จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนค่อนข้างไว แถมเราเพิ่งมีสมาชิกใหม่เข้ามาในห้องอย่างน้องเหมียวที่ซนสุดใน 3 โลก แน่นอนว่าเจอทั้งอากาศเปลี่ยน ทั้งขนน้องแมวที่ลอยฟุ้งในอากาศ สุดท้ายผิวเราก็ไม่รอดและเริ่มแสงอาการงอแงในที่สุด
เราเลยลองจัดสกินแคร์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว เสริมความแข็งแรงของชั้นผิว พร้อมทั้งปกป้องผิวที่ค่อนข้างจะ Basic แต่มี Potential มากพอที่จะกู้ผิวในช่วงนี้ และก็ได้มาเป็นเซทที่เห็นเนี่ยหละฮะ เอาเป็นว่าไปไล่ดูทีละตัวเลยแล้วกันนะครับ...
Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner
ไอเทมแรกเราเริ่มด้วยโทนเนอร์ที่ช่วยปลอบประโลมผิวอย่าง Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner ที่ค่อนข้างอ่อนโยนและอัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง ช่วยลดรอยแดงจากสิว ช่วยสมานแผล และเสริมความแข็งแรงให้ผิวได้เป็นอย่างดี
หลังอาบน้ำเราจะเช็ด Calendula Herbal Extract Alcohol-Free Toner เป็น Step แรกเพื่อปรับสภาพผิว และเตรียมผิวให้พร้อมรับสารบำรุงตัวอื่นๆ แน่นอนว่านี่เป็นหนึ่งในโทนเนอร์ในตำนานที่หลายๆ คนพูดถึงว่าช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี ซึ่งจากที่เราลองด้วยตัวเองและได้ทำรีวิวไปก่อนหน้านี้ ไม่มีจุดไหนที่เราจะแย้งได้เลยหละฮะ
Lancome Ultimate Repair Bi-Ampoule
ไอเทมถัดมาที่เราเลือกมาใช้ใน Skincare Routine ช่วงนี้นั่นคือ Lancome Ultimate Repair Bi-Ampoule ซึ่งตัวนี้ถึงแม้จะเป็น Sample Size แต่อยากบอกว่าใช้ได้นานม๊ากกกกกก เพราะใช้จริงแค่ 3-4 หยดก็ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่อ่อนแอของเราได้แล้วหละ!
ด้วยสารสกัดที่เข้มข้นที่สุดของ Lancome อย่าง Grand Rose Extract และโอลีโอ้ ออยล์บริสุทธิ์ 100% รวมถึง Tri-Ceramide ซึ่งประกอบไปด้วย Ceramide-II,III และ IV จัดว่าเป็นส่วนผสมที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาชุ่มชื้น แข็งแรงได้ดีเลยเชียวหละ แถมเนื้อสัมผัสในรูปแบบ Bi-Phase ยังช่วยมอบความชุ่มชื้นให้บนผิว ให้ผิวเรานุ่ม ชุ่มชื้น สุขภาพดี และช่วยนำพาวิตามินอื่นๆ ที่จะทาต่อจากนี้ลงลึกสู่ชึ้นผิวได้ดียิ่งขึ้น
Bella Aura rapid repair clarifying elixir
มาต่อกันที่อีกหนึ่งไอเทมอย่าง Bella Aura rapid repair clarifying elixir ที่เราได้ยินกิตติศัพท์ของนางว่าช่วยลดการอักเสบ ระคายเคืองต่างๆ ได้ดี แถมยังช่วยเรื่องอาการลดแพ้ได้อีก เราเลยหยิบน้องคนนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Skincare Routine ในช่วงนี้นั่นเองฮะ
ด้วยเนื้อสัมผัสที่เบาสบายผิว และเข้ากันได้ดีกับ Lancome Ultimate Repair Bi-Ampoule ที่ลงไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังช่วยเสริมฤทธิ์กันและกันในแง่การฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก บอกเลยว่านี่คืออีกหนึ่ง Duo ที่เราคิดว่าเค้าไปด้วยกันได้ค่อนข้างดีทีเดียวหละฮะ
LANCOME ABSOLUE SOFT CREAM
แน่นอนว่าเมื่อผิวเราอ่อนแอลงสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ดีขึ้นได้คือความชุ่มชื้น ด้วยความที่เราอยากได้ผลิตภัณฑ์ที่เบาสบายผิว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมอบความชุ่มชื้นให้เราได้แบบเต็มที่ เราเลยหยิบมอยซ์เจอไรเซอร์ตัวโปรดอย่าง LANCOME ABSOLUE SOFT CREAM มาใช้ร่วมกับ Skincare Routine เซตนี้
อย่างที่เพื่อนๆ เห็นในภาพจะสังเกตุว่าปริมาณในการใช้ LANCOME ABSOLUE SOFT CREAM เพียงเล็กน้อยแต่กลับให้ผิวที่ชุ่มชื้น สุขภาพดีขึ้นมาแบบทันที แถมยังไม่รู้สึกหนักผิวเลยแม้แต่น้อย นี่แหละสาเหตุว่าทำไมน้องคนนี้ถึงขึ้นแท่นลูกรักของเราแบบไม่ต้องสงสัย
mesoestetic light water antiaging veil
ปิดท้ายด้วยขั้นตอนที่ขาดไม่ได้นั่น คือ การปกป้องผิวจากรังสียูวี ที่ทะลุทะลวงยิ่งกว่าเครื่องขุดเจาะเป็นเท่าตัวดังนั้น Sunscreen จึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าในช่วงนั้นสภาพผิวของเราจะเป็นยังไงก็ตาม และด้วยความที่ผิวเราเสียสมดุลเป็นทุนเดิมเราจึงเลือกกันแดดที่มีประสิทธิภาพ และมอบการบำรุงผิวไปในตัวอย่าง mesoestetic light water antiaging veil มาในเซตนี้
ต้องยอมรับว่านี่เป็นกันแดดอีกหนึ่งตัวที่เราเชื่อใจมากที่สุดตอนนี้ ด้วยประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากรังสียูวีที่ค่อนข้างสูง แถมยังมอบความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลเจนได้อีก เรียกว่าครบจบในหลอดเดียวจริงๆ หละฮะ
Conclusion
เราขอนำภาพก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ไอเทมมาให้ชมกันแบบชัดๆ จะเห็นว่าก่อนลงผลิตภัณฑ์ผิวเราค่อนข้างขาดความชุ่มชื้น ทำให้การตกกระทบและการสะท้อนของแสงบนผิวทำได้ไม่สมูท แต่หลังจากที่เราลงผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแล้วพบว่า...ผิวโดยรวมชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การสะท้อนของแสงบนผิวดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ แสดงให้เห็นถึงสุขภาพผิวที่ดีแบบไม่ต้องพึ่งเมคอัพเลยหละครับ
แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนสำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ
ตอบกระทู้