ขอบคุณค่ะ
จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงจุดเริ่มต้นของการรีวิวรักษาฝ้า ก็เกิดจากหน้าเป็นฝ้านี่แหละค่ะ แต่ใครจะไปคิดว่าชีวิตสาวออฟฟิศที่แทบจะไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดจัด ๆ เลย จะเป็นฝ้าขึ้นมาได้ ขอเกริ่นนิดหน่อยว่า เราเป็นสาวออฟฟิศ ทำงาน 8 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น เป็นไปได้ยากมากที่จะเจอแสงแดดแรง ๆ ตอนเที่ยงก็ไม่ลงไปไหน กินข้าวในแคนทีนของบริษัทค่ะ
แต่ใครจะรู้ล่ะว่าหลบแดดขนาดนี้แล้วฝ้ายังขึ้นได้ บอกตามตรงว่าเราค่อนข้างชะล่าใจว่าไม่เจอแดดค่ะ เรื่องฝ้ากระอะไรพวกนี้ไม่ได้ระวังเลย จนกระทั่งวันนึงกำลังจะแต่งหน้าแล้วเริ่มเห็นฝ้าจาง ๆ ตอนแรกก็นึกว่าแค่เงาค่ะ แต่พอดูไปเรื่อย ๆ ทุกวัน ๆ มันก็เริ่มชัดค่ะ ทีนี้ล่ะเครียดแล้ว เพราะเราค่อนข้างรักสวยรักงาม แต่ก็ไม่ได้เป๊ะขนาดบิวตี้บล็อกเกอร์อะไรค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลว่าทำไมถึงเป็นฝ้าได้ ก็ถึงบางอ้อค่ะ เพราะเรานั่งอยู่หน้าคอมพ์ฯ ทั้งวันนี่เอง ก็เลยมาดูข้อมูลรักษาฝ้า แต่ติดที่ว่า เรามีผิวแบบเซนซิทีฟค่ะ ก็เลยต้องเลือกอะไรที่เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ เพราะกลัวว่ารักษาฝ้าไม่หายแถมหน้าพังเพราะแพ้ครีมอีก
สูตรที่จะเอามาแชร์วันนี้เป็นสูตร หัวไช้เท้า+น้ำผึ้ง ค่ะ ค้นเจอจากในกูเกิ้ลนี่แหละ ก็เลยลองทำตาม
วิธีทำ นำหัวไช้เท้ามาบดผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย แล้วนำมามาส์กหน้าให้ทั่ว หรือแต้มเฉพาะจุดที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างหน้าออกให้สะอาด สูตรนี้นอกจากจะช่วยลดฝ้าแล้วยังช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวทำให้ผิวไม่แห้งลอก ไม่แสบแดงด้วยค่ะ
ส่วนนี่เป็นขั้นตอนดูแลผิวที่เราทำทุกวันค่ะ เน้นความธรรมชาติ ครีมที่เลือกต้องไม่แพ้และเป็นออแกนิคล้วน ๆ ค่ะ
2. หลังจากนั้นก็ใช้สูตรหัวไชเท้ากับน้ำผึ้งพอกหน้า โดยเฉพาะตรงที่เป็นฝ้าค่ะ พอกแล้วทิ้งไว้ 15-20 นาทีตามสูตร แล้วล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าค่ะ
3. ยังไม่พอค่ะ หลังพอกหน้าแล้วเราทาเจลว่านหางจระเข้ตามไปด้วย เพื่อให้หน้ามีความชุ่มชื้น อัดมันเข้าไปทุกตารางนิ้วค่ะ
4. ก่อนออกจากบ้านทาครีมกันแดดทุกวัน เราใช้ครีมกันแดดของ Jurness มี SPF 50 เป็นสูตรออแกนิกค่ะ พกไปที่ทำงานด้วย เพราะต้องทาซ้ำระหว่างวัน
5. ใส่แว่นกันแสงสีฟ้า ป้องกันเต็มที่ค่ะ อย่างน้อยก็ปกป้องสายตาและไม่ให้ฝ้ากระเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
ยอมรับว่าต้องอาศัยความอดทนมาก บางทีกลับบ้านมาก็อยากจะแค่อาบน้ำนอน แต่ต้องทำค่ะ เราทำแบบนี้มา 1 เดือนเต็ม ผลลัพธ์คุ้มค่า ฝ้าก็จางลง แต่ยังไม่หาย คิดว่าต้องทำต่อไป แต่อย่างน้อยหน้าไม่พังและไม่แพ้ สูตรออแกนิกดีแน่แท้จริง ๆ ใครที่มีผิวแพ้ง่ายแล้วเป็นฝ้า เราว่าลองทำตามได้นะคะ แต่ผลลัพธ์อาจจะไม่เหมือนกันทุกวัน ขึ้นอยู่กับผิวเราด้วย ก็ขอฝากรีวิวไว้เท่านี้ค่ะ ถ้ามีสูตรอื่นที่เวิร์คกว่าเดิมจะมาใหม่นะคะ
Thanks