต้องบอกว่าตัวนี้ไปเจอมาใน Eveandboy ขวดใหญ่มากขนาด 510ml แต่ราคาเพียง 290 บาท(ซึ่งบางทีก็แถมสเปรย์มาด้วย แฮปปี้มาก)
ตัวนี้จะหน้าขวดเค้าไว้เลยว่าไม่มีน้ำมัน น้ำหอม พาราเบนและแอลกอฮอลล์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน(จากน้ำมันสำหรับคนผิวมันหรือผสม) แล้วก็ไม่มีสีด้วยน่าจะอยู่ในประเภท 5-Free หรือ ไม่มีสาร 5 ประเภทที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ข้อมูลตัวนี้จะน้อยนิดนึงเพราะหาใน Google ก็ไม่ค่อยมีข้อมูลแบรนด์และผลิตภัณฑ์เท่าไหร่ แม้แต่เพจแบรนด์ยังไม่มีเลย T_T
ตัวถัดมาคือ MizuMi Smooth Cleansing Water
ตัวนี้ก็ซื้อใน Eveandboy เหมือนกัน แต่ตามร้านทั่วๆไปอย่าง Watsons หรือที่อื่นๆก็มีขายเช่นเดียวกัน ขนาดใหญ่ 500ml ราคา 490 บาท แต่ชอบจัดโปรลดเหลือ 290 บาท(ราคาใกล้เคียง Fresh Drop เลย^^) ตัวนี้มีขนาดเล็กด้วยนะคะ ขนาด 100ml ราคา 129 บาท ซึ่งนุ่นชอบซื้อไซส์นี้พกไปใช้ระหว่างเดินทางคู่กับการใช้ Cleansing Wipe หรือ Eye/Lip Makeup Remover ของเค้าเพื่อความสะอาดหมดจด
สูตรนี้เค้าเคลมในเรื่องของการลดแรงเสียดผิว คือเวลาใช้จะให้ความรู้สึกนุ่มลื่นเหมือนไม่ได้ใช้สำลี ซึ่งจะเป็นการลดการทำร้ายผิว ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวด้วยสารสกัดจาก Broccoli, Chicory, และ Celery ทำความสะอาดล้ำลึกไม่ให้อุดตันผิว รวมทั้งยังเป็นประเภท 5-Free คือไม่มีน้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์ ทำให้อ่อนโยนเหมาะกับผิวแพ้ง่ายอีกด้วย
ตัวสุดท้าย AINTEROL Himalayan Micellar Cleansing Water
ตัวนี้ได้มาจากร้าน All About You ที่เป็นร้านที่ขายเครื่องสำอางค์และสกินแคร์แบบออร์แกนิค ขนาด 500ml ราคา 465 บาท แต่ก็ชอบมีโปรลดเหลือ 326 บาทซึ่งใกล้เคียงกับตัวที่พูดไปก่อนหน้า บอกแล้วว่าราคาแต่ล่ะตัวคือดีจริงๆ
จะบอกว่าตัวนี้ว้าวหลายอย่างมาก ว้าวแรกคือเค้าเป็นคลีนซิ่งที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีใดๆ มาทำร้ายผิวหรือสะสมในร่างกายของเรา ที่สำคัญแบรนด์นี้เค้าใช้สารลดแรงตึงผิวหรือ surfactant จากประเทศอเมริกา ได้รับการรับรองจาก Ecocert / USDA ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% มีประสิทธิภาพในการลบเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก ความมันบนผิวหน้า ได้ลึกถึงรูขุมขน โดยไม่ต้องล้างน้ำหรือสบู่อีกครั้ง(ซึ่งจริงๆก็ยังไม่เคยลองทำ 555) รวมถึงใช้เป็นโทนเนอร์ในตัวได้เลย ว้าวสองคือเค้ามีอะมิโนเอซิดที่ได้จากพืชที่เป็นตัวกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนอย่างธรรมชาติ ให้ผิวหน้าตึง กระชับ ว้าวสุดท้ายคือเค้าจัดอยู่ใน 11-Free คือไม่มีพาราเบน, สารกันบูด, สารที่มาจากน้ำมันปิโตรเลียม, โซฟ, พรอพโพเลน ไกลคอล, น้ำมัน, น้ำหอม, แอลกอฮอลล์, Ethoxylate, 1,4 dioxane, Non-GMO ซึ่งอย่าถามว่าบางตัวคืออะไรเพราะก็ไม่รู้เหมือนกัน 555 รู้ว่าไม่มีสารเคมีเลยนี่ก็คือสบายใจหายห่วงได้แล้ว ส่วนคุณสมบัติอื่นๆด้านการใช้งานเดี๋ยวเราจะไปทดสอบกัน
มาถึงขั้นตอนการทดสอบประสิทธิภาพกัน
การเปรียบเทียบทดสอบประสิทธิภาพการทำความสะอาดของทั้งสามแบรนด์ในวันนี้นุ่นจะใช้เครื่องสำอางค์ที่ติดทนและใช้เป็นประจำเพื่อให้ใกล้เคียงกับการแต่งหน้าในชีวิตจริงของเพื่อนๆให้ได้มากที่สุด
ซึ่งก็จะมี คอนซีลเลอร์ NARS ตบด้วยแป้ง Kyst Cosmetic มาสคาร่า Push up Drama อายไลเนอร์มิสทีน และลิปทิ้นต์ที่สุดจะทนจาก Peri Pera
เครื่องสำอางค์ทั้งหมดก็จะเรียงกันตามลำดับในภาพเลยค่ะ
ผลลัพธ์ในการโปะข้างไว้ 3 วิและปาดทีเดียวจะเห็นได้เลยว่าของ AINTEROL คือเช็ดออกมาได้มากที่สุดในรอบแรก รองลงมาจะเป็น Fresh Drop ตามด้วย Mizumi ที่เหมือนจะเอาเครื่องสำอางค์กันน้ำไม่ค่อยออกเท่าไหร่
ทีนี้เรามาดูกันบ้างว่าถ้าใช้สำลีชุ่มๆ 4 แผ่นต่อ 1 แบรนด์จะสามารถเช็ดเครื่องสำอางค์ได้สะอาดหมดจดมั้ย
บอกได้เลยว่าผลลัพธ์นี่คือชัดเจนมาก AINTEROL ยังมาวิน ประมาณแค่ 2 แผ่นคือออกแทบจะหมดแล้ว ส่วนลิปทิ้นต์คือเหลือจางมากๆแทบมองไม่เห็น ส่วน FRES DROP ก็ถือว่าทำได้ดีแผ่นที่ 4 แทบจะไม่มีเครื่องสำอางค์ติดออกมาเช่นกัน ยกเว้นลิปทิ้นต์ที่จะยังคงเป็นเป็นรอยลิปจางๆที่ชัดเจนอยู่ แต่ Mizumi ก็ยังจะไม่ค่อยถูกกับเครื่องสำอางค์กันน้ำเพราะเหลือทั้งรอยลิปทิ้นต์และมาสคาร่าเบาๆ
|
AINTEROL |
Fresh Drop |
MizuMi |
ความสะอาด |
5 |
4.5 |
3.5 |
ความชุ่มชื้น |
4.5 |
5 |
4 |
ต้องใช้ร่วมกับ Eye/Lip Makeup Remover |
ไม่ต้องก็ได้ |
ควรใช้ |
ควรใช้ |
ปริมาณ |
500ml |
510ml |
500ml |
ราคา |
326-465 บาท |
290 บาท |
290-490 บาท |
สรุปง่ายๆ
FRES DROP ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นเย็นสดชื่นมาก เช็ดได้สะอาดที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย
MizuMi จริงๆตัวนี้ก็เช็ดสะอาด ใช้คู่กับ Eye/Lip Makeup Remover ของแบรนด์นี้ก็ดีไม่มันมาก ถือเป็นคู่หูมินิไซส์ที่ตอบโจทย์เวลาเดินทางมากๆ
AINTEROL เช็ดสะอาดสุดใช้ได้ตัวเดียวจบไม่พึ่ง Eye/Lip Makeup Remover ก็ได้ ยังคงความชุ่มชื้นได้ดีใช้แล้วก็แฮปปี้เพราะความเป็นธรรมชาติ 100% ไร้สารเคมีใดๆ
สุดท้ายนี้ทั้งสามตัวนี้นุ่นใช้จริงและซื้อติดบ้านตลอดๆอย่างขวดที่เอามารีวิวทั้งหลายนี่ก็เพิ่งจะแกะขวดใหม่มาใช้กันสดๆร้อนๆ แล้วรู้สึกว่าทั้งสามตัวคือดีหมด อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายหมด แต่ก็จะมีข้อแต่ต่างกันบ้างหรือโอกาสในการใช้แตกต่างกันบ้าง เพราะฉะนั้นเพื่อนๆที่อ่านรีวิวนี้แล้วต้องไปลองด้วยตัวเองว่าชอบสัมผัสแบบไหนและชอบคุณสมบัติของตัวไหนแล้วก็จะได้หนึ่งในสามตัวนี้เป็น Favorite Cleansing ในดวงใจแน่ๆค่ะ