จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
Living Nature |
เราเชื่อว่าปัจจัยหนึ่งที่หลายคนใช้ในการเลือกสกินแคร์นั่นก็ คือ "ความปลอดภัย" เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บนใบหน้า ซึ่งเราก็เชื่อมาตลอดว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาตินั้น ย่อมมีความอ่อนโยน ปลอดภัย และเข้ากับผิวของมนุษย์ได้ดีกว่าสารที่สังเคราะห์ขึ้น อย่างล่าสุดที่เราได้รู้จักกับแบรนด์ Living Nature แบรนด์สกินแคร์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ส่งตรงจากประเทศนิวซีแลนด์
แถมยังได้รับการรับรองจาก BDIH(Bundesverband der Industrie- und Handelsunternehmen) ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศเยอรมัน เป็นองค์กรระดับโลกที่ไม่แสวงหาผลกำไร ทำหน้าที่ในการตั้งมาตรฐานและตรวจสอบความเป็นธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ ซึ่งกว่าจะผ่านด่าน 18 อรหันต์มาได้นั้นก็ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในเรื่องควบคุมตั้งแต่การปลูกพืชพรรณ ส่วนผสม ตลอดจนกระบวนการผลิต เรียกว่าเป็นอะไรที่โหดหินเอาเรื่องเลยทีเดียวหละครับ แต่จะให้เรามาพูดแบบนี้ก็คงจะไม่เห็นภาพจริงไหมหละครับ เอาเป็นเราไปดูกันดีกว่าเราได้ไอเทมไหนมาลองบ้าง และแต่ละตัวนั้นน่าสนใจอย่างไร ไปชมกันเลยครับ...
Living Nature Hydrating Toning Gel |
ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์รูปแบบเจล ใช้ทาหรือเช็ดใบหน้าและลำคอหลังล้างหน้า เพื่อฟื้นคืนสมดุลความเป็นกรด-ด่าง(pH Balance) ช่วยความคุมความมันบนใบหน้า ให้ความชุ่มชื้นและปลอดประโลมผิวด้วยสารสกัดจาก Harakeke Flax-Gel
Living Nature Hydrating Toning Gel |
Living Nature Hydrating Toning Gel |
Living Nature Hydrating Toning Gel |
จริงๆ แล้วเจ้า Living Nature Hydrating Toning Gel นั้นสามารถใช้ลงบนผิวโดยตรงได้เลย โดยการทาทั่วใบหน้าและลำคอหลังหลังหน้า แต่จากที่เราทดลองเล่นมาซักพัก เราชอบใช้กับสำลีมากกว่า โดยเราจะบีบลงบนสำลีขนาดประมาณเหรียญ 10 บาท จากนั้นพับสำลีเข้าหากันเพื่อให้ตัวผลิตภัณฑ์กระจายตัวให้ทั่วสำลีจากนั้นก็เช็ดใบหน้าได้เลยจ้า...
Living Nature Hydrating Toning Gel |
ความรู้สึกที่ได้จะแตกต่างจากการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Toner ทั่วๆ ไปค่อนข้างเยอะ เพราะปกติแล้ว Toner ที่เราเทลงสำลีจะเป็น Liquid Form ซึ่งตัวสำลีนั้นจะสัมผัสกับใบหน้าเราค่อนข้างเยอะ(ถ้าเลือกสำลีไม่ดีผิวก็อาจระคายเคืองได้ง่ายๆ) แต่พอใช้เจ้า Living Nature Hydrating Toning Gel เราแทบจะไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลย ด้วยความที่เนื้อผลิตภัณฑ์อยู่ในรูปแบบ Gel ทำให้มีความสมูทและลื่นไปบนผิวได้มากกว่า ลดโอการการระคายเคืองจากการใช้แรงที่เกินพอดีได้มากทีเดียวหละฮะ
After using Living Nature Hydrating Toning Gel |
แถมหลังจากที่เราเช็ดหน้าด้วย Living Nature Hydrating Toning Gel แล้วพบว่าผิวมีความชุ่มชื้นที่ดีทีเดียว อีกทั้งยังไม่รู้สึกถึงความมัน หรือความเหนอะหนะผิว จะมีก็แต่ความชุ่มชื้นและความนุ่มของผิวที่จับแล้วฟินสุดๆ ไปเลยหละฮะ!!
Living Nature Lip Balm |
ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากเนื้อบาล์ม ช่วยสร้างความเนียนเรียบและปกป้องริมฝีปากของคุณด้วยการผนึกความชุ่มชื้น เก็บไว้ในริมฝีปาก และช่วงปกป้องไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้นที่กักเก็บไว้ ด้วยคุณค่าสารสกัดจาก Manuka Honey จากธรรมชาติที่นอกจากจะช่วยดดึงดูดความชุ่มชื้น ยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อโรค และสมานแผล จึงสามารถบรรเทาปัญหาริมฝีปากแห้งแตกได้เป็นอย่างดี
Living Nature Lip Balm |
Living Nature Lip Balm |
นอกจากนี้ยังมี Galactoarabinan ซึ่งเป็นสารสกัดพอลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharide) ได้มาจากพืชพันธุ์สนชนิดหนึ่งทางแถบตะวันตก มันเป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่น และกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวได้เป็นอย่างดี
Living Nature Lip Balm |
จากที่เราลองใช้เจ้า Living Nature Lip Balm มาซักพักต้องบอกเลยว่าเป็นลิปบาล์มที่นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแบบฉ่ำๆ แล้ว ยังเห็นผลในเรื่องการสมานแผนได้ไวทีเดียว เพราะก่อนที่เราจะลองเรามีแผลเล็กๆ ที่ริมฝีปาก(คาดว่าน่าจะเกิดจากช่วงที่ดื่มน้ำน้อย และไม่ค่อยได้บำรุงริมฝีปาก)
Living Nature Lip Balm |
แต่ปรากฏว่าผ่านไป 2 วันจุดที่เคยมีแผลอยู่นั้นกลับหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับไม่เคยมีมาก่อน ทำเอาเราประหลาดใจพอสมควรทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วสิ่งที่เราคาดหวังจากลิปมัน/ลิปบาล์มก็จะเป็นแค่เรื่องความชุ่มชื้น แต่นี่กลับทำให้ผิวแผลสมานตัวจนริมฝีปากกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง นับว่าเกินคาดไปมากทีเดียวฮะ
นับว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 จากทาง Living Nature มีความอ่อนโยน และปลอดภัยกับผิวพอสมควรเลยหละครับ ทั้งได้รับการรับรองจาก BDIH และใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 100% กันเลยทีเดียว เรียกว่างานนี้น่าจะได้ใจมนุษย์ที่ผิวแพ้-ระคายเคืองง่ายไปไม่ยากเลยหละครับ สำหรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเรานั้น Based-on สภาพผิว การดูแลตัวเอง รวมถึงไลฟ์สไตล์ของเราเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันในแต่ละบุคคลครับ
Note : ส่วนคำถามที่ว่า ใช้แล้วจะแพ้ไหม อุดตันหรือไม่ ? เราไม่สามารถตอบให้ได้ครับ เนื่องจากสภาพผิวแต่ละคนล้วนต่างกัน รวมถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองก็ต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะลงใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง ให้ทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอ ก่อนใช้จริงบนใบหน้าครับ
Thanks