รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวัน

navigate_beforeย้อนกลับ

pic400
0 

VERRASKIN Anti-Melasma Concentrate Serum | ไอเทมลดฝ้าคู่ใจของมนุษย์แม่กว่า 6 เดือน



นับว่าเป็นครั้งแรกที่หม่าม้ามาปรึกษาเราเรื่องปัญหาผิวของท่าน ซึ่งต้องเท้าความให้ฟังก่อนว่าหม่าม้าของเราท่านเป็นคนที่ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องการประทินผิวเท่าไหร่นัก ต่างกับคนลูกอย่างเราคนละขั้วเลยหละ แต่ด้วยความที่ช่วงหลังมานี้เราค่อยๆ ตะล่อมท่านให้ใช้สกินแคร์ทีละชิ้นจนสุดท้ายท่านก็เริ่มเปิดใจและมาปรึกษาปัญหาผิวกับเรา ซึ่งปัญหาที่ท่านเป็นกังวลมากที่สุดคือเรื่อง ฝ้า อย่างที่บอกไปแล้วว่าท่านไม่ได้ใช้สกินแคร์ใดเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปัญหาผิวต่างๆ ย่อมเกิดขึ้นได้ไม่เว้นแม้แต่เรื่องฝ้า


ประจวบเหมาะกับที่เราได้ VERRASKIN Anti-Melasma Concentrate Serum มาพอดีและได้ลองดูส่วนผสมแล้วค่อนข้างน่าสนใจ เพราะมีสารออกฤทธิ์ที่ยับยั้งกลไกการเกิดฝ้าได้หลายรูปแบบ จึงให้หม่าม้าลองใช้ร่วมกับการทากันแดด ซึ่งนี่ก็ผ่านระยะเวลามาราวๆ 6 เดือนเห็นจะได้ เราเลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วในการนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน...


ฝ้าคืออะไร...?




ก่อนที่เราจะวาร์ปไปดูผลลัพธ์เราอยากอธิบายเรื่อง ฝ้า ให้เพื่อนๆ เข้าใจตรงกันก่อนว่าที่จริงแล้วฝ้าคืออะไร และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งจากที่เราหาข้อมูลมาพบว่าแท้จริงแล้วฝ้าเป็นปัญหาผิวรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากการที่เซลล์เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนังทำงานผิดปกติ โดยส่วนใหญ่นั้นสาเหตุมาจากการที่ได้รับรังสี UV ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน 




แต่เมื่อเราหาข้อมูลลึกขึ้นก็พบว่าปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดฝ้านั้นมีหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยาบางประเภท การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การตั้งครรภ์ พันธุกรรม แม้กระทั่งแสงสีฟ้าหรือ Blue Light ที่เราได้รับแทบจะตลอดเวลาผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ฯลฯ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ทั้งสิ้น พอเรายิ่งหาข้อมูลก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องฝ้าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วหละ แต่ในเมื่อหม่าม้ามีฝ้าเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นสิ่งที่พอจะทำได้ภายใต้เงื่อนไขว่าท่านไม่อยากไปพบแพทย์ผิวหนังนั่นคือการใช้สกินแคร์นั่นเองขอรับ


VERRASKIN Anti - Melasma Concentrate Serum




เราเลยให้ท่านลองทา VERRASKIN Anti - Melasma Concentrate Serum(15ml./499.-) ที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดเลือนฝ้าเก่า และช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าใหม่ซึ่งผสาน 7 คุณสมบัติทั้งการดูแลปัญหาฝ้าและบำรุงผิวได้ในหลอดเดียวไม่ว่าจะเป็น

 - ช่วยลดเลือนฝ้า จุดด่างดำและรอยสิว

 - ป้องกันการเกิดฝ้าใหม่

 - ลดความหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใส

 - ลดการอักเสบและระคายเคืองบนผิวหนัง

 - กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว เพิ่มความกระชับให้ผิว

 - ลดริ้วรอยแห่งวัย

 - บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ลดการแห้งกร้าน


Texture / Scent / Packaging




Texture : เนื้อสัมผัสในรูปแบบเจล-ครีม ซึมลงผิวได้ค่อนข้างง่าย และไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะเอาไว้บนผิว ทำให้หม่าม้าไม่บ่นว่าทาแล้วหนักผิวจัง ลูกอย่างเราก็เป็นปลื้มสิครับงานนี้

Scent : ในด้านของกลิ่นต้องยอมรับว่ามีส่วนผสมของน้ำหอม แต่จากที่หม่าม้าเราใช้มาอย่างตลอด 6 เดือนก็ไม่พบอาการแพ้/ระคายเคืองแต่อย่างใดฮะ




Packaging : บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบหลอดพลาสติกที่ส่วนตัวแล้วเราว่าใช้งานง่ายดี ที่สำคัญคือไม่ต้องกังวลว่าท่านจะทำตกแตกด้วยแหละ (ไม่ได้หรอกช่วงนี้เงินทองหายาก ฮ่าๆ)


Active Ingredients



ในแง่ของ Active Ingredients ทางแบรนด์ใส่สารออกฤทธิ์ที่น่าจับตามองในตอนนี้อย่าง Tranexamic acid มาถึง 3% ซึ่งถือว่าเป็น Maximun dose แล้วในกลุ่มเครื่องสำอางค์ ซึ่งมีกลไกในการยับยั้งพลาสมินในเลือดทำให้การอักเสบในผิวที่เกิดจากรังสี UV ลดลง ส่งผลให้การส่งสัญญาณไปกระตุ้นการสร้าง melanin น้อยลงด้วย ยิ่งเมื่อทำงานร่วมกับ Glycyrrhiza Glabra Root Extract หรือ Licorice Extract ที่ช่วยขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ในการสร้าง melanin จึงเป็นคอมโบที่ซัพพอร์ตซึ่งกันและกันในการลดผลกระทบจากรังสี UV ที่กระตุ้นการผลิตเม็ดสี รวมถึงช่วยลดการอักเสบในชั้นผิว ลดรอยแดง-รอยดำ ลดการเกิดฝ้าและช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสได้ดีมากทีเดียวหละฮะ


นอกจากนี้ยังมี Sodium Ascorbyl Phosphate อนุพันธ์วิตามินซีที่จะถูกแปลงสภาพเป็น ascorbic acid ด้วยเอ็นไซม์ในผิว ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าวิตามินซีเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และลดผลกระทบจากรังสี UV แต่ความโหดยังไม่จบแค่นี้เพราะทางแบรนด์ใส่ Tocopheryl Acetate หรือวิตามินอีที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้แล้ว ยังช่วยให้วิตามินซีที่ Oxidized ไปแล้วเปลี่ยนกลับมาเป็น L-ascorbic acid เพื่อให้ผิวนำกลับมาใช้ได้ใหม่




ปิดท้ายด้วย TEGO® Pep 4-Even หรือ Tetrapeptide-30 นวัตกรรมใหม่จากเยอรมันที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถชะลอการเกิดริ้วรอย ต่อต้านการอักเสบและยังเป็น whitening agent ที่สามารถลดปริมาณ tyrosine และการยับยั้งการกระตุ้นการทำงานของเมลาโนไซต์ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น แถมยังมีผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2011 ว่าเมื่อใช้ Tetrapeptide-30 ร่วมกับ Sodium Ascorbyl Phosphate ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ส่งผลให้ประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้ความเข้มของฝ้าจางลงได้ดีขึ้นด้วยหละครับ 


อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือทางแบรนด์ไม่ใส่สารกลุ่ม Exfoliate(สารผลัดเซลล์ผิว) และ Vitamin A หรือแม้แต่อนุพันธ์วิตามิน เอ ดังนั้นจึงลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองผิว และไม่มีความรู้สึกแสบๆ ยิบๆ ไม่ทำให้ผิวลอก ผิวบางที่เรามักเจอในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Glycolic Acid รวมถึงไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องใช้กันแดดนะ!!


Result...




จากที่เราให้หม่าม้าลองใช้ เวอร่าสกิน เมลาสม่า-คอนเซนเทรท เซรั่ม ร่วมกับการทากันแดดอย่างต่อเนื่องตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาพบว่า...

 - โทนผิวโดยรวมค่อยๆ กระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนที่แล้ว

 - ความเข้มของฝ้าบริเวณโหนกแก้มดูจางลงพอสมควร แต่ก็ยังคงมีเหลือให้เห็นอยู่เป็นจุดเล็กๆ ตามภาพ (ซึ่งหากมองตามความเป็นจริงว่าการรักษาฝ้าโดยเฉพาะฝ้าที่เป็นมานานแล้วแบบนี้ด้วยสกินแคร์ ย่อมต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาที่มากพอสมควรเลยหละ)

 - ผิวนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น ความแห้งกร้านลดลง ส่งผลให้ริ้วรอยบางตำแหน่งที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้นดูตื้นขึ้น


สำหรับเราแล้วนี่นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว เพราะเราอยากให้เพื่อนๆ ทำความเข้าใจก่อนว่าหม่าม้าเราท่านไม่ได้ทาสกินแคร์ใดเลย แน่นอนว่าปัญหาผิวที่สะสมมาหลายสิบปีย่อมฝั่งรากลึก และยากต่อการแก้ไข แต่การดูแลตัวเองในระยะเวลาเพียงครึ่งปีโดยใช้สกินแคร์เพียงอย่างเดียว กลับทำให้ผิวดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนขนาดนี้ ก็ต้องชมทั้งแบรนด์ เวอร่าสกิน ที่คิดค้น Anti - Melasma Concentrate Serum ออกมาให้ผู้บริโภคอย่างเรา และก็ต้องขอบคุณความมีวินัยของหม่าม้าที่อดทนมาขนาดนี้ฮะ 


แต่อย่างที่เราบอกเสมอว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนคำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้/ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ 

9 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณค่ะ
21 เม.ย. 2564 เวลา 10:12 น.
ความคิดเห็นที่ 2
น่าสนใจมาก 
21 เม.ย. 2564 เวลา 10:15 น.
ความคิดเห็นที่ 3
Thanks
21 เม.ย. 2564 เวลา 10:23 น.
ความคิดเห็นที่ 4
ดี
21 เม.ย. 2564 เวลา 10:53 น.
ความคิดเห็นที่ 5
หลอดน่าใช้จัง
21 เม.ย. 2564 เวลา 11:10 น.
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณค่ะ
21 เม.ย. 2564 เวลา 11:28 น.
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณค่ะ
21 เม.ย. 2564 เวลา 18:21 น.
ความคิดเห็นที่ 8
น่าสนใจคร่า
21 เม.ย. 2564 เวลา 19:31 น.
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณค่ะ
23 เม.ย. 2564 เวลา 6:05 น.
What's new
รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันรีวิวมาสคาร่าขนตาพลุ ตัวใหม่จาก Maybelline ขนตาพุ่งกระจาย มีวอลลุ่มแบบ 360 องศาCute Press จัดเต็มคอลใหม่! "Wave Up Make Up" 40 ชิ้น จุกๆ แมทช์สนุกสุดทุกสีสัน!ป้ายยาลิควิดบลัชตัวใหม่จาก Gentle Colors เนื้อละมุน เบลนด์ง่าย สีชัดติดทนนานอาการชาปลายนิ้ว บอกอะไรได้บ้าง? สัญญาณจากปลายนิ้วที่ต้องรู้!8 รองพื้นเนื้อบางเบา ได้งานผิวเล่นแสง คุมมัน ไม่หยาไม่อุดตัน10 เจลล้างหน้า ผิวแพ้ง่าย ลดสิว ผิวสะอาดไม่ระคายเคือง หน้ามันก็ใช้ได้ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 3 - 9 พ.ย. 67 (ทุกราศี) แต่งหน้ายังไงให้ติดทน? แจก 8 วิธีแต่งหน้าติดทน ไม่เป็นคราบ ฉบับโมเมพาเพลินกิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ กันแดด BSC Expert White Spot Protect Sunscreen เผยผิวหน้ากระจ่างใสพร้อมท้าแดด จำนวน 250 รางวัล