จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงบิ๋มขอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับส่วนผสมก่อนนะคะ อย่างแรกคือสกินแคร์ของทางแบรนด์ไม่มีส่วนผสมของน้ำเปล่าเลย! เป็น Waterless formula ทำให้สูตรนี้มีสารสกัดธรรมชาติที่เข้มข้นแบบไม่เจือจาง ส่วนสารสกัดหลักอย่างที่พูดไปก็คือดอกคามิลเลีย นางเป็นดอกไม้ที่ทรงคุณค่าและมีประโยชน์มากๆเมื่อนำมาใช้ในสกินแคร์
นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงแล้ว นางยังช่วยในการสริมสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น นุ่ม เรียบเนียนและสามารถช่วยเรื่องการต่อต้านริ้วรอยและการเสื่อมสภาพของผิวจากมลภาวะ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ Anti inflammatory ที่สำคัญดอกไม้ชนิดนี้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้อย่างดีมากๆ เพราะมีปริมาณ Fatty acids สูง ทำให้เป็นเหมือน Natural moisturizer แถมยังเก็บล๊อกความชุ่มชื้นนี้ไว้ในผิวได้ยาวขึ้นอีกด้วยค่ะ ฟังดูรวมๆก็รู้สึกว่าเหมาะมากๆกับคนสนใจเรื่องการฉะลอวัย Anti aging และพิเศษมากๆ เลยคือทางแบรนด์ใส่สารสกัดดอกคามิลเลียมาเข้มข้นมากๆ ตัวเซรั่มมีสารสกัดถึง 59% ส่วนตัวครีมมีถึง 69% โหห เยอะมากๆเลยค่ะ Package ก็จะมาในโทนสีม่วงแดง ให้ความรู้สึกผู้ใหญ่ ดูไฮ วัสดุขวดแข็งแรง ดูดี ดูมีราคามากๆเลยค่ะ
มาดูโปรดักส์ชิ้นแรกกันนะคะ ตัวนี้เป็นเซรั่ม Wild Camellia Serum ขอบอกว่าตัวนี้เลิศมากคะทุกคน! น่าตาอาจแปลกไปจากเซรั่มทั่วๆไป ขนาดใหญ่จุใจไปเลยที่ 100ml ตัวนี้เค้าเป็นเซรั่มแบบฉีดลงบนผิวได้เลย เป็น Mist serum ค่ะ เจ๋งมากๆ นอกจากจะแปลกใหม่แล้วยังใช้งานสะดวกมากๆ อีกด้วย ไม่ต้องกดเซรั่มลงไปถูที่มือแล้วทาผิว แต่สามารถฉีดใส่หน้าได้เลย ง่ายเนอะ เอาไปใช้ที่ไหนก็สะดวก
ส่วนผสมของตัวนี้ทำน่าประทับใจมากค่ะ เพราะนอกจากสารสกัดจากดอกคามีเลียบรสิทุธิ์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว อีกตัวที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระคือผักเบี้ยใหญ่ ตัวนี้ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและลดการระคายของผิว นอกจากนี้ยังมีดอกคาโมมายลที่ลดกาดเกิดขึ้นของแบคทีเรียและปลอบประโลมผิวได้ดี และใบบัวบกซึ่งช่วยลดการอักเสบและลดริ้วรอย เหมาะกับคนที่แพ้ง่าย มีผิวที่ระคายเคือง เพราะจะช่วยลดอาการต่างๆให้ดีขึ้นได้ค่ะ
จากที่ได้ลองใช้ตัวนี้ เป็นเซรั่มที่มีน้ำหนักเบา ละอองคือเล็กจริงๆ ค่ะทุกคน เพราะตอนฉีดปุ๊ปก็รู้สึกว่าเนื้อเซรั่มที่สัมผัสบนหน้ามันเบาและบาง ด้วย Molecules อนุภาคที่เล็กมาก ทำให้ซึมเข้าผิวไว หลังฉีด รู้สึกว่าหน้ามีความ Velvet ไม่ถึงกับมัน บิ๋มรู้สึกว่ามันปลอบประโลมผิวได้ดีและทำให้ผิวรู้สึกนิ่ม ฉีดบนผิวแล้วรู้สึกสดชื่น ไม่มีความระคายเคือง ไม่แสบ ส่วนกลิ่นของตัวนี้เป็นกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ มีความเรียบหรู กลิ่นแพง ไม่ฉุนจมูก ตัวนี้บิ๋มใช้ทั้งเช้าและเย็นเลยค่ะ ไม่เหนี่ยวเหนอะหนะหน้าด้วย
ภาพด้านล่างคือเนื้อของเซรั่มที่บิ๋มฉีดลงบนมือนะคะ เนื้อจะเป็นน้ำใสๆ คล้ายน้ำเปล่าค่ะ
วิธีการใช้คือหลังคลีนหน้าเสร็จ พร้อมที่จะลงขั้นตอนสกินแคร์ ฉีดให้ทั่วหน้าจากนั้นใช้มือแตะๆไปบนหน้าเพื่อช่วยให้เซรั่มซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น บางครั้งบิ๋มปล่อยให้แห้งไปเองเลยค่ะ เพราะเนื้อเซรั่มบางแถบจะไม่ต้องใช้มือช่วย บิ๋มฉีดครั้งละ 5-10 ครั้งค่ะ
แต่เดี๋ยวน้า ความเลิศของตัวนี้ยังไม่จบนะคะเพราะบิ๋มใช้เซรั่มตัวนี้เป็น Multi purpose
คือใช้ได้ทั้งหมด 3 แบบ ตามนี้เลยค่า:
แบบที่ 1 ใช้เป็นเซรั่มเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น
แบบที่ 2 ฉีดเป็นสเปร์ย เพิ่มความชุ่มชื้นระหว่างวัน
แบบที่ 3 ใช้ฉีดทับเมคอัพเป็น Setting spray ให้ความโกลวๆ แบบผิวสาวเกาหลี
ใช้ได้แบบ 3 in 1 เลยจ้า ขวดเดียวทำได้หลายอย่าง คุ้มสุดๆ ตัวนี้เลยเป็นตัวที่บิ๋มประทับใจค่ะ
บิ๋มมีรูปภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังฉีดสเปร์ยหลังแต่งหน้าเป็น Setting spray ค่ะ ลองดูความโกลวหลังฉีดนะคะ หน้าไม่วาวเกินไป กำลังพอดีเลยค่ะ
โปรดักส์ตัวที่สองคือครีม Wild Camellia Cream ตัวนี้ใช้หลังจากฉีดเซรั่มเลยนะคะ ส่วนผสมจะมีโชวู สนเกาหลี ว่านหางจระเข้ รากหม่อน ชะเอม ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดการอักเสบ ระคายเคืองและฟื้นฟูผิว พอเปิดฝาออกมาก็จะเจอเนื้อครีมที่เหมือนเจล เนื้อจะเป็นสีใสๆ มีความเหลวและลื่น น้ำหนักเบา เกลื่ยไปบนผิวง่ายมากๆ พอทาบนหน้าแล้วจะรู้สึกเย็นๆ ตัวนี้ทำให้ผิวรุ้สึกดีมากๆ ค่ะ เค้าจะเน้นให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว ตัวนี้ก็กลิ่นดีมากกกกเหมือนกัน นางมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยด้วยนะคะ อยากโบกไปเลยเยอะๆ แล้วนอน หน้าฟีลดีจริงๆ ขนาดของครีมอยู่ที่ 30ml เสียดายตรงที่รู้สึกว่าได้ตัวเจลมาน้อย เลยใช้แบบครั้งละนิดเดียว กลัวหมดไว อิอิ
มาถึงส่วนของเรื่องผลลัพธ์ค่า เอาความรู้สึกรวมๆ จากการใช้ตั้งช่วงต้นเดือนเมษา (ตอนที่เขียนรีวิวคือท้ายๆเดือน) รู้สึกว่าตัวนี้ยืนหนึ่งเรื่องความอ่อนโยน บิ๋มไม่เกิดอาการแพ้เลย ไม่เป็นผื่นแดงหรือคัน ชอบที่ทั้งสองตัวทำงานคู่กันช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมากๆ ผิวรู้สึกผ่อนคลาย หน้าชุ่มชื้นขึ้น
คิดว่าเหมาะกับทุกเพศเลยค่ะ กลิ่นไม่ได้ผู้หญิงจนกินไปด้วย ผู้ชายก็นำมาใช้ได้
ช่วงนี้เป็นช่วงที่บิ๋มนอนดึกมากๆ ตี 2-3 ก็มี พอเราสังเกตผิวหลังใช้ติดต่อกันก็เห็นว่าหน้าไม่หมองแต่โดยรวมดูใสธรรมชาติ แต่ไม่ได้เห็นผลแตกต่างแบบว้าวเพราะเค้าเป็นสารสกัดธรรมชาติ มันจะไม่ได้ออกผลเร็วทันทีแต่มันจะค่อยๆปรับให้หน้าดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่เห็นคือหน้าไม่โทรมเลย ทั้งที่เราก็พักผ่อนไม่พอ
บิ๋มมีรุปแบบไม่แต่งหน้ามาให้ดูเต็มๆ หลังใช้ SP9 มาให้ดูค่ะ
อีกอย่างคือตัวนี้ผลิตและนำเข้าจากเกาหลีใต้ มาตรฐานในการทำสกินแคร์น่าเชื่อถือและคุณภาพดีมากอยู่แล้ว ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่ดู Local มากขึ้นคือภายนอกเช่นพวก branding packaging แต่คุณภาพตามมาตรฐานเกาหลี บิ๋มติดใจตัว Mist serum ที่สุดเลยค่ะ อันนี้เป็นเซรั่มแบบฉีดตัวแรกที่บิ๋มได้ลอง รู้สึกมันตอบโจทย์เราเพราะบิ๋มชอบใช้พวกโปรดักส์ Face mist อยุ่แล้ว พอมาเจอตัวนี้ก็ยิ่งชอบเพราะทั้งบำรุงและให้ความชุ่มชื้นตอนฉีด บิ๋มชอบที่ละอองเค้าละเอียด สัมผัสที่นุ่มบนหน้า และความใช้ได้หลายอย่างในขวดเดียว มันคุ้มดีค่ะ บิ๋มเป็นคนชอบอะไรที่ทำมาจากธรรมชาติ ตัวนี้เป็นออรแกนิคและไม่มีสารตกค้างด้วย อีกเรื่องคือความเข้มข้นของส่วนผสมที่ให้มาเต็มๆ ไม่มีน้ำผสมลงไปเลย!
วันนี้ขอจบรีวิวเท่านี้น้า อยากแนะนำให้เพื่อนๆลองดูแบรนด์นี้จริงๆค่ะ เป็นโปรดักส์ที่มีคุณภาพมากๆ เป็นแบรนด์ไทยด้วยนะคะ มา support แบรนด์ไทยที่มีสินค้าดีๆแบบนี้กันดีกว่า บิ๋มเห็นผลที่ดีแล้วอยากแนะนำกับเพื่อนๆมากๆ
ใครอ่านรีวิวแล้วคิดว่าเหมาะกับตัวเองลองไปหากันในช่องทางต่างๆของ SP9 ได้เลยนะคะ ขอบคุณที่มาอ่านรีวิวค่า เจอกันในรีวิวหน้านะ บายๆ