จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีเพื่อนๆ Cosmenet วันนี้เรามีไอเท็มจัดการสิวมาแชร์ค่ะ บอกเลยว่าหลายคนต้องเคยใช้แต่เรานี่ซิไปอยู่ไหนมาเพิ่งจะได้ลอง
นั่นคือ “Differin”
จะบอกว่าเจ้าหลอดนี้เป็นยารักษาสิวขั้นพื้นฐานที่คนเป็นสิวส่วนใหญ่ใช้กัน
ปกติเราจะใช้เฉพาะพวกครีมแต้มสิวที่อยู่ในกลุ่มสกินแคร์
แต่มันจะช่วยให้สิวหายแบบระยะสั้นๆ
ซึ่งหาข้อมูลเจอหลายคนแนะนำหลอดนี้ เอาไว้เคลียร์สิวให้ผิวใสแบบยาวๆ เราเลยต้องลองบ้าง
นี่คือสภาพผิวที่เป็นสิวตรงต้นคอของเราก่อนใช้ Differin จะมีพวกสิวอักเสบกับสิวอุดตัน
ซึ่งเราเริ่มใช้ยาตัวนี้ควบคู่กับครีมแต้มสิวที่ใช้อยู่ประจำ
วิธีใช้ :
ทาบางๆบริเวณผิวที่เป็นสิวก่อนนอนวันละครั้ง (ตอนเช้าห้ามลืมทากันแดดเด็ดขาด ผิวจะได้ไม่แสบแดงหรือไหม้หนักเกินไป)
ผลช่วงอาทิตย์แรกนี่ทำเราเครียดเลยเพราะ Differin มีตัวยาอะดาพาลีน (Adapalane) ที่มีคุณสมบัติปรับสมดุลผิว มันจะผลักสิวใต้ชั้นผิวให้ออกมา ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวให้น้อยลง เราเองรู้สึกไม่มั่นใจจนต้องใช้แป้งกลบสิวเวลาออกไปข้างนอกทุกครั้ง (ตามรูปด้านล่าง)
ผลข้างเคียง :
อาจจะมีอาการแสบผิว/ผิวแดงบ้างเล็กน้อย
แนะนำให้ลดความถี่ในการใช้ลงจากทุกคืน เป็นวันเว้นวัน หรือวันเว้น 2 วัน ผิวก็จะดีขึ้น
ส่วนนี่คือสภาพผิวหลังใช้ยาไปซัก 15 วัน
สิวที่เห่อเป็นสิวอักเสบหายไป ด้วยการดูแลความสะอาดผิวจริงจัง+แต้มครีมลดสิว+Differin สม่ำเสมอ
ซึ่งมันทำให้ผิวดีขึ้นเยอะ ถือว่าโอเคมากสำหรับเราใช้ยาควบคู่กับสกินแคร์รักษาสิว
.
.
.
สรุปจากความรู้สึกส่วนตัว :
- ผิวเป็นสิวน้อยลงเยอะ แต่ระหว่างใช้ Differin อาจมีผลข้างเคียง แนะนำให้ปรับการใช้ให้เหมาะแต่ละคน
- สิวเห่อเมื่อใช้ไปซักระยะ เพราะมีตัวยากลุ่มเรตินอยด์ เหมือน Retin A แต่ตัวนี้มีผลเรื่องอาการระคายเคืองน้อยกว่า
- ผิวอาจแสบ/แดงง่ายหน่อย ควรทากันแดดทุกครั้งในตอนเช้า
- การรักษาสิวที่ดีคือใช้ยาช่วยดูแลปัญหาสิวแบบระยะยาว + สกินแคร์ที่ช่วยจัดการสิวระยะสั้น เพื่อการเคลียร์สิวอย่างมีประสิทธิภาพ
เราเองก็ใช้แล้วมีอาการระคายเคืองผิว เลยลองปรึกษาเพื่อนที่เป็นเภสัช เค้าแนะนำให้ลดความถี่ในการใช้ หรือไม่ก็หยุดใช้ไปก่อน เพราะสารกลุ่มเรตินอยด์มีผลต่อสภาพผิวที่ไม่แข็งแรง แต่ Adapalene นี่คือให้ผลข้างเคียงกับผิวน้อยสุดแล้ว ปลอดภัยต่อผิว ตอนนี้เราก็ยังใช้อยู่
thanks