จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงจริงๆ Clinique ทำออกมาหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่ต่างกัน
วันนี้ที่เราจะมารีวิวจะเป็นตัวใหม่ล่าสุดค่ะ เน้นในเรื่องของสิว! แถมยังมีโทนเนอร์ด้วยค่ะ
ถ้าอย่างนั้น เรามาพูดถึงโดยเรียงลำดับการใช้ดีกว่า
จริงๆเค้า มันต้องมี 3 Step
1 - ทำความสะอาดผิว
2 - ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
3 - เติมความชุ่มชื้น
แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง step 2 และ 3 ค่ะ
เริ่มกันที่ Step 2 ซึ่งก็คือโทนเนอร์ที่ใช้กำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพนั่นเอง
โทนเนอร์ที่เราได้มาลอง คือสูตร Clarifying Toner 3 Twice a Day Exfoliator
เป็นสูตรสำหรับผิวผสม ถึงมันค่ะ
เค้าเป็นโทนเนอร์เนื้อบางเบา เสริมการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ และเพื่อเตรียมผิวสำหรับการบำรุงในขั้นต่อไปค่ะ
ขวดบิ้กเบิ้มมาก 400 ml. เป็นขวดใส ฝาสีเขียว ตัวขวดเวลาจับจะรู้สึกด้านๆนิดนึง จับแล้วไม่ลื่น
แต่อาจจะร่วงเพราะขวดเค้าใหญ่นี่แหละ ขวดใหญ่ไม่เหมาะแก่การพกพาอย่างยิ่ง อาจจะต้องขยับลงมาที่ไซซ์ 200 ml. แทนค่ะ
ฝาเค้าเป็นแบบหมุน เปิดมาคือเจอปากขวดเลย รูใหญ่ อาจจะหกได้หากเทไม่ดี
(ก่อนจะใช้ คิดว่าน่าจะเป็นรูเล็กๆเอาไปหยดๆ ผิดคาดไปเยอะเลย
ดังนั้น เราเลยจะวางสำลีปิดปากขวดแล้วเทโทนเนอร์ลงสำลีเป็นจุดๆไป จนทั่วแผ่นสำลีค่ะ
พูดถึงกลิ่น แอลกอฮอล์แรงมากกกกกกก แรงเหมือนดมแอลกอฮอล์สีฟ้าเลย
ตอนเช็ดกลิ่นตีขึ้นจมูกเลยค่ะ แล้วเรารู้สึกว่าตอนเช็ดแล้วเค้าระเหยอ่ะ ขึ้นตานี่เคืองเลยนะ ต้องหลับตาเช็ด
ใส่มาเต็ม ใครแพ้แอลกอฮอล์อาจจะต้องดูดีๆ หรือลองเป็นสูตรอื่นแทนค่ะ
ในแต่ละวัน เราใช้โทเนอร์เช็ดแค่ตอนหลังล้างหน้าตอนเย็นครั้งเดียว
ถ้าหน้าเรามีสิวอักเสบหรือแผลสิวที่ยังแดงๆอยู่ มันจะแสบยิบๆ แต่แค่แปบเดียวเท่านั้นค่ะ
เนื้อน้ำเบาเหมือนน้ำเปล่าเลยค่ะ ไม่เหนอะ ไม่หนึบ ด้วยความที่มีแอลกอฮอล์ด้วยแหละเลยแห้งไว
ให้ความรู้สึกสะอาดขึ้นนะ มันจะดูเกลี้ยงๆคลีนๆ เหมือนเราเปิดผิว พร้อมรับการบำรุงขั้นต่อไปจริงๆค่ะ
เรื่องความชุ่มชื้นไม่ได้มีมาก มันกลางๆ คือหลังเช็ดโทนเนอร์ตัวนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าหน้าแห้งเอีียดอะไร แม้ว่าเค้าจะมาช่วยในส่วนของความมันด้วย
เหมือนผิวปกติค่ะ เราชอบนะมันไม่ได้ฉ่ำจนต้องรอก่อน ถึงจะลงสกินแคร์ตัวอื่นได้
แต่มันก็ไม่ได้แห้งเหมือนผิวไม่มีน้ำ
ในเรื่องของความมัน เรายังเห็นผลไม่ชัดว่าเค้าช่วยควบคุมความมันนะ เพราะเรารู้สึกว่าหน้ายังมันเหมือนเดิม
ข้อดีเหมือนผิวเกลี้ยงขึ้น สะอาดขึ้น บำรุงต่อมันก็ง่าย
แต่ข้อเสียก็คือกลิ่นแอลแรงเกินไปค่ะ
------------------------------
ปล.รูปผลลัพธ์หลังใช้นี้คือใช้โทนเนอร์ Clarifying Toner 3 Twice a Day Exfoliator คู่กับ Clinique ID™ for Imperfections นะคะ
------------------------------
ต่อมาเป็น Clinique ID™ for Imperfections ค่ะ
Clinique ID™ for Imperfections เป็นเซรั่มสอดใส้ ที่จะมีในส่วนของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ กับบูสเตอร์ที่ทำงานร่วมกัน
สูตรนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวอุดตัน ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ทำให้ผิวชุ่มชื้นทันทีและยาวนาน
สำหรับสูตรนี้เรียกได้ว่าเป็น New Clearing Duo
ตัวมอยส์เจอไรเซอร์ คือ Dramatically Different™ Hydrating Clearing Jelly เนื้อเจลลี่ใสสีฟ้า
และบูสเตอร์ Active Cartridge Concentrate™ บูสเตอร์สีแดงใส ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid
ว่ากันว่าทั้งสองนี้ผสมกันแล้ว มาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้แบบทันทีเลย และชุ่มชื้นไปอีกยาวๆ ลดการอุดตันของผิวจากสิ่งสกปรกต่างๆ รวมไปถึงความมัน น้ำมันบนผิวและสิ่งตกค้าง
ปรับสมดุลให้กับผิว
ทั้งสองตัวนี้จะแยกกันมาค่ะ เราต้องเอาเค้ามาอยู่ด้วยกัน ด้วยกัน ดึงหลอดหุ้มบูสเตอร์ออก ระวังด้วยนะคะ อย่าให้หลอดบูสเตอร์เลอะสิ่งสกปรก เพราะเราจะต้องยัดเค้าใส่ในขวดมอยส์เจอไรเซอร์
ตอนแรกที่เห็นขวดเจล สงสัยว่าทำไมใส่มาแค่นี้ มายัดบูสเตอร์เข้าไปถึงอ๋อออ หลอดบูสเตอร์ทำให้เจลมันดันขึ้นมา ถ้าใส่มาเต็มก็ล้นแหงๆ
พอเรารวมตัวเค้าทั้งสองเสร็จแล้ว จะได้เป็นขวดเหลี่ยม ที่มีหัวปั๊ม กดง่ายค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาง่ายมาก แต่ขนาดของขวดเค้าจะใหญ่นิดนึง ไม่ได้หนักมาก แต่ค่อนข้างพกลำบาก
เนื้อผลิตภัณฑ์อย่างที่บอกว่าเป็นเจลสีฟ้าใส เนื้อลื่นๆ ทาง่าย เกลี่ยง่าย มีกลื่นอ่อนๆค่ะ
ตอนปัีมออกมา บูสเตอร์สีแดงออกกมานิดเดียว มันก็ดูสมดุลนะ ระหว่างปริมาณเนื้อทั้งสอง
แต่ความรู้สึกส่วนตัวอยากให้สีแดงออกมาเยอะกว่านี้ มันไม่สะใจ แฮ่
เราทาตัวนี้ลงผิวหลังจากเตรียมผิวด้วยโทนเนอร์ Clarifying Toner 3 Twice a Day Exfoliator ค่ะ
อย่างที่บอกว่าความเป็นเจลทำให้เกลี่ยง่ายสุด
หน้าเราที่มีสิว-แผลสิว รู้สึกแสบยิบๆ เบาๆ เหมือนกันนะเวลาทา แต่ไม่มากค่ะ ถือว่าเป็น Salicylic Acid ที่ไม่รุนแรง ซึ่งใช้ได้เลย
ในช่วง 5 วันแรก เราใช้เค้าเฉพาะกลางคืนค่ะ ดูก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผิวไหม แรงไปหรือเปล่า พอใช้ไปแล้วโอเค ไม่แพ้ก็ไปต่อ 5 วันหลังเราเลยใช้ทั้งเช้าและเย็นค่ะ
ควบคุมความมัน - ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำมันลดลง แต่ไม่ทำให้มันเพิ่มค่ะ
ความเรียบเนียน - ดีขึ้นนิดนึงค่ะ
สิว - ลดการเกิดสิวดี ส่วนสิวที่ขึ้นก็ช่วยให้แห้ง/แข็งเป็นไตๆดี แต่เราว่าใช้เวลาหน่อยค่ะ
ความชุ่มชื้น - เราว่าเค้าช่วยได้ในระดับนึง แต่ใครหน้าแห้ง ลอก หรืออย่างในช่วงฤดูหนาวงี้ เราว่าต้องเสริมมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นตัวอื่นเพิ่ม
ข้อดี: เนื้อเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนอะ ผิวเนียน ลดการเกิดสิว
ข้อเสีย: ความชุ่มชื้นมีในระดับนึง แต่อาจจะยังให้ได้ไม่มากพอ