เช็กดวงปี 2568 ทั้ง 12 ราศี เจาะลึกทุกไตรมาส ทั้งเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก

navigate_beforeย้อนกลับ

0 

ไอเทมไม่ลับ ดูแลสิว และรอยสิว ใช้แล้วเห็นผลต้องบอกต่อ!ไอเทมไม่ลับ ดูแลสิว และรอยสิว ใช้แล้วเห็นผลต้องบอกต่อ!

เป็นคนที่ชอบแต่งหน้า แถมยังเป็นคนที่สิวขึ้นง่าย เรียกได้ว่า พอหน้าดีๆ ได้สักพัก
สิวก็มาบุกหน้าอีกแล้ว ทำให้มีรอยสิวเก่า และรอยสิวใหม่ ผสมกันตรึมเลย T T

เราต้องพลิกวิกฤติ เพราะวันนี้เค้าจะมารีวิวของเล่นใหม่แบบ HD พลีชีพสุดๆ
เพราะตองลองเก็บถ่ายรูปเก็บผลต่อเนื่อง 15 วันตั้งแต่กดสิวมา

เป็น 2 ไอเท็มนี้ นั่นเองค่ะ! 
ต้องบอกก่อนเลยว่า ทั้ง 2 ตัวนี้ เป็นตัวที่เค้ามีอยู่แล้ว 
กับเป็นของเล่นใหม่ ที่ใช้แล้วต้องมาบอกต่อกันเลยทีเดียวนะคะ 
 
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยค่ะ 
สำหรับตัว Soon Jung ของแบรนด์ Etude House นะคะ 
เค้าเป็นไลน์ที่เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่ายค่ะ เพราะเค้าจะช่วยลดความระคายเคืองได้นั่นเอง 
ซึ่งตองมักจะหยิบมาใช้ ในช่วงที่ตองเป็นสิวค่ะ เพื่อบำรุงให้ผิวแข็งแรงนั่นเองค่ะ 
 
สำหรับหลอดนี้ ตองมีอยู่ที่บ้านอยู่แล้วค่ะ ได้มาเป็นของแถม Travel Set 
 
ในเซทเค้าจะมีตัวโทนเนอร์ - อิมัลชั่น - ครีม และ บาล์มค่ะ 
ซึ่งในเซทมีน่าสนใจทุกตัวเลย แต่ที่เค้าหยิบบ่อยๆ ก็จะมีตัวครีมและตัวบาล์มค่ะ
 
 
แต่ตัวที่ตองหยิบมาใช้บ่อยมากๆ จนจะหมดหลอดในช่วงนี้ คือ
2x Berrier intensive cream
เค้าเป็นครีมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่เน้นเสริมสร้างเกราะปกป้องให้ผิวด้วยโปรตีน
 
เพราะเค้ามีส่วนผสมของ Penthenol ที่ช่วยไม่ให้ผิวระคายเคือง
และส่วนผสมของ Madecassoside ที่ลดความระคายเคืองของผิว
ที่เกิดจากความเครียดทั้งจากภายใน และภายนอกนั่นเองค่ะ
 
ตองเลยเลือกมาใช้ เนื่องจากช่วงนี้ตองมีสิวอุดตัน และอักเสบขึ้น
เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยน และมลพิษ รวมไปถึงความเครียด และการพักผ่อนน้อยนั่นเอง
 
นอกจากนั้นเค้ายังช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิว และที่ใช้ได้สบายใจมากกๆๆๆๆ
เพราะเค้ามีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิว เค้าจะได้ไม่ไปรบกวนผิวเพิ่มเติมอีกคร่า
 
เรียกได้ว่าเป็นไอเท็ม กู้ชีพ ในช่วงที่ผิวที่อ่อนแอได้ดีค่ะ
 
: เนื้อสัมผัส :
 
เนื้อครีมเป็นสีขาว เข้มข้น แต่ไม่หนืดค่ะ
ไม่มีกลิ่นเลย รู้สึกปลอดภัยดี
 
 
เนื้อครีมเกลี่ยได้ง่าย ซึมเข้าผิวได้ดี
แต่จะรู้สึกได้ว่า มีเนื้อครีม เข้มข้นเคลือบผิวอยู่สักพักนึงค่ะ
 
: วิธีใช้ :
 
ทาทั่วผิวหน้าได้เลยค่ะ เหมาะกับใช้ตอนกลางคืนนะคะ
 
ซึ่งตองก็ใช้ติดต่อกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงที่ผิวมีสิวเห่อ
เนื่องจากช่วงนั้น รู้สึกได้ว่า ผิวหน้าเราเค้าต้องการการบำรุงนะ
แต่อยากจะใช้อะไรที่เค้าอ่อนโยนนิดนึง เลยใช้ตัวนี้ติดต่อกันมาทุกคืนค่ะ
 
หลังจากที่ใช้ติดต่อกันมา
 
 
: ผลลัพธ์ :
 
จริงๆเค้าเป็นตัวที่ไม่ได้เห็นผลแบบหวือหวา
แต่เป็นตัวที่เราใช้ได้แบบสบายใจ ในช่วงที่ผิวอ่อนแอ
 
และเค้ารู้สึกได้ว่า ผิวแน่นขึ้น ผิวที่ระคายเคือง คัน หรืออ่อนแอ
หายคัน รู้สึกสบายขึ้น สิวที่อักเสบอยู่ ก็อักเสบน้อยลง
 
หลังจากใช้ติดต่อกัน สิวที่ขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ ก็ขึ้นน้อยลงค่ะ
 
สำหรับคนที่ห่วงเรื่องผิวที่แพ้ง่าย และมีปัญหาสิวจาก
มลภาวะต่างๆในช่วงนี้ ตองคิดว่าตัวนี้เป็นตัวที่น่าสนใจเลยค่ะ
หรือจะใช้ทั้งไลน์เลยยิ่งดี เค้าจะได้ช่วยกันเพิ่มความแข็งแรงของผิวได้ดีขึ้น
 
หลังจากที่ดูแลเรื่องความแข็งแรงของผิวไปแล้ว
อีกหนึ่งอย่างที่เค้าเป็นห่วงผิวตัวเองมาตลอด ก็คือรอยนั่นเองค่ะ
 
และก็มาต่อกันที่ของเล่นใหม่ ที่ไม่เห่อไม่ได้
เพราะจริงๆ แล้วตัวนี้ตองโดนป้ายยามาจากพี่ Netty Beauty Life
 
เห็นเค้าพูดถึงตัวนี้ในไอจีแล้วรู้สึกว่าน่าจะตอบโจทย์ตัวเองเรื่องรอยสิว
 
 
 โดนป้ายยามาจากรีวิวนี้ล่ะ!
แคปชั่นที่อ่านแล้วคืออยากลองมั่งเลย
 
 
Clarins
WhitePlus Targeted Spot Brightener ( 7 มล. : 1,700.- )
 
สำหรับตัวนี้ เป็นโปรดักส์ตัวใหม่ในไลน์ WhitePlus ของแบรนด์ Clarins นั่นเองค่ะ
นอกจากตองจะเลิฟ Double Serum และตัว Hydra-Essentiel ของเค้าแล้ว
 
เค้าบอกว่าตัวนี้มีส่วนผสมหลักคืออะเซโรล่า เชอรรี่ ที่มีวิตามินสูงกว่าส้มถึง 30 - 80 เท่า
ช่วยให้เม็ดสีผิวที่ผิดปกติ ลดเลือนจางไปได้ค่ะ และเค้ายังเข้มข้นมากกว่าตัวเซรั่ม
3 - 4 เท่าเลยนะคะ เลยเหมาะกับคนที่ต้องการดูแลจุดด่างดำ รอยสิว แบบเค้านั่นเองค่ะ
 
 
นอกจากนั้นแล้ว ความดีงามคือ ความสะดวก ทั้งในการใช้ และพกพา เพราะเค้าเป็นหัวลูกกลิ้ง 
ถ้าใครอยู่บ้าน ไม่ได้แต่งหน้า ว่างๆ ก็หยิบมาแต้มๆ วนๆ บ่อยๆ
ตรงจุดด่างดำได้เลย สะดวกมากค่ะ ตองชอบ
 
ติดนิดเดียว คือ ความที่เป็นหัวลูกกลิ้งนี่แหละ ทำให้รู้สึกว่าหน้าต้องสะอาดจริงๆ
ถึงจะทาได้ เพราะลูกกลิ้งมันสัมผัสกับหน้าเราโดยตรง
 
กับอีกเรื่องคือตองว่าวัสดุมันเหมือนเป็นแก้วที่น่าจะตกแตกได้
เวลาใช้ต้องระวังไม่ให้มันกลิ้งตกหรือกระแทกอะไรแรงๆ
 
 
: เนื้อสัมผัส :
 
เป็นน้ำใสๆ ไม่มีกลิ่น ซึมได้ง่าย ไม่แสบผิวค่ะ ย้ำว่าไม่แสบผิวจริงๆ ค่ะ
ไม่ได้เหมือนพวกกรดอ่อนๆ ที่เค้าไว้แต้มเพื่อลดเลือนจุดด่างดำแบบที่ตองเคยใช้มาก่อนหน้านี้
 
ที่จะแสบๆ ยิ๊บๆ คันๆ เวลาสัมผัสที่ผิวหน้า ยิ่งถ้าผิวที่บอบบาง
หรือไปกดสิวมาแบบตองบอกเลยว่ารู้สึกไม่ค่อยโอเคค่ะ
แต่ WhitePlus Targeted Spot Brightener ตัวนี้ไม่มีอาการดังกล่าวเลย
 
ตองรู้สึกดีที่ได้ใช้ค่ะ รู้สึกปลอดภัยต่อผิวหน้าดี
 
: วิธีใช้ :
 
เขย่านิดหน่อย แล้วก็กลิ้งเพื่อแต้มตามรอยดำบนผิวได้เลยค่ะ
ทริค: สำหรับรอยสิวที่เพิ่งสดๆ ตองจะรอให้ปากแผลแห้งก่อน แล้วค่อยแต้มค่ะ
 
-
 
แล้วเดี๋ยวมาดูกันเลยดีกว่าว่าหลังจาก 15 วันที่ตองใช้แต้ม
ตอนเช้า - เย็น มีผลเป็นยังไงบ้าง
 
แต่ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า รูปภาพ HD โชว์รอยสิว มากจริงๆ นะคะ
 
หลังจากการไปกดสิวที่อัดแน่นมานาน รอการระบายจากคุณหมอ
และก็มาแน่ๆ พร้อมรอยดำที่ต้องเกิด ตองจึงเลือกที่จะลองใช้
WhitePlus Targeted Spot Brightener มาเป็นตัวช่วยค่ะ
 
12 / 03 / 2562
สภาพผิวหลังไปกดสิว
 
 
ถ้าคนที่เคยกดสิว เห็นการแปะขนาดนี้ ก็จะบอกได้เลยว่า
ปวดร้าวมากกกกแน่นอน ถามว่าจริงมั้ย ตอบเลยว่ามากกกกกก
 
เพราะรอบนี้เค้ามีสิวเม็ดใหญ่ๆ เยอะมาก
เกิดจากที่อากาศอยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนยาสีฟัน รวมไปถึงพักผ่อนน้อยมาก
ทำให้มีสิวเม็ดใหญ่มากขึ้นบริเวณคาง
 
ซึ่งสภาพหลังกด ก็จะมีรู และเลือดเยอะมากบนผิวหน้า
ตองก็จะรอให้ปากแผลแห้งก่อน
ถึงเริ่มใช้ตัว WhitePlus Targeted Spot Brightener ค่ะ
 
ซึ่งหลังจากกดสิวมา 1 วัน ตองก็เริ่มใช้ได้เลย
โดยที่ตองจะใช้ เช้าและเย็นค่ะ
 
ในการแต้มลงบนรอยสิว ทั้งรอยเก่า และรอยใหม่
 
ปล. ในช่วงสัปดาห์ที่ลองใช้ ก็มีสิวขึ้นใหม่มาบ้าง
(สิวใหม่ก็อาศัยยาแต้มสิวช่วยไปก่อนค่ะ) ก็จะเห็นได้ตามรูปเลยนะคะ
 
วันแรก / 5 วัน / 1 สัปดาห์ / 2 สัปดาห์ 
มาให้ดูถึงผลลัพธ์ที่ได้นะคะ
 
 
: ผลลัพธ์ :
 
ที่ประทับใจมากๆ คือรอยหน้าแก้ม เพราะเป็นจุดที่โดยกดสิวหนักที่สุด
ถึงขนาดที่ตัวปากแผลมันปูดเลย เพราะตรงนั้นหลังจากกดแล้ว ผิวตองเป็นรูเลย
 
สำหรับรอยสิวเก่าที่ไม่เข้มมาก
 
WhitePlus Targeted Spot Brightener
ก็ช่วยให้จางลงได้ดีเลยค่ะ
 
สำหรับรอยสิวที่เก่าแต่เข้มมากๆ เลยจะจางได้ยากซึ่งเป็นเรื่องปกติต้องใช้เวลา
 
WhitePlus Targeted Spot Brightener
ก็ช่วยให้เค้าจางลงได้ไวกว่าเดิมนะคะ จากที่ตองลองใช้เอง รู้สึกได้ว่าถ้าเข้มเบอร์หนักๆ 
แต้ม ๆ ไปสัก 7 วันก็ยังเข้มอยู่ แต่ตัวนี้ใช้แล้ว 7 วันก็เห็นถึงโทนสีของจุดด่างดำที่เข้มๆ
จางลงได้แบบชัดขึ้น ตาเปล่ามองแล้วรู้เลย
 
 
มาให้ภาพเล่าเรื่องกันค่ะ
รอยสิวใหม่ รอยเล็กๆ
 
จางลงได้ดีมากๆ บางรอยก็หายไปเลย
 
รอยสิวใหม่ ที่เป็นรอยใหญ่ๆ / ชัดมากๆ
 
จางลงได้ดี อาจจะไม่ได้จางหายไปเลย เพราะจุดนั้นผิวตองช้ำมากๆ
ก็อย่างที่บอกค่ะใช้เวลา และเพิ่มเติมคือขยันทาตัวช่วยลดจุดด่างดำวนไปค่ะ
 
สรุปจบอีกครั้ง
 
ตองว่า WhitePlus Targeted Spot Brightener
ทำหน้าที่ช่วยเยียวยารอยดำจากสิวได้ในระดับที่เราพอใจนะ รอยที่เข้มมากๆ
ไม่ได้ถึงกับหายไปเลย แต่ช่วยให้จางไวขึ้น ส่วนตัวชอบผลลัพธ์มากกว่าที่เคยใช้ยี่ห้ออื่นๆ แต้มมา
 
ชอบมากๆ อีกเรื่องคือเนื้อเอสเซ้นต์ที่เป็นน้ำใสๆ และไม่ทำให้แสบผิว 
 
ตองจึงใช้ทั้งเช้า - เย็นเลยค่ะ
ถือว่าเป็น ไอเทมที่ดีงาม และตอบโจทย์มากๆ
 
เรามาเปรียบเทียบชัดๆ ที่วันแรก และวันที่ 15
 
 
รอยดำที่ไม่เข้มมากแต่กระจายจนดูแน่น ก็จางไปเยอะมากๆ
สำหรับรอยใหม่ ที่ใหญ่มากๆ เป็นร่องรอยแห่งความเจ็บปวด
 
ก็จางลงไปเยอะมากๆ เช่นกัน
 
 
ต้องบอกว่า ตอนแรกไม่คิดว่าเค้าจะจางได้ขนาดนี้
แต่พอเปรียบเทียบชัดแล้ว เค้าจางลงจริงๆ
 
 
โดยรวม ตองว่าตอบโจทย์มากคร่าา
อวดรูปจบสวยๆ หน่อยค่ะ แต่งหน้าเบาๆ ด้วยรองพื้นงานผิวก็มั่นใจขึ้นมากค่ะ
ไม่ต้องปิดผิวแบบช่วงหลังกดสิวอีกแล้ว ดีใจๆ
 
 
อย่าลืมทาครีมกันแดดกันด้วยนะคะ
เพราะที่ทาๆ บำรุงไปจะไม่เกินผลแบบระยะยาวเลย หากเราไม่ป้องกันด้วยค่ะ
 
ไปแล้วน๊าาา มาป้ายยาเท่านี้แหละ
ไปวนๆ ที่รอยสิวต่อละ ~ 
 
แล้วเจอกันใหม่ รีวิว หน้านะคะ
 
xoxo

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ผลลัพธ์​ก่อน-หลังไม่ต่างกันเลยค่ะ  แสงไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง
23 เม.ย. 2562 เวลา 0:00 น.
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณค่ะ
26 เม.ย. 2562 เวลา 9:33 น.
ความคิดเห็นที่ 3

ขอบคุณคร่า คุณ Ayapi ในรูป ถ่ายรูปออกมาอาจจะเห็นความแตกต่างไม่ชัดเท่าไหร่นะคะ แต่ตองไม่ได้ปรับแสงอะไรเลย เพื่อให้เป็นธรรมชาติที่สุดตอนถ่าย ( ความต่างตรง Before เป็นแสงธรรมชาติค่ะ ส่วนแสงตอน After เป็นแสงจากไฟค่ะ ) แต่เวลาตองสังเกตุตัวเองจะเห็นได้เลยว่า รอยจางลง และหน้าใสขึ้นค่ะ พอใจกับผลลัพธ์มากๆ เลยอยากมาแชร์ ^ ^ 

ซึ่งตามรูปผลลัพธ์ตองใช้ไปแค่ 15 วันค่ะ ปกติเป็นคนรอยหายยาก เพราะหลายปัจจัยด้วย แต่ส่วนตัวแล้ว พอใจกับผลลัพธ์ และความแตกต่างที่เห็นได้เลย

ปัจจุบันใช้ติดต่อกันมาเรื่อยๆ รอยจากในรูปก็จางขึ้น และผิวดูดีขึ้นค่ะ ถ้ามีโอกาสจะมาตั้งกระทู้เปรียบเทียบให้ดูใหม่นะคะ

1 พ.ค. 2562 เวลา 20:10 น.
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!Sea Moss Gel คืออะไร? ส่อง 5 คุณประโยชน์ของ Sea Moss ที่สายเฮลตี้ต้องรู้อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 22 - 28 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!