จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงเมื่อเร็วๆ นี้พี่ปิ่นได้รู้จักกับแบรนด์ไทยที่น่าสนใจและน่าจับตามองมาก ทั้งแนวความคิดของผู้ก่อตั้ง และในด้านของส่วนผสมซึ่งประทับใจพี่ปิ่นมากถึงมากที่สุด แต่...ต้องขอบอกก่อนว่าเนื้อหาจะค่อนข้างยาว พี่ปิ่นเลยจะให้เวลาทุกคนได้ไปเอาหมอนมาอิงเอนหลังอ่านกันเพลินๆ ยาวๆ ไปเลยค่ะ
จะเป็นแบรนด์ไหนนั้นตามพี่ปิ่นมาเลยค่ะ
amt skincare
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ไทย ผู้ก่อตั้งและคิดค้นคือนักวิจัยสกินแคร์คนไทยที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์สกินแคร์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น โดยที่ปณิธานของผู้จัดตั้งก็น่าสนใจมากทีเดียว เขาให้ความสำคัญกับ R & D ที่คิดค้นสูตรสกินแคร์ขึ้นเอง ถือได้ว่าเป็นก้าวแรกที่จะผลักดันและยกระดับอุตสาหกรรมสกินแคร์แบรนด์ไทยให้ทัดเทียมประเทศอื่น ๆ ค่ะ
นอกจากนี้พี่ปิ่นมองว่าสกินแคร์แบรนด์นี้เข้าถึงได้ง่าย ทั้งยังใจกว้างพอที่จะสามารถพูดถึงหรือใช้ร่วมกับแบรนด์อื่นๆ ได้ด้วย ตามช่องทางต่าง ๆ ของแบรนด์เราสามารถถามเขาได้หมด พี่ปิ่นเองก็ใจกล้าหน้าทนถามเขาถึงลำดับขั้นตอน และข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งทางแบรนด์ก็ตอบคำถามเป็นอย่างดี ทำให้ได้ความรู้มากมาย เปิดโลกเลยทีเดียวค่ะ
ผลิตภัณฑ์ของ amt skincare มี 4 ตัวหลักที่ทุกคนเห็นในภาพค่ะ ซึ่ง Product ชุดนี้จะให้ความสำคัญกับ การมีผิวที่มีสุขภาพดี มีภูมิคุ้มกันต่อปัญหาผิวต่างๆ พร้อมให้ความกระจ่างใสแก่ผิว
แต่ละตัวน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นเรามาดูไปทีละตัวกันเลยดีกว่าค่ะ
AMT
Brightening & Moisturizing Liposome Serum
พี่ปิ่นจะขอพูดถึงเซรั่มตัวนี้นานนิดนึงนะคะ เพราะเขาเป็นกุญแจสำคัญที่จะปูพื้นให้ผิวแข็งแรงและมั่นคงค่ะ การทำงานจึงค่อนข้างลึกซึ้งเป็นพิเศษ
เขาเป็นเซรั่มที่ช่วยฟื้นฟู Skin Barrier ให้แข็งแรง เมื่อแข็งแรงผิวก็จะสามารถกักเก็บน้ำและไขมันใต้ผิวได้ดี ตัวนี้เป็นเซรั่มที่ต้องลงเป็นขั้นตอนแรกเลยค่ะเพราะเขาจะช่วยปรับโครงสร้างผิวให้พร้อมรับสารอาหารของสกินแคร์ตัวถัดไปที่จะลง ทำให้ซึมเข้าผิวได้ดีขึ้นค่ะ ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่พี่ปิ่นบอกว่าเขาใจกว้างพอที่จะใช้ร่วมกับแบรนด์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ นอกจากนี้ยังนำส่ง Niacinamideในรูปแบบไลโปโซมซึมลึกไปถึง Melanocyte ต้นเหตุของรอยด่างดำ ช่วยทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น
ไม่มีส่วนผสมจากน้ำหอม แอลกอฮอล์และซิลิโคน
Cr. Pic : amt skincare
การทำงานของ Liposome Serum ในขั้นตอนแรกคือจะเข้าไปซ่อมแซม Skin Barrier ที่เสียหาย เมื่อ Skin Barrier แข็งแรงก็สามารถล็อกน้ำในผิวไม่ให้แห้งหาย
Cr. Pic : amt skincare
โดยที่ส่วนผสมที่ทาง amt เลือกมาใช้เป็น Lecithin ซึ่งสารตัวนี้เป็นสีเหลืองอ่อนที่ได้จากถั่วเหลือง ประกอบไปด้วย phospholipid เป็นส่วนประกอบหลัก สารตัวนี้จะเข้าไปอุดรอยรั่วต่างๆ ใน Skin Barrier ป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำและไขมัน โดยการอุดรอยรั่วนี้ จะไม่ทำให้ Skin Barrier แข็งทึบเกินไปเป็นโครงสร้างผิวที่พร้อมรับสารอาหารตัวอื่นแล้วค่ะ
เนื้อของเซรั่มไม่ได้เหลวค่ะ ค่อนไปทางเนื้อบาล์มเลยด้วยซ้ำแต่ไม่หนัก สีออกแนวเหลือง ๆ ใส ๆ ไม่มีกลิ่นน้ำหอมและสารอันตราย ถูกออกแบบมาเพื่อคนผิวแพ้ง่าย ซึมเข้าผิวเลยทันทีไม่มีความมันเหลือค้างอยู่บนผิวใดๆ เลยค่ะ ด้วยความที่เขามี Niacinamide ในรูปแบบที่สามารถซึมลึกได้ถึงชั้นผิวที่มีปัญหาทำให้ช่วยลดจุดด่างดำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้ดีทีเดียวค่ะ
หลังจากทาเซรั่มเสร็จก็ทิ้งไว้ครู่หนึ่งแล้วก็ลงเซรั่มตัวอื่นที่เรามีต่อได้เลยค่ะ
AMT
Rejuvenating and Brightening Light & Rich Emulsion
หลังจากที่ลงเซรั่มตัวแรกที่พูดถึง และเซรั่มตัวอื่นที่เรามีเสร็จแล้ว ก็มาถึงน้องคนถัดมาเป็น Emulsion ค่ะ เขาเน้นให้สารอาหารประเภทไขมันให้กับชั้นผิว มี 2 สูตร Light และ Rich โดยที่แต่ละสูตรจะมีอัตราส่วนน้ำมันที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพผิว
สูตร Light จะมี inner oil : surface oil = 90:10 (เหลือน้ำมันที่ surface น้อยกว่า )
สูตร Rich จะมี inner oil : surface oil =75:25 (เหลือน้ำมันที่ surface มากกว่า)
โดยที่ส่วนผสมจะมีน้ำมันจาก
- Macadamia seed oil ช่วยทำให้ผิวนุ่มและเฟิร์มในเวลาเดียวกัน
- น้ำมันอะมิโน เป็นน้ำมันที่มีคุณประโยชน์สามประการ คือ อุ้มน้ำไว้ในผิว, ทำให้ผิวนุ่ม, อุดรอยรั่วป้องกันผิวเสียน้ำ
- Phosphatidylcholine หรือ PC สารนำพาน้ำมันเข้าสู่ผิวแบบ Biocompatible ผิวไม่มองว่าเป็นสารแปลกปลอม ทำให้ซึมนำพาน้ำมันเข้าสู่ผิวได้ลึก พร้อมซ่อมแซม skin barrier ทำให้ผิวแข็งแรงไปด้วยในตัว
- Niacinamide บริสุทธิ์ความเข้มข้นสูง ซึ่งจะถูก PC พาเข้าไปสู่ผิวพร้อมๆกัน ช่วยลดเลือนความผิดปกติของเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ รอยแดง รอยดำค่ะ
ไม่มีส่วนผสมจากน้ำหอม แอลกอฮอล์และซิลิโคนค่ะ
สูตร Light
จะเหมาะกับผิวแบบพี่ปิ่นมากค่ะ เนื่องด้วยเป็นคนผิวผสมที่ค่อนไปทางมันจึงควรให้มีน้ำมันเหลืออยู่บนผิวน้อยหน่อยค่ะ สูตรนี้มีเนื้อที่บางเบาออกแนวน้ำนมค่ะ เป็น Emulsion ที่ซึมลงผิวได้อย่างรวดเร็ว เหลือความมันทิ้งไว้บนผิวน้อยมาก แต่ได้ความชุ่มชื้นสูงมากทีเดียวค่ะ พี่ปิ่นใช้สูตรนี้ในตอนเช้าค่ะ แม้จะเป็น Emulsion ที่ให้สารอาหารประเภทไขมันแก่ผิว แต่วันทั้งวันผิวพี่ปิ่นไม่มีความมันส่วนเกินมากวนใจเลย อันนี้ค่อนข้างอเมซิ่งทีเดียว เพิ่งได้รับรู้เป็นครั้งแรกว่าการที่ผิวได้รับความชุมชื้นที่เหมาะสมแล้วผิวจะไม่ผลิตน้ำมันส่วนเกินมาอีกมันเป็นแบบนี้นี่เอง อันนี้ปลื้มมากจ้า
สูตร Rich
จะมีความเข้มข้นขึ้นมามาก พี่ปิ่นจะใช้สูตรนี้ในตอนกลางคืนค่ะ หรือในวันที่ผิวบริเวณรอบดวงตามีความแห้งมาก นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้บำรุงผิวเท่าไรด้วยค่ะ เรียกได้ว่าใช้สูตรนี้แล้วจะช่วยบำรุงลึกถึงชั้นผิวให้แข็งแรงขึ้นได้ไม่ยากค่ะ
AMT
All Day Nourishing Deep Essence Mist
อยากมีผิวแบบลูกโป่งใส่น้ำ ต้องอย่าลืมขั้นตอนนี้เด็ดขาดเลยค่ะ เพราะสเปรย์ของ amt ตัวนี้เขาเต็มไปด้วยสารอาหารจำพวกน้ำ อย่างเช่น กรดอะมิโน น้ำตาล เปปไทด์ ซึ่งเห็นผลในทันทีคือทำให้ผิวชุ่มชื้นราวกับลูกโป่งน้ำ มีสาร Lysolecithin เป็นตัวพาสารอาหารเข้าสู่ผิวชั้นลึกทำให้ผิวถูกบำรุงจากภายในอย่างเต็มพิกัด และเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องระบบกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องค่ะ อีกทั้งยังช่วยปลอบประโลมผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ด้วยค่ะ
สเปรย์เป็นละอองละเอียด ฉีดพ่นทั่วใบหน้าแล้วก็ใช้ฝ่ามือแนบไปกับผิวค้างไว้ 5-10 วินาทีจะช่วยให้สารอาหารของผิวซึมลงไปได้เร็วขึ้นค่ะ สามารถใช้สเปรย์ระหว่างวันได้โดยไม่รบกวนเมคอัพและกันแดดเลยค่ะ แต่ในกรณีนี้คือต้องหลีกเลี่ยงอย่าใช้มือสัมผัสกับผิวโดยตรงค่ะ นอกจากนี้ยังฉีดที่ผมก็ได้ จะใช้มากใช้น้อยยังไงก็ได้ เอาตามที่ต้องการเลยจ้า
ถ้าให้เรียงลำดับการลงสกินแคร์ ขอให้ลืมทฤษฎีเรื่องลงตามความข้นเหลวของสกินแคร์ไปก่อนค่ะ เพราะความข้นเหลวของผลิตภัณฑ์ไม่ได้มีผลต่อการซึมผ่าน แต่มันขึ้นอยู่กับโครงสร้างเคมีของสารในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มากกว่าค่ะ และด้วยคุณสมบัติของ amt liposome serum แนะนำว่าควรใช้เป็นสกินแคร์ลำดับแรกก่อนสกินแคร์อื่น ๆ เนื่องจากเป็นbooster ช่วยนำพาสกินแคร์ในลำดับถัดๆไป ให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ถ้าให้เรียงลำดับก็ตามแผนผังนี้เลยค่ะ
Cr.pic : amt skincare
ต่อไปเป็นผลการใช้เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นๆ ค่ะ
จะเห็นได้ว่าสีผิวก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของ amt คือสีผิวที่หน้ากับที่คอนี่คนละสีกันเลย หน้าฉันหมองเหมือนโดนของมาก! แม้ผิวจะเนียนในระดับหนึ่งแต่รูขุมขนก็ยังกว้างอยู่ ทำให้ระหว่างวันมีความมันส่วนเกินค่อนข้างมากค่ะ แต่หลังจากที่เพิ่ม line ของ amt เข้าไปแล้วลงสกินแคร์ตามลำดับในผัง สีผิวก็กระจ่างขึ้นเหมือนติดไฟจากภายใน ผิวไม่ได้ขาวขึ้นเหมือนลอกผิวภายนอกออก แต่กระจ่างขึ้นจากภายใน รู้สึกได้เลยค่ะว่าผิวแน่นกระชับขึ้น และแข็งแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยค่ะ ผิวที่เป็นริ้วๆ เส้นๆ ตรงรอบดวงตาดูชุ่มชื้นและเฟิร์มขึ้นด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องการแต่งหน้าไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ ผิวแข็งแรงแต่งทั้งวันก็ไม่หลุด ผิวเนียนเรียบแต่งหน้าติดทนซึ่งคุณสมบัตินี้เป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้นเองค่ะ ผิวแข็งแรงซิยั่งยืนกว่าเยอะ
อีกเรื่องที่เห็นผลชัดมากคือรูขุมขนค่ะ รูขุมขนเล็กลงมากกกกกก บางจุดกระชับพื้นที่จนมองแทบไม่เห็น อย่างรูขุมขนตรงวงกลมด้านบนนอกจากรูจะใหญ่มากแล้วยังมีความเหี่ยวย่น ปิ่นขอเรียกว่าหยุยๆ รู้ได้เลยว่าอีลาสตินใต้ผิวคือตายจากพี่ปิ่นไปหมดแล้ว แต่พอมาดูภาพด้านขวาก็คือ!!! เขากระชับขึ้นเหมือนมีเส้นใยใหม่ต่อกับผิวชั้นในและตึงกระชับให้แข็งแรงได้อีกครั้งเลยค่ะ ร้องไห้แล้ว ฮืออออ
นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ปกติเวลาลงสกินแคร์เสร็จจะมีความมันเหลือๆ เคลือบไว้ที่หน้าผิวซึ่งมันก็คือสกินแคร์ที่ซึมลงไปในผิวได้ไม่หมด โดยเฉพาะตื่นนอนมาตอนเช้านี่หน้าจะมันเมือกขนแมวติดหน้ายุบยิบ แต่พอเพิ่ม amt skincare เข้ามา(ที่เหลือใช้ทุกอย่างเหมือนเดิม) แล้วลงตามลำดับที่บอกไป ความมันส่วนเกินอะไรไม่รู้จักแล้ว 555 ตื่นมาพร้อมกับผิวหน้าที่เนียนนุ่ม ความชุ่มชื้นถูกเก็บไว้ใต้ผิวหมดค่ะ ไม่มีโผล่มากวนใจอีก ระหว่างวันผิวก็ไม่มันเพิ่มเหมือนแต่ก่อน
**รู้สึกได้เลยว่าเงินทุกบาทที่จ่ายค่าสกินแคร์ไปถูกใช้บำรุงอย่างคุ้มค่าทุกหยาดหยดจริงๆ**
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่พี่ปิ่นพบคือราคาสูง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณและส่วนผสมชั้นดีก็ทำให้เข้าใจได้เพราะผลลัพธ์มันเห็นคาตาขนาดนี้ก็ไม่มีอะไรจะหักแล้วจริงๆ ค่ะ
นับว่าเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของ amt skincare เลยค่ะ ดีแค่ line ตัวเองไม่พอ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพสกินแคร์ตัวอื่นให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก ประเสริฐแท้ลูกเอ้ย
อีกทั้งด้านการบริการก็มีแอดมินคอยตอบคำถามอย่างสุภาพและกระตือรือล้นในทุกช่องทาง ทั้งยังมีการบอกส่วนผสมทุกอย่างไว้ที่เว็บไซต์ให้เราเข้าไปตรวจสอบได้โดยไม่ต้องถาม อันนี้น่าชื่นชมที่สุดค่ะ
ทิ้งท้ายไว้แค่ว่า
ต้องลอง!!!
ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!!
สำหรับวันนี้พี่ปิ่นขอลาไปก่อน
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า