จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงพกเที่ยวอุ่นใจกับ 2 ไอเทมสุดเลิฟ Damascan Rose และ B&C
จาก Aesop สภาวะอากาศแบบไหนผิวก็รอด!!!
หลังจากที่รีวิวมหากาพย์ไปเที่ยวอิตาลีของเกลเมื่อวีคที่ผ่านมานั้นน
วันนี้ก็พร้อมมาบอกต่อ สกินแคร์ที่พกไปแค่ 2 ตัว
และเอาอยู่กับอากาศแค่ 0-10 องศา ที่ต้องเจอตอน Shopping Time ของเกล
แต่ก่อนที่จะไปรีวิวนั้นน นี่ขอพาไปชมแหละซื้อของในอิตาลีกันก่อนจ้าแม่
เมืองเวโรน่า ที่มีแหล่งของขา Shopping แบบเกลจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Arena เลยค่ะ
ร้านก็มีหลากหลาย ครบทุกแบรนด์ที่อยากได้ ตั้งแต่ราคาถูกไปจนระดับแพงมากกก
ที่นี่หน่องพุ่งตรงไปร้าน KIKO เป็นแบรนด์เครื่องสำอางทืทุกคนต้องซื้อเป็นของฝาก
หรือใช้เองก็ได้ อารมณ์มิสทีม Cute Press หรือ Beauty buffet ทำนองนั้นอ่ะแหละ
โอยยย ดูสิ่มีของหน้าใช้เต็มไปหมด เรียกได้ว่าครบเครื่องตั้งแต่ผมไปถึงเท้าเลยนะ
มาร้านนี้ร้านเดียวจบ แถมยังได้โปร 3 แถม 3 วัน Black Friday ไปอีก ฟินน
พาเลทสีงามต่างๆก็เยอะ
หรือจะเป็น Eyes Shadow นี่ก็ดีเด้ออ ขาดสีไหนซื้อเติมสีเดียวจบๆไปจ้า
สำหรับร้านนี้เกลและคุณแม่สอย ลิปติก และ Eyes Shadow คนละสิบอันได้ ฮ่าๆ
สำหรับราคาต่อชิ้นก็อยู่ที่ 100-300 บาท เท่านั้นจ้า
พอเริ่มจับหน้าตัวเองก็รู้เลยว่า เริ่มมีอาการแห้ง และแสบจมูก
กับอากาศประมาณ2 - 5 องศา ซึ่งเกลก็คิดอยู่นานมากก
ว่าระหว่างอยู่ที่นี่ มีครีมอะไรมาบ้าง และจำได้ว่าพกเจ้า 2 ตัวนี้มาด้วย
นั่นก็คือเจ้า Aesop : Damascan Rose Facial Treatment และ Aesop : B & C Facial Balancing Gel
และแน่นอนว่าเหตุผลในการพกมาก็นั่นแหละฮะ รู้อยู่แล้วว่าจะหนาว
แต่ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ เลยเอามาแค่สองตัวก็พอ นอกนั้นจะเป็นครีมกันแดดและเครื่องสำอาง
ซึ่งตัวแรก Aesop : Damascan Rose Facial Treatment จะเป็นเซรั่มเนื้อออยส์
ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง นุ่มฟูมีชีวิต ชีวา ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ ตัวนี้ตอบโจทย์ตรงที่เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวที่อ่อนล้า
อาจจะเกิดจากความเครียดหรือสภาพอากาศ ส่วนผสมหลักๆก็จะมี น้ำมันสกัดจากพืชพรรณ 11 ชนิด เช่น
กลีบกุหลาบดามัสก์ ดอกส้มเนโรลิ เป็นต้นค่า
ตัวที่สอง Aesop : B & C Facial Balancing Gel เป็นมอยซ์เจอไรเซฮร์เนื้อเจลที่อุดมไปด้วยวิตามินซีเข้มข้น ทำให้ผิวกระจ่างใส
เนียนนุ่ม อีกทั้งยังช่วยบำรุงและปรับสมดุลผิวอีกด้วยน้า ชอบที่เนื้อของนางแปลกอ่ะ
ที่สอยมาเพราะอ่านรีวิวเยอะมากกก ว่านางดีนางเลิศ ตรงที่เป็นเนื้อเจลคล้ายน้ำผึ้ง แต่พอนวดวนไปแล้วแตกตัวเป็นน้ำ
ทาละแห้งซึมไปเลย เลิศเวอร์
อ่ะเราก็รู้แล้วแหละว่ามีของดีอยู่ในกระเป๋า แบกหน้าท้าลมหนาว(มากกกก) ต่อกันเถอะค่า
ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์รวมของคนที่มาเที่ยวเมืองมิลาน ใครมาถึงก็ต้องแวะเดินช้อปกันหน่อย
และห้างเล็กๆก็ซ่อนในนี้มากอยู่ ถ้ารู้แหล่งคือของถูกหาไม่ยากเลย
ความหรูหราไม่ต้องบอก ดูจากแบรนด์ตามทางเดินก็รู้ ฮี่ๆ
แต่วันนี้เกลจะขอพามาร้าน PIUMELLI เป็นแบรนด์ Local ของที่นี่ กระเป๋าทุกใบจะประทับตรา
Made in MILANO คือมาถึงที่เราก็ควรมีกลับไปใบสองใบเด้อ
อันนี้เป็นตัวอย่างกระเป๋าในร้าน คือแบบเลือกเยอะมากจ้า วิธีของเกลในการเลือกก็คือ
เห็นแล้วสะดุดตา ก็ซื้อเลย อิอิ
ของเกลจะเป็นใบสีดำนี้ฮะ ชอบมากกกก
อ่ะแหล่งต่อมา เป็นร้านขายของฝากสุดน่ารักที่ Vernazza ขายทุกอย่างที่เป็นของฝากอิตาลี
ไม่ว่าจะเป็นเส้นพาสต้า เหล้ามะนาว กา ไวน์ สบู่ เครื่องหนังเล็กๆ ของใช้นิดหน่อย หาได้ที่ร้านนี้เลย
มาล้มละลายกันต่อที่ The Mall Outlet เมือง Florence กันเจ้า
ที่นี่โด่งดังมากว่า Gucci กับ Prada ถูกมากกก
อยากได้ของถูกและดีต้องมาช้อปแบรนด์เนม เพราะเราสามารถทำคืน Tax Refund ได้ 12-14% ซึ่งถือว่าเยอะจริงๆอ่ะ
ส่วนเกลนั้นขอข้ามสองแบรนด์นี้ไปก่อน ได้กระเป๋า MK กับ แว่นตา Armani มาแทน
ราคาก็ตกชิ้นละประมาณ 3000-4000 บาทเจ้า
มามะ ไปต่อกันที่ บันไดสเปน กรุงโรมนั่นเอง
ตรงนี้ก็ขอพุ่งตัวไปที่ห้างรีนาเซนเต้ เป็นของเครือเ Central บ้านเราเอง
ทางเดินก็เหมือนเป็นทางลาดขึ้นๆ ลงๆไปเรื่อยๆ
จะบอกว่าถ้ามาถึงถิ่นแล้ว แบรนด์ราคาถูกๆจะเป็นชื่อของอิตาลี ฝรั่งเศส แบบนี้จะถูกกว่าไทยมาก
เช่น ESTEE, LANCOME, EUCERINE อะไรแบบนี้ต้องจัดดด
และมีอีกอย่างนึงที่หาซื้อได้ในราคาไม่แรงก็คือกระเป๋าจากผ้าใบรถบรรทุกฮอตฮิต FREITAG
มาถึงและจะได้ลายสวยๆกลับไปถูกใจแน่นอน แต่หน่องไม่อิน เลยผ่านชมจ้า
ก็หมดกันไปแล้วกับแหล่งช้อปปิ้งสินค้าราคาประหยัดของเกล
หน้านี่เริ่มตึงๆ มีพี่ๆที่ไปด้วยกันถามว่าเอ้ออ ใช้ครีมอะไรทำไมหน้าที่แห้งๆจากวันแรก มันดีขึ้นแล้วง่ะ
หน่องก็อยากให้มารวมกันตรงนี้เลย
ซึ่งเจ้า Aesop : Damascan Rose Facial Treatment
เกลจะนวดทั่วใบหน้าและทาเฉพาะตอนกลางคืนค่ะ
จริงๆเค้าให้ใช้แค่ 3 หยดก็เพียงพอ แต่เราเจออากาศเย็นมาก ขอใช้เยอะนิดนึง แฮ่ๆ
หลังจากนวดเซรั่มเนื้อออยส์ทั่วหน้าแล้ว ผิวของเกลดูเปล่งปลั่ง และชุ่มชื่นทันทีหลังทา
ผิวแพ้ง่ายก็จะชนะแบบใสใส อ่ะสะบัดบ้อบบ
ตัวถัดมา Aesop : B & C Facial Balancing Gel
เกลทาตัวนี้ทั้งเช้าและก่อนนอนค่ะ จากเนื้อเจลคล้ายผึ้งเหมือนจะเหนียวและหนักหน้า
แต่ว่าเรานวดจริงๆแล้วจะแตกตัวกลายเป็นน้ำ ซึมไวสุดดด
ผิวหน้าหลังทาทันทีก็จะโกลวประมานนี้เลยเจ้า ชุ่มชื่นมากกกก
มันจะได้ฟีลใส นุ่มน่าจับอ่า อยากให้ทุกคนลอง
ภาพก่อนใช้ในวันแรกจะน่ากลัวหน่อย เพราะผิวแห้งและกระด้างสุด
รอยแพ้ แดงรอบจมูกนำมาก่อนเลยค่ะคุ๊น แต่พอใช้ทั้งสองตัวควบคู่กันตลอดทั้งทริป
จะเห็นว่าผิวหน้าของเกลดูมีน้ำมีนวล ไม่แห้งเสียอีกแล้วว ฮือออ กราบตัวเองที่แบกไป
ไม่งั้นกลับไทยหน้าแหกเวอร์แน่ๆ โถ้วว
กลับมาไทยคราวนี้ก็ขึ้นแท่นเป็นลูกรักที่ต้องใช้ประจำทุกวัน
จากเมื่อก่อนมีนอกใจบ้าง เดี๋ยวนี้ขาดไม่ได้เลยยย ฮ่าๆ
นี่จะบอกว่า ผิวเรากว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ต้องใช้เวลาตั้งนาน
แต่พอเราออกไปเจอฝุ่น แดด มลภาวะต่างๆ แค่นี้ผิวก็ถูกทำลายแล้ว
เกลอยากให้ทุกคนบำรุงผิวกันเยอะๆนะค้า ใส่ใจอีกนิด หน้าเด็กมาแน่จ้าแม่
อ่ะสำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีค่า
ขอบคุณค่ะ