ใครเคยคิดแบบเราบ้าง??? คือเกิดเป็นสาวไทยแต่ดันอยากจะมีผิวขาวใสเหมือนสาวเมืองยุ่น.. แต่ดันมีเพื่อนชื่อ “พระอาทิตย์” ที่เป็นเงาตามตัวอยู่ตลอดขนาดนี้ บวกกับเราชอบเป็นสิวอักเสบ แล้วมันก็ทิ้งรอยดำ รอยแดงที่หายค่อนข้างช้า อยากจะแต่งหน้าบางๆ โชว์ผิวใสๆ ก็คงจะยาก
แต่หญิงไทยอย่างเราไม่ละความพยายามจ่ะ ด้วยความที่อยากจะมีผิวไบรท์ ความวิ้ง ความออร่าบ้าง ก็เริ่มถามอากู๋ เริ่มอ่านรีวิวแบบจริงจัง หลายคนเค้าก็บอกว่าสกินแคร์พวก Vit C อะไรเทือกนี้จะเห็นผลไวเรื่องความกระจ่างใส พอเราเลือกที่จะลองใช้ Vit C หลังจากได้อ่านกระทู้ ได้อ่านพวกบทความคุณหมอ หรือบล็อกเกอร์รีวิวต่างๆ
ก็เกิดหลักการเราเลือกประมาณนี้
- เราจะเลือกแบบที่เป็น Pure Vitamin C คือมันจะเป็นวิตามินซีบริสุทธิ์เข้มข้น และซึมเข้าผิวเราได้ลึกกว่า
- เนื้อสกินแคร์ อะไรที่เป็นแบบ ครีม , Silicone ก็จะตัดทิ้ง เพราะว่าเราเป็นสิวค่อนข้างง่าย กลัวว่ามันจะอุดตัน
- เรื่องแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เรื่องความปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย เพราะกลัวจะแพ้ กลัวโดน Vit C กัดหน้าบาง
- และสุดท้ายเรื่องราคา ถ้าไม่เกิน 1,000 ก็ถือว่าน่าลองซื้อมาใช้ เพราะถ้าดีก็จะได้ใช้ยาวๆเวลาไม่ต้องรู้สึกว่าแพงเวลาต้องซื้อตอนมันหมด
ซึ่งสุดท้ายตัดไปตัดมา ทั้งอ่านทั้งดูรีวิวต่างๆ ตัวที่เข้าตาสุดก็เป็นตัวเอสเซ้นซ์ Melano CC จากการได้ดูรีวิวของคุณ mhunoiii/คุณแป้ง Kirari บิวตี้บล็อกเกอร์ที่มีสีผิวและปัญหาเรื่องรอยสิวคล้ายๆ กับเรา แล้วมันดูเวิร์ค ทนกระแสไม่ไหวก็เลยตัดสินใจสอยมาเลยจ้า
อะ...มาดูกันว่าสรรพคุณนางมีอะไรบ้าง
- อันดับแรกเลยจ้า คือนางเป็นเอสเซ้นซ์ตัวดังของญี่ปุ่น ที่เป็นวิตามินซีเข้มข้น (Pure Vitamin C) ที่เราบอกว่ามันซึมเข้าผิวได้ดี และเค้าเคลมว่าเห็นผลใน 14 วัน
- มีสารหลักๆ คือ Pure Vitamin C / Vitamin E / Alpinia White ที่ช่วยเรื่องกระจ่างใสลดจุดด่างดำ กระชับรูขุมขน ช่วยให้ความชุ่มชื่น กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- เนื้อสกินแคร์เป็นแบบเอสเซ้นซ์ ไม่เสี่ยงอุดตัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ และคิดว่าซึมผิวน่าจะไว
- ไม่มีสี ไม่มีพาราเบน เลยไม่เสี่ยงต่อการแพ้
- ส่วนตัวหลอดเป็นแบบทึบแสง กันแสงได้ 100% และเป็นหัวแบบบีบที่เอสเซ้นส์หยดออกมาทีละหยด และอากาศก็ไม่สามารถเข้าได้ ก็ไม่ต้องคอยมานั่งกังวลโดนแสง โดนอากาศ เพราะว่าพวก Pure Vitamin C มันค่อนข้างที่จะเซ้นซิทีฟต่อแสง และอากาศ ถ้าโดนบ่อยๆ วิตามินซีก็จะค่อยๆ เสื่อมคุณภาพ คือเหมือนทาไปก็ไม่เห็นผลประมาณนั้น (ซึ่ง Vit C บางตัวมาแบบขวดใสแล้วมีหลอดดรอป เราว่ามันก็ยังคุมปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ 100% อะ)
- และสุดท้ายราคาน่ารัก 480 บาท ก็เลยซื้อแบบไม่ลังเล
การใช้ความรู้สึกหลังใช้
- ตอนแรกอาจจะไม่ค่อยชินกับการเป็นเนื้อเอสเซ้นซ์มันหยดออกมาค่อนข้างช้า และค่อยๆ ออกมาทีละหยดจริงๆ แต่ก็รู้สึกว่าทำให้กะปริมาณได้ดี แต่มันให้ฟีลลิ่งแบบนี่แหละวิตามินซีคุณภาพ 100% สดๆ แล้วก็เอาทาหน้าเราเลย (มันรู้สึกดีอะ)
- เนื้อเอสเซ้นซ์ใสๆ มีความเหลวแต่ยังมีความหนืดอยู่นิดๆ ซึมเข้าผิวไว ซึ่งระหว่างก็นวดๆ จะมีความรู้สึกอุ่นๆ ผิว (เราจะลงตัวนี้เป็นตัวแรกสุด และค่อยทาสกินแคร์ตัวอื่นๆ ตาม เพราะเนื้อเบาบางสุด ซึ่งสกินแคร์ตัวอื่นๆ เราก็จะเป็นพวกให้ความชุ่มชื่น ผิวหน้าแข็งแรง ตัวที่เราใช้คู่กันคือตัว biotherm แพลงตอน)
- หลังจากเริ่มใช้เรื่อยๆ ประมาณ 1 วีค รู้สึกได้ว่าสีผิวมันสม่ำเสมอขึ้น > หลังใช้ 2 วีค รอยสิวดูจางลงจริงๆ (เพราะเราจะทาทั่วทั้งหน้าก่อน 1 ครั้ง และใช้แต้มตรงรอยสิว อีก 1 ครั้ง) และผิวหน้าก็ค่อยๆ รู้สึกว่ากระจ่างใสขึ้น คือหน้าไม่ได้ขาวไวแบบเกินกว่าคอนะ อันนั้นคือน่ากลัวเกิน แต่คือผิวหน้ามันสว่างขึ้น ผิวดูใสๆ ดูไบรท์ขึ้น เรียบเนียนขึ้นประมาณนั้นอะ
- ระหว่างใช้ ก็ไม่รู้สึกว่าแพ้เลยนะ ไม่คัน โดนแดดไม่แสบ คือมันเป็นเปอร์เซนต์ที่เห็นผล แต่ไม่กัดผิว ชอบตรงนี้
อันนี้เราเอาผลหลังการใช้ 2 วีค มาให้ดู รอยสิวจะดูจางๆลง หน้าดูไบร์ทขึ้น
และนี่ก็คือความพยายามเฟ้นหา Vit C ที่ใช้ถูกกับผิวหน้าจนเจอ และตอนนี้ก็ได้ผิวที่ดีขึ้นอย่างที่ใจอยากแล้วว บางวันแค่ทาสกินแคร์ ลงกันแดด ปัดขนตา ปัดแก้มสีส้มบ่มแดด ทาลิปสีส้มอิฐ ก็รู้สึกฟีลกู้ดละอะะะ แบบได้โชว์ผิวสุขภาพดี แต่ถ้าวันไหนแดดแรงก็ใส่หมวกหน่อยเน้อ ช่วยกันเซฟผิวเท่าที่จะทำได้
และสำหรับใครที่กำลังมองหาสกินแคร์ช่วยให้เรื่องกระจ่างใสสักตัว ลองเริ่มจาก Melano CC ก็ได้นะ คือได้ Vit C แบบเข้มข้นจริงๆ และเห็นผล ในราคาที่แบบน่ารักด้วย
Wow ขอบคุณค่ะ