จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงจากความสำเร็จอย่างน่าประทับใจในแนวคิดเรื่อง Clean Beauty จากผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมาจากทาง ปัญญ์ปุริ (PAÑPURI) มาคราวนี้ทางแบรนด์ได้พาเราไปพบกับแคร์คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง NOURISH RiceMoss HyaQuench™ ที่จะพาเราไปสู่อีกขั้นของการฟื้นบำรุงผิวแห้งขาดน้ำจากภายใน พร้อมล็อคความชุ่มชื้นยาวนานถึง 120 ชั่วโมง ซึ่งไอเทมที่ทางแบรนด์ส่งมาให้เราได้ลองเล่นนั้นมี 2 ชิ้นด้วยกัน เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับทั้ง 2 ไอเทมนี้เลยดีกว่าฮะ...
Clean Beauty & The ZeroList™ คือ...?
ทาง ปัญญ์ปุริ (PAÑPURI) ได้ให้นิยามของคำว่า Clean Beauty ได้ว่า การดูแลตัวเองและรู้ว่าสุขภาพกายและใจนั้นมีความเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเรา สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว สกินแคร์ควรจะประกอบด้วยส่วนผสมที่สะอาด มีประสิทธิภาพ และจำเป็นต่อผิวเท่านั้น” ซึ่งเราแปลให้เข้าใจง่ายๆ คือ สกินแคร์ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Clean Beauty นั้นจะเป็นสกินแคร์ที่ปราศจากส่วนผสมซึ่งไม่จำเป็นต่อผิว ซึ่งส่วนผสมเหล่านั้นสามารถทำร้ายผิวและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีจำพวก ซัลเฟต ซิลิโคน พาราเบน พาทาเลต EDTA และ PEG รวมถึงครีมกันแดดแบบเคมี กลูเตน และส่วนผสมจากสัตว์เป็นต้น
อีกหัวข้อที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้อย่างมาตรฐาน The ZeroList™ ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะจากปัญญ์ปุริ กล่าวคือ ทุกส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ปัญญ์ปุริจะปราศจากต้องห้ามกว่า 2,300 รายการ และจะประกอบด้วยส่วนผสมที่จำเป็นซึ่งดีต่อผิว มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ซึ่งส่วนตัวแล้วเรามองว่าทั้ง Clean Beauty และมาตรฐาน The ZeroList™ ทำให้เรารับรู้ถึงความใส่ใจของแบรนด์ต่อผู้บริโภคอย่างจริงจัง และปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอะไรที่เจ๋งทีเดียวแหละ
PAÑPURI Nourish RiceMoss HyaQuench™ Watery Milk Oil (30ml./1,490.-)
ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่า PAÑPURI Nourish RiceMoss HyaQuench™ Watery Milk Oil นั้นเป็นพรีเซรั่มสูตร 2-in-1 อุดมไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ และออร์แกนิค 99.3% ด้วยนวัตกรรมแบบใหม่ซึ่งผสมผสานส่วนผสมทั้งในรูปแบบของน้ำและน้ำมันอย่างลงตัว
เมื่อเขย่าส่วนผสมของน้ำและน้ำมันจะรวมตัวกันจนเปลี่ยนเป็นน้ำนม ที่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาเราจึงใช้เป็น Step แรกในกลุ่มเซรั่ม(หรือที่เรียกว่า Pre-Serum นั่นแหละฮะ) ซึ่งนอกจากความบางเบาแล้วยังสามารถช่วยเติมเต็มน้ำและน้ำมัน สร้างสมดุลให้แก่ผิว รวมถึงแก้ไขปัญหาผิวขาดน้ำจากภายในและเสริมปราการให้ผิวแข็งแรง และสุขภาพดีได้อีกขอรับ
PAÑPURI Nourish RiceMoss HyaQuench™ Super Aqua Grenade Gel (50ml./1,350.-)
ไอเทมถัดมาอย่าง PAÑPURI Nourish RiceMoss HyaQuench™ Super Aqua Grenade Gel ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเพราะมอยเจอร์ไรเซอร์กระปุกนี้มาในรูปแบบเนื้อเจล ที่ซึบลงผิวได้อย่างรวดเร็วและสามารถล็อคความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 120 ชั่วโมง ด้วยส่วนผสมของ Rice Amylopectin ผนวกกับความเย็นของเนื้อเจลทำให้ผิวรู้สึกสดชื่น มีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขน
แม้ว่าเนื้อผลิตภัณฑ์จะอยู่ในรูปแบบเจล แต่ก็กลับมอบความชุ่มชื้นได้ดีผิดคาดเลยทีเดียวหละ แถมยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็น Sleeping Mask ได้ด้วย โดยส่วนตัวแล้วเรามักจะนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น เวลานำมามาส์กลงบนใบหน้าแล้วฟินเกินบรรยายจริงๆ ฮะ
Active Ingredients
ตัวแรกที่เราว่าน่าสนใจทางแบรนด์ให้ชื่อว่า HyaQuench นวัตกรรมใหม่จากปัญญ์ปุริ ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่ามีคุณสมบัติในการช่วยเติมเต็มน้ำ และความชุ่มชื้นถึงผิวชั้นใน พร้อมล็อคกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน และเสริมความแข็งแรงให้กับผิว เพิ่มประสิทธิภาพให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่งจากภายใน
ถัดมาคือ Rice Amylopectin ที่สกัดจากข้าวที่ช่วยปกป้องผิว เพราะมีโครงสร้างเสมือนตาข่ายล็อคความชุ่มชื้นไว้ในชั้นผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางปัญญ์ปุริได้ค้นคว้าจากข้าวกว่า 3,500 สายพันธุ์ข้าวไทย จนพบว่าหนึ่งในสายพันธุ์ของข้าวเหนียวอย่าง Oryza Sativa Var. Glutinosa มีโครงสร้างของ Rice Amylopectin ที่ยึดเกาะกันอย่างแน่นเป็นพิเศษ พร้อมคุณสมบัติเด่นเป็นตาข่ายล็อคความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ยาวนานถึง 120 ชั่วโมง จึงได้นำมาเป็นส่วนผสมหลักอีกตัวในไลน์นี้นั่นเองฮะ
นอกจากนี้ยังมี MossCell Technology ซึ่งอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวให้มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างปราการป้องกันเซลล์ผิวให้แข็งแรง ทำงานร่วมกับสารสกัดอีกตัวอย่าง Buchu Leaf ที่สามารถปรับสมดุลการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้า พร้อมควบคุมความมัน และกระชับรูขุมขน
Conclusion
จากที่เราได้ลองใช้ PAÑPURI Nourish RiceMoss HyaQuench™ทั้ง Watery Milk Oil และ Super Aqua Grenade Gel มาซักระยะนึง สิ่งแรกที่อยากชื่นชม คือ เนื้อสัมผัสที่ทำออกมาได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้มาก ไม่ใช่แค่ความเบาสบายผิว แต่กลับมอบความชุ่มชื้นได้ยาวนานสมกับที่ทางแบรนด์เคลมไว้จริงๆ ส่วนในเรื่องที่ว่าสามารถล็อคความชุ่มชื้นยาวนานถึง 120 ชั่วโมงนั้น สำหรับเราแล้วเรามองว่าในชีวิตปกติของเราก็มีการ Re-Apply Skincare ซ้ำทุกๆ 12-24 ชั่วโมงอยู่แล้ว จึงยังไม่สามารถฟันธงในส่วนนี้ได้ฮะ
แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจาก Texture, Active Ingredients และ Pricing แล้วเราก็ถือว่าเป็นคอลเลคชั่นที่น่าสนใจอีกไลน์หนึ่งของแบรนด์เลยทีเดียวฮะ แต่ก็แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัวของเราเท่านั้นและเราเองก็ไม่ใช่แพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถการันตีผลลัพธ์ให้คุณได้ ส่วนคำถามว่าใช้แล้วสิวจะขึ้นไหม จะระคายเคืองหรือเปล่า / เราไม่สามารถตอบได้เนื่องจากปัจจัยในการแพ้และระคายเคืองของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควรทดสอบอาการแพ้-ระคายเคืองที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อนทุกครั้งนะครับ