อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!

navigate_beforeย้อนกลับ

0 

ทำความรู้จักกับสกินแคร์ 100% Natural อย่างแบรนด์ Living Nature จากประเทศนิวซีแลนด์

ทำความรู้จักกับสกินแคร์ 100% Natural อย่างแบรนด์ Living Nature จากประเทศนิวซีแลนด์

Living Nature

เราเชื่อว่าปัจจัยหนึ่งที่หลายคนใช้ในการเลือกสกินแคร์นั่นก็ คือ "ความปลอดภัย" เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บนใบหน้า ซึ่งเราก็เชื่อมาตลอดว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาตินั้น ย่อมมีความอ่อนโยน ปลอดภัย และเข้ากับผิวของมนุษย์ได้ดีกว่าสารที่สังเคราะห์ขึ้น อย่างล่าสุดที่เราได้รู้จักกับแบรนด์ Living Nature แบรนด์สกินแคร์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ส่งตรงจากประเทศนิวซีแลนด์ 

 

 

 

แถมยังได้รับการรับรองจาก BDIH(Bundesverband der Industrie- und Handelsunternehmen) ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศเยอรมัน เป็นองค์กรระดับโลกที่ไม่แสวงหาผลกำไร ทำหน้าที่ในการตั้งมาตรฐานและตรวจสอบความเป็นธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ ซึ่งกว่าจะผ่านด่าน 18 อรหันต์มาได้นั้นก็ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในเรื่องควบคุมตั้งแต่การปลูกพืชพรรณ ส่วนผสม ตลอดจนกระบวนการผลิต เรียกว่าเป็นอะไรที่โหดหินเอาเรื่องเลยทีเดียวหละครับ แต่จะให้เรามาพูดแบบนี้ก็คงจะไม่เห็นภาพจริงไหมหละครับ เอาเป็นเราไปดูกันดีกว่าเราได้ไอเทมไหนมาลองบ้าง และแต่ละตัวนั้นน่าสนใจอย่างไร ไปชมกันเลยครับ...

 

Living Nature Hydrating Toning Gel (100ml./950.-)

Living Nature Hydrating Toning Gel

ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์รูปแบบเจล ใช้ทาหรือเช็ดใบหน้าและลำคอหลังล้างหน้า เพื่อฟื้นคืนสมดุลความเป็นกรด-ด่าง(pH Balance) ช่วยความคุมความมันบนใบหน้า ให้ความชุ่มชื้นและปลอดประโลมผิวด้วยสารสกัดจาก Harakeke Flax-Gel

 

Texture / Scent / Packaging

Living Nature Hydrating Toning Gel

  • Texture : เนื้อผลิตภัณฑ์อยู่ในลักษณะเจลใสๆ ที่มีความเข้มข้นพอสมควร แต่เห็นน้องเค้าเข้มข้นแบบนี้แต่พอทาลงบนผิวหน้าแล้วกลับซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างไว ไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะไว้บนผิว
  • Scent : กลิ่นหอมอ่อนๆ จาก Essential Oils ไม่ว่าจะเป็น Limonene และ Linalool ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายผิวได้ดีทีเดียว

Living Nature Hydrating Toning Gel

  • Packaging : บรรจุภัณฑ์มาในขวดพลาสติกที่เราว่าเค้าออกแบบมาได้น่าสนใจทีเดียวนะ คือ เค้าวางตำแหน่งฝาเปิดผลิตภัณฑ์ไว้ด้านล่าง ซึ่งเหมาะเจาะกับเนื้อผลิตภัณฑ์รูปแบบเจล ทำให้ปล่อยผลิตภัณฑ์ออกมาได้ง่ายและสะดวกทีเดียวขอรับ

 

Key Ingredients

  • Phormium Tenax Leaf Juice : สารสกัดที่ได้จากใบแฟลกซ์ อุดมไปด้วยโพลิแซคคาไรด์ ทางผู้ผลิตเคลมว่ามีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น ให้ความเย็นบนผิว และฆ่าเชื้อโรคได้ดี

  • Manuka Honey : น้ำผึ้งมานูก้านั้นเรียกว่าเป็น "ราชินีแห่งน้ำผึ้ง" เลยก็ว่าได้ เพราะเค้ามีแร่ธาตุที่เหนือกว่าน้ำผึ้งโดยทั่วไปถึง 4 เท่า! ที่นอกจากจะให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในชะลอการเกิดริ้วรอย ต้านการอักเสบ สมานแผล และฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย

  • Leptospermum Scoparium (Manuka) Extract : น้ำมันมานูกานั้นได้จากการนำดอกและใบของพืชมานูกามาผ่านกระบวนการกลั่นด้วยไอน้ำ มีผลการศึกษาหลายชิ้นที่ระบุว่าน้ำมันมานูกามีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้ดีกว่าน้ำมันจากต้นชา(Tea Tree Oil) ถึง 33 เท่า นอกจากนั้นยังมีสรรพคุณต้านเชื้อไวรัส ต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบอีกด้วย 

 

Let's Try...

Living Nature Hydrating Toning Gel

จริงๆ แล้วเจ้า Living Nature Hydrating Toning Gel นั้นสามารถใช้ลงบนผิวโดยตรงได้เลย โดยการทาทั่วใบหน้าและลำคอหลังหลังหน้า แต่จากที่เราทดลองเล่นมาซักพัก เราชอบใช้กับสำลีมากกว่า โดยเราจะบีบลงบนสำลีขนาดประมาณเหรียญ 10 บาท จากนั้นพับสำลีเข้าหากันเพื่อให้ตัวผลิตภัณฑ์กระจายตัวให้ทั่วสำลีจากนั้นก็เช็ดใบหน้าได้เลยจ้า...

 

Living Nature Hydrating Toning Gel

ความรู้สึกที่ได้จะแตกต่างจากการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Toner ทั่วๆ ไปค่อนข้างเยอะ เพราะปกติแล้ว Toner ที่เราเทลงสำลีจะเป็น Liquid Form ซึ่งตัวสำลีนั้นจะสัมผัสกับใบหน้าเราค่อนข้างเยอะ(ถ้าเลือกสำลีไม่ดีผิวก็อาจระคายเคืองได้ง่ายๆ) แต่พอใช้เจ้า Living Nature Hydrating Toning Gel เราแทบจะไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลย ด้วยความที่เนื้อผลิตภัณฑ์อยู่ในรูปแบบ Gel ทำให้มีความสมูทและลื่นไปบนผิวได้มากกว่า ลดโอการการระคายเคืองจากการใช้แรงที่เกินพอดีได้มากทีเดียวหละฮะ

 

After using Living Nature Hydrating Toning Gel

แถมหลังจากที่เราเช็ดหน้าด้วย Living Nature Hydrating Toning Gel แล้วพบว่าผิวมีความชุ่มชื้นที่ดีทีเดียว อีกทั้งยังไม่รู้สึกถึงความมัน หรือความเหนอะหนะผิว จะมีก็แต่ความชุ่มชื้นและความนุ่มของผิวที่จับแล้วฟินสุดๆ ไปเลยหละฮะ!!

 

Living Nature Lip Balm (10ml./450.-)

Living Nature Lip Balm

ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากเนื้อบาล์ม ช่วยสร้างความเนียนเรียบและปกป้องริมฝีปากของคุณด้วยการผนึกความชุ่มชื้น เก็บไว้ในริมฝีปาก และช่วงปกป้องไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้นที่กักเก็บไว้ ด้วยคุณค่าสารสกัดจาก Manuka Honey จากธรรมชาติที่นอกจากจะช่วยดดึงดูดความชุ่มชื้น ยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อโรค และสมานแผล จึงสามารถบรรเทาปัญหาริมฝีปากแห้งแตกได้เป็นอย่างดี

 

Texture / Scent / Packaging

Living Nature Lip Balm

  • Texture : เนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นเจลบาล์มเข้มข้น ซึ่งจากที่เราลองเล่นมาซักพักพบว่าเวลาใช้จริงๆ ใช้ปริมาณน้อยมาก เรียกว่าบีบออกมานิดเดียวปากก็ชุ่มชื้นจนลืมทาไปพักใหญ่ๆ เลยหละฮะ
  • Scent : ถึงแม้ว่าในสูตรจะมี Essential Oils ใส่เข้ามา แต่จากที่เราลองใช้ได้ซักพัก ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีกลิ่นอะไรโดนเป็นพิเศษขอรับ เป็นลิปบาล์มอีกตัวที่ใช้ง่ายทีเดียวหละ

Living Nature Lip Balm

  • Packaging : ผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบหลอดพลาสติก ส่วนหัวที่ใช้ปล่อยผลิตภัณฑ์เป็นปลายตัด 

 

Key Ingredients

  • Manuka Honey : น้ำผึ้งมานูก้านั้นเรียกว่าเป็น "ราชินีแห่งน้ำผึ้ง" เลยก็ว่าได้ เพราะเค้ามีแร่ธาตุที่เหนือกว่าน้ำผึ้งโดยทั่วไปถึง 4 เท่า! ที่นอกจากจะให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในชะลอการเกิดริ้วรอย ต้านการอักเสบ สมานแผล และฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย

  • Theobroma grandiflorum (cupuacu) seed butter : สารสกัดจากเม็ดคูพูวาซู เป็นพืชที่ได้รับสมญาว่า "ซูเปอร์ฟรุ๊ต (superfruit)" เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด สารต้านอนุมูสอิสระ และกรดไขมันจำเป็นต่อผิว พร้อมด้วย โบทานิคัล มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (botanical moisturizer) อาทิ โอลีฟออยล์ และซันฟลาวเวอร์ออยล์ จึงช่วยฟื้นฟูให้ผิวแห้งกร้าน กลับมาชุ่มชื้น เนียนนุ่ม มีสุขภาพดีตามธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังมี Galactoarabinan ซึ่งเป็นสารสกัดพอลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharide) ได้มาจากพืชพันธุ์สนชนิดหนึ่งทางแถบตะวันตก มันเป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่น และกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวได้เป็นอย่างดี

Let's Try...

Living Nature Lip Balm

จากที่เราลองใช้เจ้า Living Nature Lip Balm มาซักพักต้องบอกเลยว่าเป็นลิปบาล์มที่นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแบบฉ่ำๆ แล้ว ยังเห็นผลในเรื่องการสมานแผนได้ไวทีเดียว เพราะก่อนที่เราจะลองเรามีแผลเล็กๆ ที่ริมฝีปาก(คาดว่าน่าจะเกิดจากช่วงที่ดื่มน้ำน้อย และไม่ค่อยได้บำรุงริมฝีปาก) 

 

Living Nature Lip Balm

แต่ปรากฏว่าผ่านไป 2 วันจุดที่เคยมีแผลอยู่นั้นกลับหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับไม่เคยมีมาก่อน ทำเอาเราประหลาดใจพอสมควรทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วสิ่งที่เราคาดหวังจากลิปมัน/ลิปบาล์มก็จะเป็นแค่เรื่องความชุ่มชื้น แต่นี่กลับทำให้ผิวแผลสมานตัวจนริมฝีปากกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง นับว่าเกินคาดไปมากทีเดียวฮะ

 

 

นับว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 จากทาง Living Nature มีความอ่อนโยน และปลอดภัยกับผิวพอสมควรเลยหละครับ ทั้งได้รับการรับรองจาก BDIH และใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 100% กันเลยทีเดียว เรียกว่างานนี้น่าจะได้ใจมนุษย์ที่ผิวแพ้-ระคายเคืองง่ายไปไม่ยากเลยหละครับ สำหรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเรานั้น Based-on สภาพผิว การดูแลตัวเอง รวมถึงไลฟ์สไตล์ของเราเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันในแต่ละบุคคลครับ 

 

Note : ส่วนคำถามที่ว่า ใช้แล้วจะแพ้ไหม อุดตันหรือไม่ ? เราไม่สามารถตอบให้ได้ครับ เนื่องจากสภาพผิวแต่ละคนล้วนต่างกัน รวมถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองก็ต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะลงใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง ให้ทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอ ก่อนใช้จริงบนใบหน้าครับ

4 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

Thanks

11 เม.ย. 2563 เวลา 15:09 น.
ความคิดเห็นที่ 2

Thank

11 เม.ย. 2563 เวลา 16:57 น.
ความคิดเห็นที่ 3

ขอบคุณค่ะ

11 เม.ย. 2563 เวลา 22:45 น.
ความคิดเห็นที่ 4

ขอบคุณค่ะ

14 เม.ย. 2563 เวลา 10:02 น.
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!Sea Moss Gel คืออะไร? ส่อง 5 คุณประโยชน์ของ Sea Moss ที่สายเฮลตี้ต้องรู้อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 22 - 28 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!