2021 กำลังจะไปสู่ 2022
แต่ผิวหน้ายังวนลูปกับปัญหา ”สิว” เหมือนเดิม
เพราะนอกจากปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดสิวแล้ว ก็ยังมีปัจจัยภายนอกอย่างฝุ่นมลภาวะ
PM 2.5 และการสวมใส่แมสก์เพื่อป้องกันโควิด 19 ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายๆคนในยุคนี้ “มีปัญหาเรื่องสิว ” ด้วยเช่นกัน
มิชชั่นในปี 2022 สำหรับผิวแจนคือ ไม่มีสิว และอยากมีผิวที่แข็งแรง :)
วันนี้เลยมีขั้นตอนการดูแลผิว รักษาสิวจาก The Labatorian แบรนด์ของพี่โดนัท บล๊อกเกอร์เภสัชกรที่ให้ความรู้ที่หลายๆคนรู้จักกันดี :) โดยแบรนด์มีผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อคนที่มีปัญหาเรื่องสิวโดยเฉพาะ เพราะแต่ละคนมีปัญหาสิวที่แตกต่างกันไป จึงได้มีการคิดค้นและปรับสูตรให้สามารถแก้ปัญหาสิวในระยะยาวได้อย่างครอบคลุมทุกปัญหา . .
ซึ่งพอได้รู้จักกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์มาพอสมควร อ่านรีวิวมาก็เยอะ แต่ไม่รู้จะจัดเรียงขั้นตอนไหน หรือสกินแคร์ตัวไหนที่แก้ปัญหาสิวได้ตรงจุด ใครที่ยังมีคำถามเหล่านี้ทาง The Labatorian ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่มีเภสัชกรดูแล ให้คำปรึกษา และช่วยจัดรูทีนสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิว >< และที่สำคัญคือฟรี!!! ลุยค่ะ แอดไปที่ @labatorian ได้เลย ~
สำหรับแจนได้คำตอบแล้วว่า
สิวเม็ดเล็กเม็ดน้อย สิวผดสิวผื่นที่กระหน่ำมาในช่วงนี้
ควรใช้เป็น
Agness The All-Rounded Solution
: คุณสมบัติ :
สารสำคัญทั้ง 7 ชนิดนี้ โดยรวมแล้วจะช่วยลดปัญหาสิวที่มีอยู่ ให้อาการอักเสบลดลง ทำให้สิวสงบและแห้งลง ช่วยทำให้รู้สึกผิวมันน้อยลง จึงลดโอกาสการอุดตัน อีกทั้งยังช่วยสร้าง Skin Barrier หรือปราการผิวให้ อิ่มเต็ม ผิวจึงผิวแข็งแรงขึ้น มีสมดุลมากขึ้นสารสกัดสำคัญอยู่ในเบสน้ำบางเบาและมีความหนืดเล็กๆจาก Hyaluron 4 ขนาดโมเลกุล ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในหลายเลเวลผิว ทำให้ผิวดีขึ้น คงความชุ่มชื้นสบายผิว
: ส่วนประกอบสำคัญ :
Oleanolic Acid ปรับสมดุลให้ผิว ควบคุมความมัน
Silver Oxide ลดปัญหาสิวอักเสบ
Ection ปลอบประโลมผิวให้สงบ
Salix Alba Bark Extract ลดการอุดตัน
4 MW Hyaluron เติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก และยาวนาน
Ceramide 1,3,611, Cholesterol Phytosphingosine ฟื้นฟูและเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง
Tranexamic Acid ลดรอยสิว
Reference : The Labatorian
: เนื้อสัมผัส :
เนื้อเซรั่มไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ใช้แล้วผิวชุ่มชื้นดีงามมากกก
สามารถทาได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอนเลย
: ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังใช้ :
สภาพผิวช่วงนี้มีสิวและผดผื่นเม็ดเล็กๆทั่วบริเวณหน้าผากลามไปถึงบริเวณไรผม ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักเกิดจากการกลับมาของ PM2.5 แน่นอน TT และหลังจากทักไปหาแอดมินเพื่อขอคำปรึกษาก็เริ่มใช้ Agness All-Rounded Acne Solution และจัดรูทีนตามคำแนะนำ ซึ่งขอบอกว่าประทับใจขั้นตอนการให้คำปรึกษามากกก >< เพราะแอดมินพร้อมให้บริการโดยตอบคำถามได้รวดเร็วและชัดเจน กระทู้นี้แจนเลยเอารีวิวผลลัพธ์หลังใช้เจ้าเซรั่มขวดนี้มาฝากค่ะ โดยรวมคือสิวผดหายวับบบ ผิวเรียบเนียน ดูมีความสมดุล และชุ่มชื้น แจนว่าผิวแข็งแรงขึ้นนะ และข้อดีของAgness คือสามารถใช้ทาทั่วหน้าเช้าเย็นทุกวันเลย แม้จะเป็นช่วงที่ไม่เป็นสิวก็ใช้ได้เพราะจะช่วยบำรุงผิว เสริม skin barrier ให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว และลดปัจจัยการเกิดสิวใหม่ได้ด้วย ถือว่าเป็นสกินแคร์ที่ยืนพื้นในรูทีนได้เลย ที่เลิฟมากๆก็คือแพ็คเกจจิ้งงดงาม มีความมินิมอล หัวปั๊มเสถียร ขวดแข็งแรง แจนใช้หมดไปขวดนึงแล้วไม่อยากทิ้งขวดเลยยย เพราะน้องเขาวางเฉยๆยังเป็นพร๊อพที่สวยงาม ;))))