จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงจากที่เราเคยพูดถึง IPSA ME Ultimate 3 ไปบ้างแล้วใน Favourite 2020 เรายังจำความรู้สึกและความประทับใจได้ดีและแอบมองสกินแคร์ของแบรนด์นี้มาตลอด และทำให้เราอยากรู้จักแบรนด์นี้มากขึ้น ครั้งนี้เราเลยซอยมาลองอีก 5 ไอเทมด้วยความสงสัยใคร่รู้ ซึ่งถ้าใครติดตามเราน่าจะรู้ว่าไม่บ่อยนักที่เราใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ใดเกือบทุก Position ขนาดนี้ เราเองก็ยังแปลกใจตัวเองเหมือนกันฮะ เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับทั้ง 5 ไอเทมนี้พร้อมๆ กันเลยฮะ
โดยไอเทมที่เราเลือกมาลองทั้ง 5 ตัวนี้ล้วนเป็น Basic Skincare ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ทำความสะอาดผิว(Cleansing Oil Ex), เตรียมผิว(Clear Up Lotion Ex), เพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมความแข็งแรงให้ผิว(The Time Reset Aqua & Metabolizer Me Extra #2) รวมไปถึงปกป้องผิวจากแสงแดด(Sun Shield SPF50 PA ) และด้วยความที่เป็นสกินแคร์พื้นฐานดังนั้นใน Skincare Routine เราก็จะเสริมผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อื่นๆ เข้ามาด้วย เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาผิวของเราในขณะนี้ฮะ
Texture(เนื้อสัมผัส)
มาพูดถึง Texture(เนื้อสัมผัส) ของแต่ละไอเทมกันบ้างดีกว่าเริ่มจาก :
- Cleansing Oil EX ออยล์ทำความสะอาดผิวและเมคอัพที่ทางแบรนด์ทำเนื้อสัมผัสออกมาได้ค่อนข้างเบา ความหนืดน้อยและมีการกระจายตัวได้ดี ไม่มีส่วนผสมของของน้ำหอม
- ไอเทมถัดมาจะเป็นขั้นตอนการเตรียมผิวด้วย Clear Up Lotion EX ซึ่งจากที่เรามองด้วยสายตาและดูจากส่วนผสมก็พบว่านี่เป็น Biphase Lotion ที่มีทั้งส่วนของ Water-Based และ Oil-Based ซึ่งแน่นอนว่านอกจากการเช้ดเพื่อปรับสมดุลผิวและเตรียมผิวแล้ว เค้ายังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นบนผิวเพื่อให้การลงผลิตภัณฑ์อื่นๆ มีประสิทธิภาพมาขึ้นด้วยหละ
- มาต่อกันที่ IPSA The Time Reset Aqua โลชั่นตัวโปรดของใครหลายต่อหลายคน ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบาสบายผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แต่เห็นเนื้อบางเบาแบบนี้เอาเข้าจริงๆ สามารถมอบความชุ่มชื้นได้ยาวนานทีเดียวหละฮะ
- ไอเทมถัดมาเป็นตัวที่เราตัดสินใจนานมากว่าจะเลือกเป็นสูตรเก่าอย่าง ME Ultimate 3 ดีไหม แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่ Metabolizer Me Extra #2 ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์มอบความชุ่มชื้นที่เนื้อเข้มข้นมากกว่าทั้ง Lotion และ The Time Reset Aqua แต่ที่น่าสนใจคือทางแบรนด์แนะนำให้ใช้ร่วมกับ Silk Cotton เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ปิดท้ายด้วย Sun Shield SPF50 PA กันแดดตัวดังของแบรนด์ที่นอกจากเนื้อจะมีความบางเบา ซึมไว ไม่ทำให้ผิวขาวลอยแล้ว ยังไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะเอาไว้บนผิวหลังเซทตัว แถมเมื่อเซทตัวแล้วเราแอบรู้สึกว่าผิวโดยรวมดูชุ่มชื้นและสุขภาพดีขึ้นพอสมควรเลยหละครับ
Active Ingredients
เอาหละมาต่อกันที่ Active Ingredients ที่น่าสนใจกันบ้าง ซึ่งต้องบอกว่าทั้ง 5 ไอเทมอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมเยอะแยะยุบยับไปหมด เพราะงั้นเราเลยเลือกแค่บางตัวมาพูดคุยให้ฟังแล้วกันฮะ
- Potassium Methoxysalicylate(4MSK) : เป็น Brightening Agent ที่ได้รับการวิจัยและพัฒนาขึ้นโดย Shiseido ถูกนำมาใช้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Whitening ของแบรนด์ Shiseido และ IPSA โดยทำหน้าที่ขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ทำให้การสร้างเม็ดสีเมลานีนลดลงส่งผลให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นนั่นเองฮะ
- Potassium Ascorbyl Tocopheryl Phosphate : เป็นสารที่ผสมระหว่างวิตามินซีและอีกับฟอสฟอรัส ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- Tranexamic Acid : สารอีกหนึ่งตัวซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้ง melanocyte เพื่อไม่ให้สร้างเม็ดสีเมลานีน
- Licorice : สารสกัดจากรากชะเอมที่ช่วยขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ในการสร้าง melanin รวมถึงช่วยลดการอักเสบในชั้นผิวได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของสารกันแดดที่ค่อนข้างครบเครื่องและครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB จาก Sun Shield SPF50 PA ซึ่งเรียกว่าเป็นส่วนสำคัญในการปกป้องผิวจากแสงแดด รวมถึงลดโอกาสเกิดความหมองคล้ำได้เช่นกันขอรับ / ส่วน Salicylic Acid ใน Metabolizer Me Extra #2 จากที่เราทดสอบค่า pH พบว่าอยู่ที่ประมาณ 6 ซึ่งเรามองว่าประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวค่อนข้างน้อยน่าจะใส่เข้ามาเพื่อช่วยในการเป็น antioxidant มากกว่าครับ
Let's Try...
เริ่มกันที่ไอเทมแรกอย่าง Cleansing Oil EX ที่ถึงแม้ช่วงนี้เราจะไม่ได้แต่งหน้า แต่สกินแคร์และกันแดดที่ใช้อยู่ทุกวันก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการอุดตันในรูขุมขนได้อยู่ดี แต่ถ้าจะให้ล้างบนใบหน้าที่ไม่มีเมคอัพเลยก็คงแปลกๆ เราเลยแอบย่องไปห้องน้องสาวแล้วเอาเมคอัพนางมา Swatch บนแขนจากนั้นลองใช้ออยล์ขวดนี้ทำความสะอาดดู ปรากฏว่าส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรองพื้น, คอนซิลเลอร์, อายไลน์เนอร์และอายแชโดว์หลุดออกไวมาก แต่ Matte Lip Stick ต้องใช้ความพยายามในการถูๆ วนๆ เล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ออกจนหมด แต่ถึงอย่างนั้นในเวลาปกติแล้วเราก็จะล้างหน้าตามด้วย Cleanser อีดรอบอยู่ดีฮะ
ต่อกันที่ 3 Steps หลังล้างทำความสะอาดผิวหน้าและซับหน้าให้แห้งเรียบร้อย เราก็จะใช้ Clear Up
Lotion EX, The Time Reset Aqua และ Metabolizer Me Extra #2 ร่วมกับ Silk Cotton ของทาง IPSA เพื่อเช็ดทั่วใบหน้าพร้อม Tap เบาๆ เพื่อให้โลชั่นซึมเข้าสู่ผิวจนหมด ซึ่งการใช้ในรูปแบบนี้เป็นวิธีที่ทางแบรนด์แนะนำเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ใครจะสะดวกใช้มือในการ Apply เราก็ว่าไม่ผิดนะ แต่อาจจะมีแค่ตัว Clear Up Lotion EX ที่เรายังคิดว่าการใช้ร่วมกับสำลีน่าจะตอบโจทย์กว่าขอรับ
หลังจากที่เราลง 3 Steps แล้วเราจะลง Serum ต่ออีก 1-2 ตัว แล้วปิดท้ายด้วยการใช้ Sun Shield SPF50 PA เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้นบนผิวเอา ซึ่งหลังจากที่เราลงทุกทุกขั้นตอนแล้วก็พบว่าผิวโดยรวมมีความชุ่มชื้นที่กำลังพอดี ไม่เหนอะหนะ ไม่มันจนเกินไป แถมยังให้ผิวที่ดูสุขภาพดีเวลาแสงตกกระทบลงบนผิวก็มีการกระจายแสงที่สม่ำเสมอดีทีเดียวหละ
เอาหละนี่ก็เป็นผลิตภัณฑ์จาก IPSA ทั้งหมดที่เราซื้อมาลอง และหยิบมาแชร์ ก็ต้องบอกว่าเรายังใช้เวลากับทั้ง 5 ไอเทมนี้แค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้นเลยยังไม่สามารถสรุปผลในระยะยาวได้ว่าเป็นอย่างไร แต่ที่พูดได้แน่ๆ คือ ทางแบรนด์ทำเนื้อสัมผัสออกมาได้ดีมากทีเดียวหละครับ ที่สำคัญคือยังมีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิวอีกด้วยซึ่งเรามองว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งของ IPSA เลยหละครับ
ส่วนคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม สิวจะขึ้นหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบให้ได้เนื่องจากสภาพผิวและปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อนทุกครั้งครับ