จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงหลายคนที่ติดตามเรามานานคงรู้อยู่แล้วว่าใน Skincare Routine ของเราจะมีส่วนผสมหนึ่งตัวที่ขาดไม่ได้เลยนั่นคือ Vitamin A เพราะอะไรหนะหรอ ? ก็เพราะเจ้าวิตามิน เอ เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่มีงานวิจัยรองรับในเรื่อง Anti-Aging สูงมากๆ ตัวหนึ่งตลอดกาลเลยไงหละ แต่ก็อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าวิตามิน เอ ในฟอร์มอย่าง Tretinoin, Retinol, Retinoic Acid และอื่นๆ นั้นต่างก็มีผลข้างเคียงที่น่าเป็นกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิวระคายเคืองได้ง่าย ผิวแห้งลอก ฯลฯ อื่นๆ อีกเพียบ
ดังนั้นเราเลยมองหาทางเลือกของส่วนผสมที่สามารถออกฤทธิ์ได้เหมือน Vitamin A แต่มีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าหรือไม่มีผลข้างเคียงเลย และแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น Bakuchiol ซึ่งไอเทมที่เราจะหยิบมาพูดให้ฟังในวันนี้เป็นความ Pround to Present ส่วนตัวล้วนๆ เพราะเป็นแบรนด์ของคนไทยอย่าง Eri Eden : The Vital Srum ซึ่งทางแบรนด์ได้ส่งมาให้เราทดลองใช้ประมาณ 4 สัปดาห์ แล้วพบว่าให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวหละฮะ...
Retinol vs Bakuchiol
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับ Eri Eden The Vital Serum เราเอาข้อดี/ข้อเสีย ของทั้ง Retinol และ Bakuchiol ที่เราได้จากการอ่านและรวมรวมแล้วนำมาสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ตามภาพด้านบนจะเห็นว่า..ถึงแม้โครงสร้างโมเลกกุลของ Retinol และ Bakuchiol นั้นจะแตกต่างกันแต่ในแง่ของกลไกการทำงาน (Functional Analogue) ของทั้ง 2 ตัวนี้ถือว่าใกล้เคียงกันมากทีเดียว ซึ่งหากมองจากภาพด้านบนจะเห็นว่านอกจากการทำงานที่ใกล้เคียงกันของทั้ง 2 ตัวแล้ว Retinol ยังมีข้อเสียที่น่าเป็นกังวลมากกว่า Bakuchiolอยู่เยอะมากทีเดียว และหากใช้อย่างไม่ระมัดระวังแล้วหละก็โอกาสที่ผิวจะระคายเคืองถือว่าสูงมากทีเดียวหละฮะ
The Claim
Eri Eden The Vital Serum (990.-/15ml.) : ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นเซรั่มเข้มข้นเนื้อบางเบาช่วยในการ “ต่อต้านริ้วรอยและอนุมูลอิสระ” กระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว พร้อมยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน และลดเลือนจุดด่างดำ เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนแลดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใสสุขภาพดี พร้อมทั้งผสานเทคโนโลยีนาโนเอนแคปซูเลชัน (Nano-encapsulation) ช่วยในการนำพาและรักษาคุณสมบัติของสารสกัดจากธรรมชาติเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
Texture / Scent / Packaging
Texture : เนื้อสัมผัสค่อนข้างบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว แถมยังไม่รบกวนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช่ร่วมกันอีกด้วย
Scent : เป็นที่ปราบปลื้มใจเมื่อทางแบรนด์ไม่ใส่ส่วนผสมของน้ำหอมเข้ามาในเซรั่มขวดนี้ จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการแพ้/ระคายเคืองจากส่วนผสมอย่าง Fragrance Component ไปได้เยอะเลยแหละครับ
Packaging : ทางแบรนด์ดีไซน์บรรจุภัณฑ์ได้น่าสนใจทั้งทีเดียว ทั้งในบริเวณด้านบนของขวดที่รูมีขนาดเล็ก ร่วมกับปุ่มกดที่ช่วยควมคุมปริมาณผลิตภัณฑ์ได้ดีมากทีเดียวหละ
Active Ingredients
คราวนี้มาถึงการแกะส่วนผสมกันบ้าง แน่นอนว่าส่วนผสมแรกที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นคือ 1% Bakuchiol เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่สกัดมาจากเมล็ดของต้น Babchi สามารถออกฤทธิ์ได้คล้ายคลึงกับ Retinol ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ชะลอการเกิดริ้วรอย และมีงานวิจัยที่รองรับว่าทำให้ผิวเฟิร์มกระชับ ที่สำคัญคือมีจุดเด่นในเรื่องไม่ระคายเคืองผิว แถมยังมีฤทธ์ในการลดการอักเสบ ลดการเกิดสิวได้อีกด้วย นอกจากนี้เมื่อใช้ร่วมกับส่วนผสมอย่าง BHA ในการรักษาสิวช่วยมีผลการทดลองแล้วว่าทำให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ถัดมาคือ Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Root Extract เป็นสารสกัดที่ทำหน้าที่ขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ในการสร้าง melanin จึงเป็นคอมโบที่ซัพพอร์ตซึ่งกันและกันกับอนุพันธ์วิตามินซีอย่าง 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ในการลดผลกระทบจากรังสี UV ที่กระตุ้นการผลิตเม็ดสี ลดการอักเสบในชั้นผิว ลดจุดด่างดำและช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปิดท้ายด้วย Edelweiss ที่มีจุดเด่นในเรื่อง Self-preservation สามารถปรับตัวได้ดีแม้ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้าง extreme จึงช่วยปกป้องและชะลอกระบวนการเสื่อมของเซลล์ผิวที่ได้รับผลกระทบจากความเครียด แสงแดด รังสี ความร้อน และมลภาวะต่างๆ ที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน ทำให้ผิวแข็งแรง ลดอาการแพ้ได้ดีทีเดียวหละขอรับ
Applied
เราได้ทดลองทา Eri Eden The Vital Serum ทั้งตอนเช้าและก่อนนอนอย่างต่อเนื่องมาประมาณ 4 สัปดาห์ ร่วมกับสกินแคร์ที่ใช้ตามปกติ ที่เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างที่เรากำลังมีสิวอักเสบขึ้นเรียงรายรวมถึงมีรอยแดงจากสิว ซึ่งหลังจากได้ลองใช้ก็พบว่า...
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ การอักเสบของสิวดูลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันรอยแดงจากสิวก็ดูจางลงตามลำดับ และในระหว่าง 1 เดือนที่ผ่านมาก็ไม่พบว่ามีสิวอักเสบใหม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แถมผิวโดยรวมก็ดูกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ ไม่มีอาการระคายเคือง ไม่มีอาการแห้งลอกเหมือนช่วงที่ใช้ Tretinoin, Retinol หรือ Retinoic Acid นอกจากนี้เรายังรู้สึกว่าผิวเราอิ่มฟูและดเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวหละฮะ
โดยรวมเราคิดว่า Eri Eden The Vital Serum เป็นเซรั่มในกลุ่ม Anti-Aging และ Anti-inflammation ที่ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจทีเดียว เมื่อพิจารณาจากผลลัพธ์ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า รวมถึงส่วนผสมที่อย่าง Bakuchiol ที่เริ่มมีงานวิจัยออกมารองรับมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าให้ผลลัพธ์ได้เหมือน Vitamin A แต่ไม่มีผลข้างเคียงทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียวหละครับ
สำหรับในแง่ของ Wrinkle & Firming เนื่องจากเราทดลองใช้แค่ 1 เดือนซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินกว่าจะชี้วัดความแตกต่างอย่างชัดเจนได้ แต่เราก็ได้หาข้อมูลการทดลองรวมถึงผลลัพธ์หลังการใช้ Bakuchiol เป็นเวลา 12 สัปดาห์มาไว้ให้พิจารณาเพิ่มเติมตามภาพด้านบนฮะ
และอย่างที่เราพูดเสมอว่าผลลัพธ์ที่เพื่อนๆ ได้เห็นในบทความนี้ Based-on สภาพผิวในปัจจุบัน, การดูแลตัวเอง, Lift Style รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลครับ // ส่วนคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม สิวจะขึ้นหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบให้ได้เนื่องจากสภาพผิวและปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อนทุกครั้งครับ