จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงรอบนี้ขอ update ของบนโต๊ะเครื่องแป้ง ทั้งตัวใหม่แกะกล่อง และตัวเดิมที่ซื้อขวดใหม่มาเพิ่ม
ตัวไหนรอด พร้อมซื้อต่อ ตัวไหนร่วง พร้อมโล๊ะทิ้ง มาดูกันเลยย
มาไล่กันแบบ routine ที่เราใช้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย
เริ่มด้วย Plantstory เอสเซนส์ลูกเดือย ตัวนี้ใช้มาเข้าขวดที่ 4 ได้ละมั้ง
นางมีความดีงามสำหรับคนขี้เกียจแบบเรามากๆ เพราะปั๊มมาแล้วทาๆ แล้วก็เสร็จเลย ไม่ต้องรอนาน
เพราะเนื้อเค้าซึมไว สบายผิว วันไหนรีบๆก็แค่ตัวเดียวจบ
ไม่พูดเยอะ เพราะตัวนี้รีวิวหลายรอบแล้ว 555555 เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน
ให้ 5 ดาวเต็มเลยจ้า เลิฟๆเลย
มาต่อที่น้องใหม่บนโต๊ะของเรา กับน้อง Mira herbal brightening & anti-aging serum
น้องตัวนี้ยิง AD มาถึงเรา แล้วคือนางน่าสนใจมาก เพราะมีส่วนผสมจากน้ำนมข้าว ซึ่งเจ้าตัวเนี้ย เราเคยอ่านมาว่าเค้าช่วยเรื่อง anti aging ได้ดีมากๆ มีผลการวิจัยหลายตัวมายืนยันเลย
และเค้ายังช่วยในเรื่องความขาวใสด้วย ราคาก็ไม่แพง มีความดีงามเลย
แล้วนางยังมีดารามารีวิวด้วย ดูน่าเชื่อถือ เราเลยกดสั่งมาลองซะหน่อย
ซึ่งจากที่ได้ลองเนื้อแล้วคือปลื้มเลยนะ เพราะเนื้อเค้าซึมไว ไม่ทิ้งความมันที่ผิว
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ อารมณ์แบบกลิ่นข้าวอะ
และหลังจากใช้ คือหน้านุ่มเลย ตื่นมาหน้าก็ยังนุ่ม ใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน เราใช้ตัวนี้เป็นขั้นที่ 2 ต่อจากเอสเซนส์ล่ะ
ให้ 5 ดาวไปเลยจ้า
ต่อมาคือ น้อง AHC Hydra B5 ตัวนี้เนื้อไม่หนักมาก แต่สำหรับคนผิวมันแบบเรา คือใช้ได้แค่ก่อนนอนอะ
เพราะเนื้อเค้าไม่ได้ซึมไว มันยังกองๆบนผิว ถ้าวันไหนนอนแอร์ จะเอามาทา คือทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ตลอดคืนที่นอนห้องแอร์
แต่ถ้าคืนไหนไม่ได้นอนแอร์ ก็จบที่ขั้นตอนที่ 2 พอ ตัวนี้ไม่ไหว ไม่งั้นหน้าเยิ้มเลย
แล้วที่ใช้ยากอีกอย่าง คือเค้าไม่มีหัวปั๊ม ต้องเทเนื้อออกมา ซึ่งบางทีก็เทหกออกมาเยอะไป ควบคุมการใช้ค่อนข้างยาก
ตัวนี้เราเลยให้ 3 ดาว หักเรื่องการใช้งาน และความไม่เหมาะกับผิวมันแบบเรา
จบที่สกินแคร์ มาต่อที่เมคอัพ ตัวใหม่ที่เราเพิ่งลอง
น้องเรฟลอน ตัวที่เป็นหัวฟองน้ำ บอกก่อนเลยว่าปกติเราใช้ตัวฝาดำในตำนาน
แต่ช่วงที่รองพื้นเราหมด ตัวนี้ดันลดราคาแรงมากเหลือ 199 บาท เราเลยจัดมาลองซะหน่อย
เราจะไม่ใช้กับตัวฟองน้ำที่หัวแพคเกจ เพราะเราคิดว่าใช้บ่อยๆมันจะสกปรก และสะสมเชื้อโรค เราเลยใช้หมุนแล้วปาดออกมาทาแทน
เนื้อเค้ามีความคล้ายตัวฝาดำ คือปกปิดได้ค่อนข้างดี เนื้อแน่น หน้าไม่ดรอประหว่างวัน
แต่ความต่างคือ ตัวนี้ไม่คุมมัน จะเหมาะกับคนผิวแห้งมากๆ แต่สำหรับเราคือต้องทับอีกชั้นด้วยแป้ง เพื่อเซทผิว
เราเลยให้ 4 ดาว หักเรื่องคุมมันออกไปดาวนึง
ต่อที่ Body care กับน้องโอเล่ ครีมทามือ
เนื้อเค้าเนียนนุ่ม แถมยังทาแล้วเย็น อันนี้ชอบมาก เหมาะกับความร้อนของเมืองไทย
และกลิ่นคือหอมมาก กลิ่นเค้าจะเป็นแบบสตอเบอร์รี่จ๋าเลย ใครที่ชอบ คือจะชอบเลยนะ
แล้วกลิ่นติดทน ทาเช้า ติดถึงเย็น ใช้แทนน้ำหอมได้เลยด้วย
ให้ 5 ดาวแบบไม่ต้องลังเล
มีน้องครีมแล้ว ก็มีน้องสเปรย์ ฉีดผม ฉีดผิว ฉีดได้ทั่วตัว
น้องตัวนี้เป็นอารมณ์แบบน้ำหอมแหละ และเค้ายังฉีดผมให้ผมหอมได้ด้วย
คือวันไหนไม่สระผม หัวเหม็นๆ หรือไปหมูกระทะมา ก็ฉีกตัวนี้กลบได้เลย
แต่ขอหัก 1 ดาวตรงที่ เราไม่ได้ใช้น้องเค้าได้ทุกวันอะ ส่วนใหญ่จะใช้เฉพาะตอนหัวเหม็น 555
อีกตัวที่ทำให้ผมหอม แถมผมนุ่มด้วย คือ ลอริออล์ ตัวนี้เลยจ้า
เราสอยสีเขียวมา ตอนแรกคิดว่าเค้าเป็นน้ำมัน แล้วจะทำให้ผมมันและเหนียว
แต่พอทาแล้ว คือแปปเดียวเนื้อมันซึมหายไปเลย ไม่ทิ้งความมันเลย
แล้วผมนุ่มมากๆ และหอมมากๆด้วย อันนี้ชอบจริงๆ
แต่ก็หัก 1 ดาว เพราะเราไม่ได้ใช้บ่อยๆเหมือนกัน รู้สึกไม่คุ้มค่า 5555 เพราะความขี้เกียจของเราล้วนๆ
ตัวสุดท้าย เป็นน้องอาหารเสริม คือช่วงนี้เรากลับมาผมร่วงอีกแล้ว ไม่รู้เพราะอะไร
เลยต้องกลับมากินน้องตัวนี้อีกครั้ง เพราะจากรอบที่แล้ว คือกินแค่ 3-4 อาทิตย์ แล้วผมร่วงน้อยลงมากๆ
แบบเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน รอบนี้เลยกลับมากินอีกครั้ง J
แต่ให้ 4 ดาว เพราะ เม็นน้องเค้าใหญ่มากกก และตอนกินมันจะมีกลิ่นแบบแปลกๆที่เราไม่ชอบเลย
และนี่คือน้องใหม่บนโต๊ะเครื่องแป้งของเรา เยอะมากกก ใครชอบตัวไหน หรือเคยใช้ตัวไหน มาแชร์กันได้น้า xoxo