จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงหน้ามัน เป็นสิว ผิวขาดน้ำ แก้ไขอย่างไร?
สาวๆ คนไหนมีปัญหาผิวหน้าแบบกิ๊ฟบ้างคะ? กิ๊ฟเองเป็นคนมีปัญหาผิวขาดน้ำ แล้วทำให้หน้ามัน แล้วก็ส่งผลให้มีสิวขึ้นมาเรื่อยๆ ตลอดเลยค่ะ โดยเฉพาะสิวเสี้ยนเยอะมาก รูขุมขนก็กว้าง ขาดความมั่นใจสุดๆ เห้อ!! กิ๊ฟก็สารพัดจะสรรหาสกินแคร์มาเป็นตัวช่วยแก้ไขปัญหาผิวตรงนี้.. ก็เจอใช้ดีบ้าง เห็นผลบ้าง ไม่เห็นผลบ้าง.. ตัวไหนดีก็เอามารีวิวบอกต่อกันค่ะ
และเดือนที่ผ่านมากิ๊ฟมีโอกาสได้ทดลองใช้ The Scientist Multifunction Day & Night Cream เต็มๆ 1 เดือน ซึ่งตัวนี้ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่าเขาเป็นครีมของนักวิจัยผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ต่างๆ มากมาย กว่า 10 ปี แต่คราวนี้เขามาทำครีมเองภายใต้คอนเซ็ป เคมีน้อยๆ สารสกัดมากๆ ( Less chemical More Natural) และสารสกัดเป็นงานวิจัยของไทยนี่เอง เป็นงานวิจัยทุน IRTC 2563 ได้แก่ สารสกัดว่านตาลเดี่ยว ออกฤทธิ์เป็น Anti-oxidant ป้องกันการเกิดริ้วรอย สารสกัดขมิ้นขาว ออกฤทธิ์เป็น Whitening และสารสกัดดอกกระดาษ ที่ปลูกโดยชาวเขา หมู่บ้านภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก ซึ่งผลเทสตัวนี้ พบว่าให้ฤทธิ์ที่ดีมากกว่าตัวอื่นๆ โดยเป็นทั้ง Anti-oxidant และ Whitening นอกจากนั้นยังมีสารสกัดนำเข้า กลุ่มเปปไทด์ เพื่อเติมเต็มร่องลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวดูอิ่มฟู และ Natural Vitamin E (ไม่ใช้ตัวอนุพันธ์) เพื่อลดรอย จุดด่างดำ ให้ได้ผลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วยค่ะ เนื้อครีมใช้กระบวนการผสมแบบไม่ใช้ความร้อนนะคะ เพื่อคงคุณค่าของสารสกัด สี และกลิ่น ที่ได้มาจากธรรมชาติของสารสกัดไว้ เป็น Eco process เป็นมิตรต่อโลก และเนื้อครีมผ่านการดีไซน์ให้ มีความ Enriched ทิ้งความชุ่มชื่นไว้ แต่ไม่เหนอะหนะ สัมผัสได้ถึงความนุ่มทันทีที่ใช้เลยค่ะ ที่สำคัญครีมเขาไม่มีพาราเบน และไม่มีน้ำหอมด้วยค่ะ
ในส่วนของแพ็คเกจจิ้ง จะดูแปลกตาหน่อยๆ อาจเป็นเพราะฉลาก เขาเลือกใช้ฟร้อนที่เหมือนลายมือ ให้ฟิลลิ่งเหมือนครีมเพิ่งออกมาจากห้องแลป ส่วนตัวกิ๊ฟชอบตัวกล่องที่เขาเลือกใช้เทคนิคเคลือบพิเศษแบบกำมะหยี่ เพื่อให้สัมผัสที่นุ่ม ฟิลลิ่งแบบเป็น first impression ตอนสัมผัส สื่อถึงความนุ่มนวลของเนื้อครีมด้านในด้วยค่ะ (ชอบความละเอียดอ่อนตรงนี้จุง) ส่วนกระปุกครีมเขาเลือกใช้กระปุกแก้วนะคะ ไม่ใช้กระปุกพลาสติกเหมือนแบรนด์ทั่วไป เพราะเนื้อครีมที่ถูกบรรจุอยู่ในกระปุกแก้วเนี่ย จะเป็นการป้องกันการ Oxidation ทำให้คงคุณค่าของเนื้อครีม และสารสกัดไว้ให้ได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ ถือว่าแบรนด์ตีโจทย์ผลิตภัณฑ์ได้ดี นำเสนอได้ดีพอสมควรเลยค่ะ
เนื้อครีมของเขามีสีเหลืองอ่อนๆ เหมือนนมผึ้งเลยค่ะ มีกลิ่นหอมของสารสกัดธรรมชาติ เนื้อบางเบาซึมเร็ว ทาแล้วรู้สึกชุ่มชื้นทันทีที่ทา แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะนะคะ ส่วนตัวชอบเนื้อครีมประมาณนี้มากค่ะ
ตอนนี้กิ๊ฟก็ลองใช้ครบ 1 เดือนแล้วนะคะ ก็เก็บภาพก่อน-หลัง มาให้ชมกันค่ะ ก่อนใช้จะเห็นได้ว่าผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนช่วง T-zone ค่อนข้างกว้าง หน้ามันและมีสิวเสี้ยนบริเวณจมูกนะคะ หลังใช้ครบ 1 เดือน ก็รู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองกระจ่างใสขึ้น รูขุมขนเล็กลง โดยเฉพาะช่วงแก้ม หน้ามันน้อยลง ผิวชุ่มชื้นขึ้น สิวเสี้ยนบริเวณจมูกก็ลดลงค่ะ กิ๊ฟว่าระยะการเห็นผลก็อยู่ที่ผิวหน้าของแต่ละคนด้วยค่ะ แบรนด์นี้การเห็นผลอาจไม่หวือหวา ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่กิ๊ฟว่าหากใช้ต่อเนื่องยาวๆ ก็ได้ผิวสุขภาพดีแน่นอนค่า
และสำหรับใครที่กำลังมีปัญหาผิวหน้าแบบกิ๊ฟอยู่ ก็อยากแนะนำให้ลองหาใช้กันนะคะ ครีมดีๆ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ หากสนใจสั่งซื้อหรือติดตามผลิตภัณฑ์ The Scientist สามารถติดตามผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้ตามด้านล่างนี้
Facebook : The Scientist-Cosmeceuticals
Instagram : thescientist_cosmeceuticals
Line@ : @sci99
Website : www.thescientistthailand.com