จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
บอดี้โลชั่น 2 ตัวที่มิ้วเลือกมา เป็นแบรนด์ที่มิ้วคิดว่าใคร ๆ ก็น่าจะรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ ทั้งสองขวดนี้มิ้วได้มาจากเซเว่นแถวบ้านค่ะ ก่อนอื่นมาดูรายละเอียดกันก่อนนะว่าแต่ละตัวเขามีคุณสมบัติเป็นยังไงกันบ้าง!
BHAESAJ Body Whitening Lotion
ตัวแรกขอเริ่มกันที่โลชั่นยอดฮิตที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีของแบรนด์เภสัช ขวดสีฟ้า เป็นสูตรปกป้องผิว 24 ชั่วโมง มีส่วนผสมของวิตามินบี 3, วิตามินอี, มอยส์เจอร์ไรเซอร์ และดับเบิ้ลยูวีฟิลเตอร์ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด เป็นโลชั่นที่ช่วยบำรุงผิวเนียนนุ่ม และขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
Mistine SUPER NANO WHITENING LOTION
ตัวที่ 2 เป็นของมิสทินค่ะ แบรนด์ที่สาวไทยทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี โลชั่นตัวนี้มีส่วนผสมของ Super Nano White Capsule, Glutathione และ Coenzyme Q10 ซึ่งช่วยดูแลผิวหมองคล้ำอย่างล้ำลึก มาพร้อม Double UV Filter ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วย อ่านจากหลังขวดมีข้อความที่น่าสนใจอีกอย่าง คือเขาบอกว่าโลชั่นตัวนี้จะปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นทันที นี่แหละถึงต้องหยิบมาลองดูกันสักตั้ง!
โลชั่นมิสทิน VS โลชั่นเภสัช ตัวไหนปังกว่า?
มาค่ะ เราจะเริ่มเปรียบเทียบกันชัด ๆ ว่าโลชั่น 2 ตัวนี้ ตัวไหนจะให้ผลลัพธ์ที่เริ่ดกว่ากัน ส่วนตัวมิ้วใช้ทั้งสองตัวมาสักพักก่อนที่จะถ่ายรีวิวนี้ มีคำตอบในใจอยู่แล้ว แต่อยากมาถ่ายให้ดูชัด ๆ กันไปเลยค่ะ มิ้วใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ โดยที่แขนขาซ้ายจะใช้ของเภสัช ส่วนแขนขาขวาจะใช้ของมิสทินค่ะ
เริ่มกันตั้งแต่เนื้อโลชั่นที่บีบออกมาจากขวด ของเภสัชจะมีความเหลวกว่า กลิ่นเขาหอมนะ แต่บอกไม่ถูกว่าเหมือนกลิ่นอะไร ออกสะอาด ๆ คลีน ๆ หน่อย ส่วนของมิสทินเนื้อข้นกว่า กลิ่นจะเหมือนกลิ่นแป้งเด็ก ได้ฟีลละมุน ๆ ทั้งคู่
ลองเกลี่ยเนื้อโลชั่นดู เห็นจากรูปเหมือนว่าเภสัชจะเกลี่ยง่ายกว่า เพราะมีความเหลวกว่า แต่จริง ๆ แล้วมิสทินก็เกลี่ยง่าย และยังซึมเข้าสู่ผิวไวพอ ๆ กันด้วย เอ้อ...เริ่ดตรงนี้
และนี่ก็คือโลชั่นที่เซตตัวเข้าสู่ผิวแล้วทั้งสองข้างค่ะ
แขนซ้ายที่ใช้โลชั่นของเภสัช
แขนขวาที่ใช้โลชั่นของมิสทิน
มองทีละข้างอาจจะไม่เห็นว่าต่างกันยังไง ต้องเอา 2 ข้างมาเปรียบเทียบกันค่ะแล้วจะเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ความเนียนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความกระจ่างใส ดูเหมือนว่าโลชั่นมิสทินจะดูขาวบลิ๊งก์กว่านะ
ดูผลลัพธ์ตรงขา เน้นย้ำความแตกต่างให้ดูกันอีกสักรอบ ชัดเจนเลยค่ะ ว่าขาขวาที่ทาแต่โลชั่นมิสทิน เพิ่มความขาวกระจ่างใสได้ดีกว่าเห็น ๆ แต่ไม่ได้ขาวเว่อร์เหมือนพวกครีมที่เราทาเพื่อพอกตัวให้ขาวนะ มันจะออกไบร์ทขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า
รวบรวมคะแนน
ท้ายสุดมิ้วก็ได้ทำคะแนนสรุประหว่างโลชั่นเภสัช VS โลชั่นมิสทิน ออกมาดังนี้ค่ะ
เรื่องความหอม เกลี่ยง่าย ซึมไว อันนี้คงกินกันไม่ลง ตัดสินไม่ได้ เพราะพอใจทั้งคู่เลย แต่เริ่มเอนคะแนนมาให้มิสทินมากขึ้น ตรงที่ทาเสร็จแล้วรู้สึกว่าผิวยังคงนุ่มเด้ง และเทคะแนนให้อีกในเรื่องของการฟื้นฟูผิวหมองคล้ำค่ะ ของเภสัชมิ้วใช้แล้วผิวดูขาวขึ้นมานิดนึง แต่ไม่ได้มากมายนัก แล้วก็คงไม่ต้องสืบกันเลยว่าชอบตัวไหนมากกว่า แน่นอนค่ะ ว่าก็ต้องเป็นโลชั่นมิสทินอยู่แล้ว ชอบมากตรงที่ทาแล้วนางช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นทันที แต่ไม่ได้ดูขาวเว่อร์จนดูวอกหรือดูเทา ยิ่งใช้ไปเรื่อย ๆ เหมือนว่าเขาช่วยบำรุงให้ผิวดูขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติด้วย จากคนที่ไม่ได้อินกับการใช้โลชั่น ต้องยอมเขาจริง ๆ เลยค่ะ ณ จุดนี้
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นจากการลองใช้ของมิ้วคนเดียว ยังไม่ต้องเชื่อกันทั้งหมดค่ะ จนกว่าจะได้ไปลองกันเอง ใครสนใจก็หาซื้อที่เซเว่น หรือตามร้านเครื่องสำอางทั่วไปได้เลย และสุดท้ายรีวิวครั้งนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาบอดี้โลชั่นดี ๆ สักตัวมาใช้นะคะ ใครมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมก็คอมเมนต์กันมาได้น้า ขอตัวลาไปแต่เพียงเท่านี้ บ๊ายบายค่า