จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
หลายคนคงเคยรู้จักชื่อของ BHA กันมาบ้าง อย่างที่เรามักจะเห็นเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ทั้งโทนเนอร์ เซรั่ม และมอยส์เจอไรเซอร์ แต่รู้ไหมว่า BHA ช่วยเรื่องอะไร ทำไมใคร ๆ ถึงชอบใช้เพื่อดูแลผิวหน้า
BHA คืออะไร?
BHA (Beta Hydroxy Acid) เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากธรรมชาติ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ทนต่อความร้อน ไม่เสื่อมง่าย
ความจริง BHA ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นสารที่ใช้ในวงการแพทย์ผิวหนังมานานแล้ว โดยใช้รักษา โรคผิวหนังชนิดอักเสบเรื้อรัง เพราะมีคุณสมบัติทำให้ผิวหนังชั้นนอกผลัดตัวเร็วขึ้น แต่อาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง ลอกเป็นขุย แสบและคันได้ง่าย จึงต้องใช้ความเข้มข้นค่อนข้างต่ำ เช่น 0.5-2% สำหรับการทาผิว และห้ามทาบริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก ในจมูก หรือบริเวณที่ผิวบอบบางอย่างจุดซ่อนเร้น
BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ละลายได้ดีในน้ำมัน จึงสามารถแทรกซึมไปละลายเซลล์ที่ตายแล้ว ที่อุดตันรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รูขุมขนสะอาด ไร้สิ่งสกปรกตกค้าง นอกจากนั้น Salicylic Acid ยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบ ช่วยสลายสิวอุดตัน คนที่มีปัญหาสิวหรือผิวมัน BHA จึงเป็นตัวช่วยกู้ผิวพังได้ดีเลยทีเดียว
แพ็กเกจน่ารัก สไตล์มินิมอล
ตัวเซรั่มมีถึง 9 สารสกัดสรรพคุณที่ช่วยดูแลผิว
- Salicylic Acid : หรือ BHA ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิว ละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน เป็นชนิดที่ผ่านกระบวนการพิเศษเพื่อเพิ่มความสามารถในการละลายของผลิตภัณฑ์ และลดอัตราการดูดซึมเข้าสู่ผิวเป็นผลให้ ระคายเคืองน้อยกว่า Salicylic Acid ชนิดธรรมดา ออกฤทธิ์ต่อผิวได้อย่างเฉพาะเจาะจงและในระยะยาวมากกว่า
- Glycerin : ช่วยดูดซับและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ผิวได้ ช่วยให้ผิวที่แห้ง เนียนนุ่ม และมีความยืดหยุ่นขึ้น ป้องกันผิวจากการระคายเคืองของมลภาวะ
- Hyaluronic Acid : ไฮยาลูรอน 3 โมเลกุลและไฮยาลูรอนชนิดประจุบวก ต่างจากไฮยาลูรอนทั่วไปตรงที่มีโมเลกุลขนาดเล็กสุด สามารถซึมลึกได้ถึงผิวหนังชั้นในสุด จึงสามารถบำรุงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวเนียนนุ่ม อิ่มน้ำ และประจุบวกยังช่วยสร้างฟิล์มบนผิวเพื่อกักเก็บน้ำในผิว
- Vitamin B3 : หรือ Niacinamide ช่วยลดรอยดำและรอยแดง ลดความมัน เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ และยังทำให้ผิวแข็งแรงต่อสู้กับการระคายเคืองต่างๆ ได้ดี
- Zinc PCA : ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า ลดความมัน ลดอาการอักเสบ รวมถึงช่วยลดปริมาณแบคทีเรีย P.acnes
- Centella Extract : สารสกัดใบบัวบก ช่วยรักษาสมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว ป้องกันการเกิดแผลเป็น มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราและลดอาการอักเสบ ลดอาการบวมช้ำ กระตุ้นการสร้างคอลลเจนและอิลาสตินในชั้นผิว สร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและตึงกระชับ
- Aloe Vera Extract : ว่านหางจระเข้ ให้ความชุ่มชื้น ช่วยปรับสภาพผิวลดอาการแพ้ระคายเคืองโดยเฉพาะผิวที่ไหม้จากการออกแดด ปกป้องผิวจากรังสี UV สมานแผลต่างๆ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดการอักเสบและระคายเคืองของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Mangosteen Extract : สารสกัดเปลือกมังคุด มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ จึงสามารถป้องกันและช่วยให้สิวยุบเร็วได้โดยเฉพาะสิวอักเสบหรือสิวหัวหนอง และยังช่วยลดจุดด่างดำที่เกิดจากสิวได้ดีอีกด้วย
- Allantoin : ช่วยปลอบประโลมผิว ฟื้นฟูผิว ลดการระคายเคือง ต่อต้านการแพ้ต่างๆ ของผิว และกระตุ้นการผลิตเนื้อเยื่อผิวใหม่
ความรู้สึกหลังได้ลองใช้มาสักพัก ตัวเซรั่มเนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี หน้าชุ่มชื้น ไม่ทำให้หน้ามัน ไม่เหนะหนะผิว ส่วนตัวแฟมเป็นคนที่มีสิวเม็ดเล็กๆ ตัวนี้จะช่วยให้สิวแห้งและแข็งเป็นเม็ดกดออกง่ายมากๆ สิวอักเสบก็ยุบเร็วค่ะ
ส่วนเรื่องลดรอยดำ/รอยแดง ส่วนตัวใช้มาระยะสั้นยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ คิดว่าต้องดูผลการใช้ในระยะยาวต่อไปค่ะ
และที่ชอบสุดๆคือ ปราศจากสารเคมี 6 ชนิดที่ทำร้ายผิว ได้แก่ ซิลิโคน พาราเบน น้ำหอม แอลกอฮอล์ SLS และ Mineral oil ดังนั้น ผิวแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอน!
มาดูเปรียบเทียบฝั่งที่ทาเซรั่ม ผิวจะดูอิ่มน้ำชุ่มชื้นกว่าฝั่งที่ไม่ได้ทา แต่ก็ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะหน้าอย่างที่ได้บอกไปค่ะ
สุดท้ายแล้วปัญหาสิวจะหมดไปก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกัน ไว้แฟมมีผลิตภัณฑ์ใช้แล้วชอบเห็นผลดีจะมาแนะนำบอกต่อกันอีกนะคะ see yaaaaa ❤️