จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงฮาโหลลลล สวัสดีค่ะทุกคน บีกลับมาพร้อมกับคำสัญญากระทู้ก่อนหน้า ที่บอกว่าได้ Luna 2 สีชมพู เป็นของขวัญคริสต์มาสจากสามี และจะนำมารีวิว วันนี้บีก็เอามารีวิวแล้วค่า
เดี๋ยวจะขอแบ่งเป็นหัวข้อ จะได้อ่านง่ายๆ นะคะ
ขอพูดถึงสภาพผิวโดยรวมของบีนะคะ
เป็นคนผิวแห้งค่ะ ก่อนหน้านี้ตอนเป็นสาวๆ 555 วัยทีน ลักษณะผิวจะออกผสม คือทีโซนมันแพร่บ แก้มจะแห้งค่ะ พอมีลูก อายุเตะ 25 ก็รู้สึกว่าผิวเปลี่ยนไป คือกลายเป็นผิวแห้งแทน หน้ามันน้อยลงมาก ถ้าช่วงไหนไม่บำรุงผิวก็จะแห้งกร้านค่ะ
ส่วนเรื่องสิวอุดตัน และปัญหาสิวต่างๆ ก็ไม่ค่อยมีค่ะ เรียกได้ว่าหายวับไปกับตาตั้งแต่เรียนจบมหาลัยมาเลย55 จะมีก็แต่สิวเสี้ยน มีบ่อยมากกก ข้างจมูก ใต้คางนี่เจ้าประจำ
ทำไมถึงใช้สีชมพู
คือต้องบอกว่าอันนี้สามีซื้อมาให้เป็นของขวัญ เลยไม่มีโอกาสได้เลือกเอง
แต่ก่อนหน้านี้ที่คิดจะซื้อเอง ก็ลังเลมาตลอดว่าจะซื้อ Luna สีม่วง สำหรับผิวบอบบาง หรือสีชมพู สำหรับผิวธรรมดาดี
เพราะพยายามอ่านรีวิว ก็ไม่มีอันไหนเขียนว่าผิวแห้งควรใช้ตัวไหนกันแน่
งงมากกก แบรนด์ระบุว่ามีหลายสภาพผิวให้เลือก แต่มันไม่มีผิวแห้ง!!
ก่อนหน้านี้ก็เลยคิดว่า งั้นเอาสีชมพูนี่แหละ เพราะมีขนแปรงแบบ 2 ชนิด น่าจะคุ้มกว่าสีม่วง ที่มีแปรงแบบเดียว (เอ้า คิดแบบนี้ก็ได้หรอ55)
ทำไมไม่ซื้อ Luna 3
ก่อนหน้านี้เล็ง Luna 2 มาตลอด เพราะรู้สึกว่า Luna 3 มันพ่วงกับแอพค่ะ จะนวดหน้าแต่ละที ต้องเอาโทรศัพท์มาลิ้งๆ ด้วย ลำบากมาก สำหรับคนขี้เกียจแบบบี แหะๆ ขอโทษนะคะ พูดตรงไปหน่อย แฉตัวเอง5555
First Impression
รู้สึกว่าขนาดพอดี เบามากกก ก่อนหน้านี้ดูในรีวิวมันน่าจะหนักเอาเรื่อง ที่ไหนได้ เบาหวิว คิดว่าน่าจะพกพาง่ายด้วย
พอเลยเปิดดู โอโหหห นางสั่นแรงอยู่เด้อ สะเทือนมือเด้อ555 ต้องปรับระดับลงอย่างไว
และบีชอบการที่ไม่ต้องชาร์จแบตบ่อยๆ ชาร์จครั้งนึงอยู่ได้หลายเดือนเลย
วิธีใช้
ได้มาปุ้บ เปิดกล่อง ให้ขูดๆ เจ้าสีชมพูนี้ก่อนเลย แล้วเอาไปลงทะเบียนที่เว็บ Foreo ค่ะ ถ้าลงแล้วได้ แปลว่าได้รับการการันตี 2 ปีแล้วค่ะ
จากนั้นก็จัดการปลดล็อคเครื่อง คือกดปุ่ม + และ - พร้อมกัน 1 ครั้งค่ะ จากนั้นก็เริ่มใช้งานตามนี้เลย
ทดลองใช้วันแรก
วันนั้นแต่งหน้าพอดี วิธีใช้คือล้างเครื่องสำอางด้วยบรรดาคลีนซิ่งวอเตอร์ที่ใช้ประจำ แล้วบีบโฟมล้างหน้า แปะๆ ทั่วใบหน้า จากนั้นก็ใช้เครื่องเลย
ความรู้สึกแรกคือ เห้ยยย หน้าสะอาดจริง ดีจริงมากกก เพราะเจ้าตัวแปรงมันดึงเศษรองพื้นที่ติดผิวเราออกมาได้อีกด้วย นี่ถ้าไม่มีตัวนี่ คงคิดมาตลอดว่าหน้าเราเนี่ย ล้างได้สะอาดแล้วสะอีก
ส่วนตัวนวดหน้า ยังใช้แบบงงๆ แต่ก็รู้สึกว่ามันทำให้ครีมซึมเข้าผิวดีนะ แทบรู้สึกฟินๆ ตอนใช้ด้วย
วันที่ 3-4 เริ่มประสบปัญหา
บีใช้เฉพาะแค่ตอนเย็น ต้องบอกก่อนว่า บีอยู่บ้านตลอด และไม่ได้แต่งหน้านะคะ
ปัญหาที่พบคือ แสบหน้า เห้ยยยย ไม่ได้แสบแบบรุนแรง แต่ก็รู้สึกเลยว่าข้างแก้มมีความแสบๆ นิดๆ คิดว่ามันคงระรายเคืองแหละแต่ก็ทนใช้มาเรื่อยๆ
หลังใช้ได้ประมาณ 10 กว่าวัน
จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าแสบๆ นิดๆ เวลาที่บีใช้เนี่ย บีไม่ได้กดแรงเลยนะคะ แต่ไม่แน่ใจว่าเราใช้ช่วงหัวแปรงเยอะไปนิดรึเปล่า ช่วงหลังเลยพยายามใช้ช่วงกลางๆ ตัวเครื่อง อาการแสบก็ลดน้อยลง แต่ก็ยังแสบอยู่เด้อ
ส่วนสิวเสี้ยน ลดน้อยลงไปมากกกก จากแต่ก่อน มีเยอะมาก ตอนนี้ก็ลดไป 70 เปอร์เซ็นต์ได้ แต่ก็ไม่หมดจดสักทีเดียวนะคะ ยังมีประปรายแหละ
โดยรวมประทับใจมั้ย
ตัวเครื่องเบากว่าที่คิดไว้มาก ขนาดกำลังดี พกพาได้แหละ ชอบการกันน้ำได้ดีด้วย แถมไม่ต้องชาร์จแบตบ่อยๆ ที่สำหรับอ่านมาว่าซิลิโคนเค้าป้องกันพวกเชื้อราได้ ไม่มีเชื้อราแน่นอน
ประทับใจในเรื่องของการทำความสะอาด ทำความสะอาดดีจริง สิวเสี้ยนลดลง
แต่ก็คงให้สัก 7/10 คะแนนเท่านั้น เพราะรู้สึกว่าสีชมพูนี้ ช่างไม่เหมาะกับคนผิวแห้งเลย ฮือออออ ถ้ามีโอกาส (คิดว่าถ้ามี555 แต่ด้วยราคา ก็คงต้องคิดต่ออีกสักพัก เพราะไม่รู้ว่าตัวม่วงจะดีกว่าจริงมั้ย) ก็อยากจะสอยสีม่วงมาลอง แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่า ลังเลค่ะ555 กลัวว่าจริงๆ แล้วมันจะไม่เหมาะกับผิวเราเลยสักตัว
แนะนำว่า
ถ้าใครผิวแห้ง เพื่อความเซฟตัวเอง ถอยสีม่วงมาน่าจะดีกว่า เพราะบีว่าสีชมพู อาจจะแสบหน้านิดๆ ก็ได้ ส่วนตัวยังไม่เคยลองสีม่วง แต่คิดว่าน่าจะอ่อนโยนกับคนผิวแห้งมากกว่าสีชมพูเยอะนะคะ
อันนี้ก็เป็นรีวิวจากบี ที่มาจากการใช้งานจริง และความรู้สึกจริงล้วนๆ เลย ก็หวังว่าสาวๆ หลายๆ คนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจหรือกำลังหาข้อมูล Foreo อยู่ จะได้ประโยชน์จากรีวิวนี้กันนะคะ
ส่วนวันนี้บีก็ขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ บ๊ายๆ
ขอบคุณค่ะ