จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงสวัสดีค่ะเพื่อนๆ
วันนี้ขอออกตัวเลยว่า สำหรับรีวิววันนี้ มุกทำด้วยความตั้งใจมากๆ เพราะซุ่มทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จาก แบรนด์ Aesop มาได้สักพัก โดยก่อนหน้านี้ผิวหน้าค่อนข้างมีปัญหานะคะ มีร่องรอยจุดด่างดำจากอาการแพ้ลมพิษร่วมกับปัญหารูขุมขนด้วย เพราะค่อนข้างนอนดึกค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ทำให้มุกเกิดความประทับใจมาก! ตอนนี้ยกเป็นลูกรักไปแล้วค่ะ
Aesop เป็นสกินแคร์แบรนด์สัญชาติออสเตรเลียนะคะ เขาคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมธรรมชาติ โดยสองผลิตภัณฑ์ที่มุกจะเล่าสู่กันฟังวันนี้ ได้แก่ Aesop Sublime Replenishing Night Masque และ Aesop B & C Facial Balancing Gel มุกใช้น้องสองคนนี้เป็น Night routine โดยเฉพาะเลย ว่าแล้วเราไปทำความรู้จักน้องๆ กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ
ขอเริ่มต้นในส่วนของแพคเกจจิ้งกันก่อนเลย Aesop เขาค่อนข้างใส่ใจในการคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อเรามากๆเลยนะ ตัวแพคเกจบรรจุ เขาเลือกเป็นขวดแก้วสีทึบ และฝาพลาสติกอย่างหนา แข็งแรง ทนทาน แถมยังมีแผ่นซีลป้องกันอีกชั้นด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีมากๆ ค่ะ เพราะตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ของเขามีส่วนผสมของวิตามินหลายชนิด การใช้แพ็คเกจสีทึบเพื่อลดการถูกแสงแดด ไว้สำหรับคงความสดใหม่ของวิตามินได้ดีเลยทีเดียว
คำแนะนำ: เก็บรักษาผลิตภัณฑ์ในที่แห้งและเย็น อุณหภูมิไม่เกิน 25 °C นะคะ
สำหรับตัวแรกที่จะพูดถึงคือนี่เลย Aesop Sublime Replenishing Night Masque เป็นมาส์กมอยส์เจอไรเซอร์วิตามินรวมสูตรเข้มข้น มาส์กเนื้อครีมเจลสีขาวขุ่น ลักษณะข้น ไม่เหลว ที่จะช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น และช่วยบำรุงฟื้นฟูทุกปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยนะคะ น้องมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วย เป็นกลิ่นเหมือนอโรม่า ค่อนข้างทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ เลยค่ะ
ขนาด 60 มิลลิลิตร ราคา 4,300 บาท
ในส่วนของตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ของเขา สามารถบรรจุและคงคุณภาพของ Active ingredient ได้ดีมาก ซึ่งส่วนผสมของเขาเน้นการบำรุงผิวที่ครอบคลุมทุกปัญหาผิวสุดๆ เลยค่ะ
Vitamin C - ช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปกป้องผิวที่เสื่อมสภาพ
Vitamin B3 - ช่วยปลอบประโลมผิวและอาการอักเสบจากแผลสิว และมีส่วนช่วยชะลอวัย
Vitamin B5 - ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ บำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
Vitamin F (Linoleic Acid) - เป็นกรดไขมันชนิดดีที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับผิวมนุษย์ ( Sebum) ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี
Vitamin E - ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
Anti-oxidant - ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
เกลือทะเลบริสุทธิ์ (Marus Sal) เติมแร่ธาตุจำเป็นให้แก่เซลล์ผิว
ภาพนี้แสดงลักษณะของเนื้อมาส์กเมื่อทาลงบนผิวหน้านะคะ มาส์กเขาจะเปลี่ยนเป็นฟิล์มบางๆ แล้วเคลือบผิวหน้าของเราไว้ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นและวิตามินลงสู่ผิว เนื้อผลิตภัณฑ์เบาสบายผิวมาก ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้าหรือเหนียวเหนอะหนะใดๆ เลย และไม่ทำให้รู้สึกผิวแห้งจนทำให้รู้สึกรำคาญนะคะ เวลาใช้เจ้ามาส์กตัวนี้ แนะนำให้ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวตอนกลางคืนนะคะ ค่อยๆ เกลี่ยพอกเนื้อครีมมาส์กเบาๆ ทั่วใบหน้าและลำคอ ให้เนื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนเป็นฟิล์มเคลือบผิวไว้ พอกทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที หรือทิ้งไว้ข้ามคืนเลยก็ได้ค่ะ ตัวเนื้อครีมที่เปลี่ยนเป็นฟิล์มเคลือบผิวเราไว้นั้น จะทำให้สารบำรุงต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดคืน เกาะติดอยู่กับผิว ไม่ระเหยออกไปก่อน สำหรับตัวนี้มุกแนะนำให้ใช้ทุกๆ สองวัน ก็เพียงพอค่ะ เพื่อให้ผิวมีการปรับฟื้นตัวได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ
ความรู้สึกหลังใช้ มุกมักจะทามาส์กทิ้งไว้ทั้งคืนนะคะ ซึ่งพอตื่นเช้ามานั้น มุกรู้สึกได้ว่าผิวมีความชุ่มชื้นผิวมีสัมผัสเนียนนุ่ม ไม่มีสิวผดผื่นเลย ซึ่งการทดลองใช้ในระยะยาว ผิวดูมีความชุ่มชื้นขึ้นมาก ผิวเนียนใส ผิวดูเงาๆ เหมือนกระเบื้องเคลือบเลย ฮ่าๆๆ และผลลัพธ์ก็เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องค่ะ ชอบมากๆ
มาต่อกันที่ Aesop B & C Facial Balancing Gel เจลมอยส์เจอไรเซอร์วิตามินเข้มข้น ตัวนี้จุดเด่นของเขาคือทำเนื้อเจลเป็นลักษณะเหมือนน้ำผึ้งเลย ซึ่งการที่เอสอปทำเจลเป็นลักษณะแบบนี้ก็เพื่อ รักษาประสิทธิภาพของส่วนผสมวิตามิน B และวิตามิน C ซึ่งเป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ง่ายในน้ำและเพิ่มความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นนั่นเองค่ะ น้องเป็นเจลที่ช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงกระจ่างใส ลดเลือนรอยสิว อาการอักเสบจากสิว จุดด่างดำ และเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เจ้าเจลน้ำผึ้งตัวนี้ถึงจะมีลักษณะเหนียวข้นเหมือนน้ำผึ้งก็จริง แต่สามารถใช้ได้แม้กระทั้งคนสภาพผิวมันนะคะ เพราะเจ้าเจลน้ำผึ้งสามารถช่วยปรับสมดุลความมันให้ผิวของเราด้วย
ขนาด 60 มิลลิลิตร ราคา 4,050 บาท
เนื้อผลิตภัณฑ์ของเจ้าเจลน้ำผึ้งจะเป็นลักษณะสีเหลืองใสแบบนี้เลยนะคะ ความว้าวอยู่ที่ เมื่อเราวอร์มเนื้อเจลก่อนใช้งาน จากที่เป็นลักษณะน้ำผึ้งแบบนี้ จะกลายเป็นน้ำ เหมือนเอสเซ้นส์เลย
สำหรับส่วนผสมหลักของเจ้าเจลน้ำผึ้ง หลักๆ จะเป็น วิตามิน B และ C เข้มข้นเท่านั้นนะคะ เพื่อการบำรุงผิวที่ตรงจุด
Vitamin C (Magnesium Ascorbyl Phosphate) - เป็นวิตามินซีแบบเสถียร ช่วยฟื้นฟูให้ผิวกระจ่างใส ต้านอนุมูลอิสระ มอบความชุ่มชื้นแก่ผิวพร้อมปลอบประโลมผิวที่เสื่อมสภาพ
Vitamin B5 - เป็นวิตามินที่สกัดจากพืช ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน กักเก็บความชุ่มชื้นในอากาศเข้าสู่ผิว
วอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์ ด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง ประมาณ 30 วินาที จนเนื้อเจลน้ำผึ้งเปลี่ยนเป็นเนื้อ Essence และประกบฝ่ามือเข้ากับผิวหน้าและลำคอเบาๆ ค่ะ สามารถนวดผิวร่วมด้วยก็ได้ค่ะ ใช้หลังจากเซรั่มหรือ Face oil และสามารถใช้ moisturizer ตามได้นะคะ หากต้องการเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว (แนะนำให้ใช้ Aesop Sublime Replenishing Night Masque ตามด้วยนะ ใช้ทาคู่กันไปเลยเพื่อเสริมประสิทธิภาพกันค่ะ) สำหรับตัวนี้มุกก็จะใช้ ทุกๆ สองวันเช่นเดียวกันนะคะ เพราะเจลเขาค่อนข้างเข้มข้นมากๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันค่ะ แต่ให้ใช้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอค่ะ ซึ่งหลังใช้ผลิตภัณฑ์ มุกรู้สึกได้ว่าผิวอิ่มฟูขึ้น เนียนนุ่ม แถมหน้าไม่มันเลยนะทุกคน ที่สำคัญรูขุมขนก็กระชับมากขี้นด้วย
มุกขอสรุปความรู้สึกโดยรวมหลังจากที่ใช้ทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้ไว้ตรงนี้เลยละกัน สิ่งที่ชัดเจนมากคือผิวนุ่มขึ้นมากๆ ชุ่มชื้น อิ่มฟู สัมผัสผิวเนียน นุ่มลื่น ผิวหน้ากระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
และอีกหนึ่งเรื่องที่สังเกตได้คือรูขุมขนกระชับขึ้น ซึ่งช่วงนี้มุกนอนดึกมากๆ ตี 2-3 ทุกคืน แต่หน้ากลับดูอิ่มน้ำ ไม่ดูโทรมแห้งกร้านเลยค่ะ มุกยกให้สองกระปุกเป็นสกินแคร์บำรุงผิวตอนกลางคืนเพื่อการกู้คืนผิวสวยจริงๆ เลย
ใครอยากได้พิกัดบ้าง? ตัวนี้มุกสั่งโดยตรงจากช่องทางออนไลน์ที่ Central online นะคะ ส่วนตัวมุกแนะนำผลิตภัณฑ์ทั้งสองจาก Aesop เลยนะ ที่สุดของ Night skincare routine จริงๆ ค่ะ