จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่ะทุกคนนน กลับมาเจอกันอีกแล้ว วันนี้จูนจะมารีวิว 6 ไฮยาตัวแม่ที่จูนคิดว่าน่าจะมีใครหลายๆคนที่กำลังสนใจหรือว่ารู้จักกันดีอยู่แล้ว เลยอยากมาทำรีวิวให้เพื่อนๆได้ดูกันว่าแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกันมาก-น้อยแค่ไหน หรือใครที่กำลังสนใจไฮยาตัวไหนอยู่ก็น่าจะเป็นอีก ทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ทั้งนี้จูนขอไม่พูดถึงเรื่องปริมาณ-ราคานะ แต่จะมาพูดถึงฟีลลิ่งหลังจากที่ได้ลองใช้สักระยะ ตามความรู้สึกจริงค่ะ
และนี่ก็คือไฮยาทั้ง 6 ตัวที่จูนได้ทำการทดลองใช้จริงมาสักระยะก่อนที่จะมารีวิวให้ทุกคนได้ดูกัน แต่ก่อนที่เราจะไปเริ่มรีวิวเคยมีใครสงสัยไหมว่า Hyaluronic Acid คืออะไร? คำตอบก็คือมันเป็นกรดที่ร่างกายของเราผลิตขึ้นมาอยู่แล้ว ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามร่างกาย เป็นส่วนผสมหลักในการรักษาริ้วรอยแห่งวัย พบได้ในร่างกายของมนุษย์ตามวุ้นในโพรงลูกตา น้ำหล่อลื่น ข้อต่อต่าง ๆ และเนื้อเยื่อส่วนต่าง และโดยเฉพาะบริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างอวัยวะและเซลล์ เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อการเสียดสีและเพิ่มความยืดหยุ่นนั่นเอง แต่พอเมื่อเราอายุมากขึ้นกรดไฮยาลูโรนิคก็จะลดน้อยลงไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกัน คอลลาเจนและอีลาสติน ในปัจจุบันเลยมีผลิตภัณฑ์มากมายที่มีส่วนผสมของไฮยาลูโรนิคเพื่อเข้าไปเติมเต็มในส่วนที่ร่างกายขาดหายไป เอาหล่ะเราก็พอรู้จักกรดไฮยาลูโรนิคคร่าวๆกันแล้ว ต่อมาเราเริ่มรีวิวกันต่อเลยดีกว่า ไปจ้า
- JGSC Hyaluronic Acid -
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยย เป็นไฮยาลูโรนิคที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจลตัวนี้ได้มากจากเพื่อน มีลักษณะคล้ายๆกับขวดไฮยาฝาม่วงตัวดังเลย แต่ส่วนตัวคือเนื้อเขาจะค่อนข้างเหลวนะนึกว่าเป็นเซรั่มเสียอีก555 และไม่มีกลิ่นด้วย น่าจะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม รายละเอียดอาจจะอธิบายได้ไม่เยอะมากเพราะจากที่ลองค้นหาดูแล้วจะเหมือนไฮยาทั่วไปเลยค่ะ โดยจะมีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นเป็นหลัก
- Hada Labo Premium Lotion -
เป็นแบรนด์ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะเขามีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาเยอะมากกก และเป็นแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่นด้วย ตัวนี้จะเป็นไฮยาในรูปแบบโลชั่นเข้มข้น ถ้าดูจากส่วนประกอบข้างขวดตัวนี้จะมี Hyaluronic Acid 5 ชนิดเลย คือ Hyaluronic Acid, Super Hyaluronic Acid, Nano Hyaluronic Acid, 3D Hyluronic Acid และ Absorbent Hyaluronic Acid และเขาก็บอกด้วยว่าสูตรนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ นำหอมและสีค่ะ ต่อมาเรามาดูที่เนื้อผลิตภัณฑ์กันต่อ ลักษณะจะเป็นเนื้อโลชั่นแบบน้ำ คือเวลาลูบแล้วจะมีความลื่นๆคล้ายเนื้อโลชั่นทาผิว ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ใช้เวลาซึมเข้าผิวไม่นานมากค่ะ
- SOS Hyaluron X3 Concentrate Serum -
มาทางฝั่งของไฮยาในรูปแบบเซรั่มกันบ้างดีกว่า ตัวนี้จะเป็นของแบรนด์ SOS ซึ่งตรงด้านหน้าขวดเขาก็มีเขียนเอาไว้ด้วยว่า Made In Jepan และจากข้อมูลตรงซองของผลิตภัณฑ์ตัวนี้เขาจะมีไฮยาลูโรนิค 3 ขนาดด้วยกันคือ Nano Hyaluron, Super Hyaluron และ Hyaluron ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ค่ะ แต่มีตัวสารกันเสียอยู่ในสูตร ต่อมามาพูดถึงเนื้อผลิตภัณฑ์กันบ้าง ตัวนี้จะเป็นเซรั่มที่ค่อนข้างเกลี่ยง่ายดีค่ะ ซึมไวมาก ถือว่าโอเคนะ
- SKINPLANTS Hyaluronic Oligo Advanced Serum -
ตัวนี้เป็นแบรนด์ของคนไทยอีก 1 แบรนด์ที่น่าสนใจ และสีขวดของเขาก็ค่อนข้างเด่นมาก555 เป็นขวดน้ำเงินใสสวยดี จากข้อมูลที่มีอยู่หลังกล่องจะมีไฮยาลูโรนิค 3 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ Sodium Hyaluronate และ Hydrolyzed Hyaluronic Acid (โมเลกุลขนาดกลาง-เล็ก) ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์และพาราเบน แต่ที่แตกต่างจากตัวอื่นเลยคือนางมีส่วนผสมของน้ำดอกกุหลาบ Rosa Damascena Flower Water ซึ่งเขาบอกว่าจะช่วยปลอบประโลมผิวและลดการอักเสบบนผิวได้ด้วยค่ะ ในเรื่องของตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างแปลกใจเพราะเนื้อเซรั่มเขาค่อนข้างเข้มข้น เกลี่ยง่าย และซึมไวดีค่ะ
- PROVAMED Hyaflash Serum -
มาต่อกันที่แบรนด์ของ PROVAMED กันเลย แพ็คเกจค่อนข้างสะดุดตาสีน่ารักมาก และมีหัวเป็นแบบดรอปเปอร์ จากที่ดูข้อมูลเพิ่มในเว็บไซต์จะมีส่วนผสมของ Sodium Hyaluronate(ขนาดใหญ่), สาหร่ายสีแดง และวิตามิน B5 ค่ะ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และซิลิโคน เนื้อค่อนข้างเหลว และเกลี่ยง่ายค่ะ
- GIFFARINE Hya Intensive Whitening Pre-Serum -
มาถึงตัวสุดท้ายเป็นของแบรนด์กิฟฟารีน ที่ได้พี่อั้มพัชราภามาเป็นพรีเซนเตอร์ บอกเลยว่าแพ็คเกจชวนน่าซือมาก ดูเรียบแต่เก่ๆ ดี จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่อยู่ด้านหลังจะเป็นเซรั่มไฮยาเข้มข้น เป็นไฮยาที่นำเข้าจากประเทศเยอรมัน มีส่วนผสมหลักๆ คือ Sodium Hyaluronate, Flower Extract, Caviar Lime Extract และ Sakura Extract ไม่มีสีและพาราเบน แต่แอบมีน้ำหอมนะ ถ้าดูจากส่วนผสมที่เขาชูคือมีความเล่นในเรื่องของผิวกระจ่างใสเข้ามาด้วย ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์จะค่อนข้างเหลวและพอเกลี่ยจะลื่นๆคล้ายน้ำเลย
ทดสอบการซึมเข้าผิวของผลิตภัณฑ์
สรุปจากการที่ได้ทดลองหยดไฮยาทั้ง 6 ตัว อย่างละ 1 หยดและทำการเกลี่ยโดยทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ตัวที่ซึมแล้วแห้งไวมากที่สุดคือของแบรนด์ SKINPLANTS, SOS และ JGSC ค่ะ ซึมเข้าผิวไวมากก โดยไม่ทิ้งความเหนีวเหนอะหนะไว้บนผิวเลย ส่วนตัวอื่นๆ ก็จะซึมไวรองลงมา แต่พอ 1 นาทีก็คือเกือบแห้งไปกับผิวเลยทุกตัว
ทดสอบความชุ่มชื้นของผิว
สรุปจากการทดสอบความชุ่มชื้นของผลิตภัณฑ์ทั้ง 6 แบรนด์ ซึ่งรูปฝั่งซ้ายจะเป็นรูปก่อนทาไฮยาบนผิวแฃ้วใช้เครื่องตรวจค่าความชุ่มชื้นก่อนทาไฮยา และฝั่งขวาจะเป็นรูปที่ทาไฮยาบนผิวเรียบร้อยแล้วใช้เครื่องตรวจอีกครั้ง ซึ่งได้ข้อสรุปออกมาว่าไฮยาที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวมากที่สุดคือแบรนด์ GIFFARINE, SKINPLANTS และ SOS ค่ะ
เอาหล่ะก็ขอจบการรีวิวไฮยาไว้พียงเท่านี้ หรือถ้าใครที่เคยลองใช้ตัวไหนมาแล้วอยากจะเมาท์มอยก็คอมเม้นรีวิวกันมาได้เลยนะ จะได้แลกเปลี่ยนความคิดกันค่ะ ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้คือจูนอาจไม่ได้ฟันธงว่าแต่ละแบรนด์จะดีหรือไม่ดีต่างกันอย่างไร เพราะว่าข้อดี/ข้อเสียของแต่ละตัวก็แตกต่างกันไป และต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวของเราเป็นหลักด้วย ดังนั้นก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สิ่งแรกคือดูส่วนผสมให้ละเอียดว่ามีตัวไหนที่เราแพ้บ้างจะได้ปลอดภัยกับผิวเราด้วยค่ะ สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้จะมารีวิวให้ดูกันอีกนะคะ บ๊ายบายยXOXO
ขอบคุณค่ะ