จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงHappy New Year ปี 2022 นะครับเพื่อนๆ เรารู้สึกว่าปี 2021 เป็นปีที่เวลาผ่านไปไวมากและเป็นอีกหนึ่งปีที่เราได้ลองเล่น Skincare ใหม่ๆ (เออ..ใหม่สำหรับเราแต่อาจเก่าสำหรับเพื่อนๆ ไปแล้วอะนะ) มากมาย เพราะงั้นตามธรรมเนียมเราจะมาแชร์ ไอเทมที่ใช้แล้วชอบในปี 2021 หรือ Favourite Skincare 2021 ให้ชมกันฮะ
Fav. Skincare of 2021 (Part 1&2)
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าเราเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skincare) แต่ก็ไม่ได้มีความรู้เฉพาะทางใดๆ ดังนั้นบทความนี้จะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราที่ Based-on ผลลัพธ์จากการทดลองใช้บนผิวของเราเท่านั้นขอรับ
Cleanser
เริ่มต้นด้วยไอเทมแรกอย่าง Cleanser ซึ่งในปีนี้แบรนด์ที่เราใช้แล้วปราบปลื้มที่สุดมีด้วยกัน 2 แบรนด์นั่นคือ CeraVe และ tHermoCEUTICAL ซึ่งน้องสองคนนี้มีความน่าสนใจที่แตกต่างกันคือ
CeraVe Hydrating Cream to Foam ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าที่ทางแบรนด์เคลมในเรื่องการล้างคราบกันแดดและเครื่องสำอางค์ได้ในตัว ด้วยความที่ปกติแล้วเราไม่ค่อยได้แต่งหน้าแต่กันแดดนั้นทาทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้นคลีนเซอร์ตัวนี้จึงเป็นไอเทมพลิกเกมส์ที่ทำให้เราประหยัดเวลาในการทำความสะอาดเพราะไม่ต้องพึ่ง Makeup Remover อีกต่อไป แถมยังทำความสะอาดได้อ่อนโยน ไม่แห้งตึงหลังล้าง และสามารถก่อฟองได้ปานกลางเมื่อใช้ร่วมกับตาข่ายตีฟอง
tHermoCEUTICAL DeAC Aciderm Foamgel เราเพิ่งหยิบน้องคนนี้มาใช้ในช่วงเป็นสิวหนักๆ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา แล้วพบว่าเป็นคลีนเซอร์ที่ทำความสะอาดได้ดีมาก หลังล้างรู้สึกถึงความสดชื่น และความมันบนผิวที่ลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้โอกาสเกิดสิวก็ลดน้อยตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันผิวก็ไม่แห้งตึงจนเกินไป ทำให้โฟมหลอดนี้มาวินในเรื่อง Cleanser สำหรับช่วงเป็นสิวแบบไม่ต้องคิดเลย
Exfoliation
ต่อกันที่ไอเทมผลัดเซลล์ผิวปีนี้เรายกให้ Peter Thomas Roth Peptide21 Amino Acid Exfoliating Peel Pads เป็นที่ 1 ในใจเพราะอยู่ในรูปแบบ Pads ที่ใช้ง่าย และที่สำคัญคือมีส่วนผสมในกลุ่มสารผลัดเซลล์ผิวที่ค่อนข้างครบ แถมยังมีสารในกลุ่ม Peptide, Vitamin และชาเขียว ที่ช่วยเสริมในเรื่องความกระจ่างใส สีผิวรอยสิว ช่วยปลอบประโลมผิว และแน่นอนว่าปีนี้ที่สิวอุดตันลดลงไปเยอะก็ต้องยกความดีความชอบให้น้องคนนี้เลยหละฮะ
Lotion/Toner
สำหรับไอเทมในกลุ่ม Lotion/Toner ที่เราใช้แล้วชอบที่สุดในปี 2021 เพื่อนๆ น่าจะเดาใจเราได้ไม่ยาก เพราะคงเห็นเราสลับใช้อยู่บ่อยครั้งนั่นคือ
LA MER The Treatment Lotionไอเทมเปิดใจจากลาแมร์ที่เราทนการป้ายยาไม่ไหวจนไปตำมาในที่สุด เนื้อสัมผัสของโลชั่นขวดนี้นั้นจะมีความเข้มข้นและความหนืดอยู่พอสมควร แน่นอนว่าในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื่นทำได้ดีอย่างไม่มีข้อกังขา แต่สิ่งที่เราชอบมากกว่านั่นคือการได้ลอง Miracle Broth เอกสิทธิ์เฉพาะของ LA MER ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปจึงไม่แปลกที่จะติด Fav. ประจำปี 2021 ของเรา
IPSA The Time Reset Aqua เป็นโลชั่นอีกแบรนด์ที่เราแอบตำและลองใช้เงียบๆ มาซักพักใหญ่ๆ ก่อนโพสต์รีวิวและชอบจนถึงขนาดที่ต้องมี Stock ติดบ้านไว้ตลอดด้วยความที่เนื้อสัมผัมเป็นโลชั่นแบบน้ำที่ค่อนข้างเหลว ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีส่วนผสมที่ช่วยเรื่องการเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ในผิว ถึงแม้จะมอบความชุ่มชื้นได้ไม่เท่า LA MER แต่ก็ถูกทดแทนด้วยBrightening Agent อย่าง Tranexamic Acid ที่ช่วยลดความหมองคล้ำ ปรับผิวให้กระจ่างใสเข้ามาแทน และที่สำคัญคือราคาสบายกระเป๋ากว่ามากฮะ
Serum
เนื่องจากในความคิดของเราแล้ว Skincare ในกลุ่มของ Serum มีความเข้มข้นของปริมาณ Active Ingredients ที่มากว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอื่น ดังนั้นเราจะค่อนข้างให้ความสำคัญกับกลุ่มเซรั่มค่อนข้างเยอะ และมีหลากหลายไอเทมเพื่อเลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาผิวและความต้องการของผิวในเวลานั้นๆ
Anti-pollution & Skin Barrier Serum จริงๆ แล้วถ้าติดตามเรามาจะเห็นว่าเราใช้ dermArtlogy เป็น Skin Barrier Serum มาตลอดแต่ในช่วงท้ายปีทาง Delphini ได้ส่งผลิตภัณฑ์มาให้เราลองใช้ ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวเราสรวนมาก ทั้งเรื่องสิวอักเสบ ผื่นแพ้ ผิวแห้งกร้าน ซึ่งเราพบว่า Delphini Intense Serum ขวดนี้ช่วงให้อาการเหล่านั้นบรรเทาลงไปได้ค่อนข้างไว ด้วยความที่ส่วนผสมมีความหลากหลาย-ครอบคลุมเรื่องการปกป้องและฟื้นฟูปราการผิวได้จริงและที่สำคัญคือทำราคาดีกว่า dermArtlogy พอสมควรเพราะงั้นปีนี้เราเลยยกให้ Delphini Intense Serum เป็น Fav. ในหมวด Skin Barrier Serum ไปฮะ
Antioxidant Serum หมวดนี้เชื่อว่าเพื่อนๆ ที่ติดตามเราอยู่คงไม่ต้องเดา เพราะไอเทมที่เห็นเราหยิบมาใช้บ่อยมาๆ ในปีที่ผ่านมาก็คงไม่พ้น 2 ไอเทมนี้จากแบรนด์ mesoestetic และ SKIN ACTIVE โดยเราจะขอเริ่มที่
mesoestetic aox ferulic วิตามินซีเซรั่มฟอร์ม Ascorbic Acid เข้มข้นถึง 15% เด่นเรื่องต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผสมผสานกับ Stabilizer อย่าง Vitamin E & Ferulic acid เพื่อเพิ่มความเสถียรและช่วยรีไซเคิลไวตามินซีที่ Oxidized ไปแล้วให้กลับมาใช้ได้ใหม่อีกครั้ง แถมยังมี Protech-cell Complex ซึ่งเป็น Combination ของสาร antioxidant ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด, แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์(HEV) รวมถึงรังสีอินฟาเรด(IR) ได้อีก
SKIN ACTIVE Antioxidant Serum ที่ครบเครื่องในเรื่องการต่อต้านอนุมูลอิสระทั้งในรูปแบบ long acting และ short acting อย่าง Superoxide Dismutase (SOD) Catalase redox enzymes GRX ซึ่งสามารถลดผลกระทบอนุมูลอิสระจำนวนมากๆ ในทันทีและยังช่วยปกป้องผิวจากอนุมูอิสระระหว่างวันได้อีก นอกจากนี้ยังมีสารลดการระคายเคืองใส่เพิ่มเข้ามา ซึ่งทั้งหมดนี้มาในราคาหลักร้อย แต่แน่นอนว่ามีดีก็ต้องมีแย่เพราะน้องคนนี้กลิ่นค่อนข้าง Unique หากใช้ครั้งแรกหรือเป็นคนชอบอะไรหอมบอกเลยว่าอาจมีช็อคได้ฮะ
Hydrating Serum เชื่อไหมว่าเราเคยแอบนอกจากใจ ha densimatrix หลายครั้งมากๆ ด้วยความที่เราก็อยากลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง แต่สุดท้ายก็กลับมาตายรังที่น้องคนนี้เหมือนเดิม ด้วยส่วนผสมสุดโหดเริ่มจาก Hyaluronic Acid ที่แตกต่างกันถึง 4 โมลเลกุลที่ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำงานร่วมกับ Malachite Extract กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว และสารสกัดจากราก Marshmallow ช่วยลดการระคายเคือง แถมยังมาในเนื้อสัมผัสที่เบาสบายผิว เล่นใหญ่ขนาดนี้ก็มงไปเลยจ้า
Brightening Serum ปีนี้เราขอมอบมงให้แก่ CLARINS Bright Plus ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้โฟกัสในเรื่องความขาวเป็นหลัก หากแต่เป็นเรื่องความกระจ่างใสและสีผิวที่สม่ำเสมอ ซึ่งเซรั่มขวดนี้สามารถให้ผลลัพธ์ในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ช่วยให้รอยสิวจางลงได้ค่อนข้างไว รวมถึงความหมองคล้ำจากการเจอรังสี UV ก็ดูดีขึ้น โทนผิวโดยรวมในระหว่างใช้น้องคนนี้ดูไบร์ทขึ้นจนรองพื้นที่เราใช้เป็นประจำสีดูเข้มไปเลยหละ
SOS Serum เซรั่มที่เราขอยกให้เป็น SOS ประจำปี 2021 ของเราคือ LAMER The Concentrate ที่เป็นขั้น Advance ของลาแมร์ด้วย Concentrated Miracle Broth™ เข้มข้นมากๆ และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือจึ้งเพราะทุกครั้งที่เรามีอาการระคายเคืองหนักๆ มีผดผื่น-แดง เราจะหยิบตัวนี้มาโบกหนาๆ เช้า-ก่อนนอนแล้วพบว่าในเวลา 2-3 วันอาการเหล่านั้นทุเลาขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าให้เราอธิบายเป็นเหตุ-ผลเราตอบไม่ได้จริงๆ ว่าทำไมมันถึงมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว ฟื้นฟูผิวได้ดีงามขนาดนี้ แต่ถ้าจะติดคงมีเรื่องเดียวคือราคาเพราะค่าตัวน้องนั้นแพงเหลือเกินฮะ
Multipurpose Serum ปิดท้ายหมวดเซรั่มด้วย KIEHL'S Vital Skin Strengthening Super Serum ที่เราคิดอยู่นานมากว่าจะให้เซรั่มขวดนี้อยู่ในหมวดไหน เพราะจากส่วนผสมทั้ง Panax Ginseng Root Extract, Sodium Acetylated Hyaluronate, Rosmarinus Officinalis Leaf Oil, Lavandula Angustifolia Oil และ Adenosine ที่ทำได้ทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้นค่อนข้างสูง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี ยับยั้งแบคทีเรียบนผิว เพิ่มความยืนหยุ่นให้ผิว ลดความมันบนใบหน้าและมอบพลังงานให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราจัดเซรั่มขวดนี้ไว้ในกลุ่มเซรั่ม อเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวหลายด้านในขวดเดียว ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ใช่เซรั่มที่ดีที่สุดในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ส่วนตัวเราแล้วนี่เป็นเซรั่มที่เราสามารถทาตัวเดียวแล้วต่อกันแดดได้เลย โดยไม่รู้สึกผิด
Moisturizer
มาถึง Moisturizer กันบ้างปีนี้ด้วยสภาพอากาศที่สรวน และมลภาวะที่เข้ามาปะทะบนผิวแบบสุดๆ ดังนั้นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เราเลิฟจึงเป็นตัวที่มีคุณสมับติมากกว่าแค่การให้ความชุ่ม อาทิ
ARgENTUM la lotion infinie hydrating body cream มิติใหม่ของ Body Care ที่มีส่วนผสมเทียบเท่า Facial Care ซึ่งนอกจากจะให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวได้ดีมากๆ แล้วยังอัดแน่นไปด้วย Colloidal Silver (Silver Hydrosol), Sodium DNA (DNA HP) และ Caffeine ที่เข้ามาช่วยต่อต้านการอักเสบ, ยับยั้งแบคทีเรีย, ช่วยกระตุ้นกระบวนการเกิดใหม่ของเนื้อเนื่อ, ลด Oxidative Stress ในผิว เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว, เพิ่มปริมาณน้ำในชั้นผิว, เพิ่มการสร้าง Hyaluronic acid ในชั้นผิว, กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดช่วยลดรอยคล้ำ-อาการบวมและช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ในขวดเดียว
tHermoCEUTICAL Premium SOS RED GEL มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเจลที่ช่วยชีวิตเราหลายครั้งในช่วงที่เรามีอาการระคายเคืองจากการยิงเลเซอร์ ด้วยส่วนผสมอย่าง Glutathione, Phytosphingosine, Polyglutamic acid, Carnosine สารสกัดจากหัวหอม - ที่ช่วยความชุ่มชื้น ต่อต้านอนุมูอิสระ ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวลดผลกระทบจากรังสี UV ลดการทำลาย Hya และเพิ่มปริมาณ Hya ในผิว ช่วยสมานแผล ต้านการอักเสบและอาการแพ้ อีกทั้งยังต้านกระบวนการ Glycation ที่เป็นปัจจัยหนึ่งของผิวหมองคล้ำและริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Sunscreen
อีกหนึ่งหมวดที่ไม่พูดถึงไม่ได้ในปีนี้นั่นคือ Sunscreen เพราะเป็นปีที่เรามีโอกาสได้ลองกันแดดดีๆ หลายแบรนด์มากๆ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เลือกยากมากๆ แต่สุดท้ายก็ลงล็อคด้วย 2 ไอเทมนี้
IPSA Sun Shield SPF50 PA : กันแดดที่ทำให้เราแนะนำได้อย่างสนิทใจในความเบาสบายผิว แม้ว่าเราจะเลเยอร์ 2 ชั้นก็ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิวเลยแหละฮะ แถมกันแดดตัวนี้ยังใช้สารกันแดดทั้งในรูปแบบ Physical & Chemical Sunscreen ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ครบและค่อนข้างเสถียร
ISDIN FOTOPROTECTOR FUSION WATER : กันแดดในรูปแบบ Water-Based ที่ทำเนื้อสัมผัสได้ดีมากๆ อีกตัวและแน่นอนว่ามีประสิทธิภาพในการกันรังสียูวีได้สูงมาก แถมยังเสริมสารอื่นๆ ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นบนผิว และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อบูสต์ประสิทธิภาพของกันแดด
Ampoules
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราเป็นช่วงเฟื่องฟูของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Ampoule เพราะเรียกว่าแทบทุกแบรนด์ต่างก็ขนเทคโนโลยีของตัวเองมานำเสนอในรูปแบบแอมพลู แต่ที่เราได้ลองและเลิฟในปี 2021 ต้องยกให้
JYUNKA A3 Concentrate : เป็นแอมพลูที่มีสารสกัดเข้มข้นจาก Marrubium Vulgare Extract ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ลดอาการระคายเคืองที่เกิดจากมลภาวะ ฝุ่น-ละอองต่างๆ ที่เจอกันแทบทุกวันแถมยังให้ผิวชุ่มชื้นสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
mesoestetic melatonin ampoule : อย่างที่บอกไปว่าสภาพแวดล้อมปีนี้มันโหดร้าย เพราะงั้นเรามักจะหันมาพึ่งพลังของ melatonin เพื่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นภัยต่อความอ่อนเยาว์ของผิว และฟื้นฟูผิวจากมลภาวะต่างๆ อยู่เสมอ
Mask
สำหรับ Mask ที่เราหยิบใช้บ่อยและชอบที่สุดในปี 2021 ต้องยกให้ COSMETIC 27 MASK 27 จากร้าน Skinlab กระปุกนี้ด้วยการอัดแน่นส่วนผสมอย่าง Hyaluronic Acid, Niacinamide, Centella Asiatica, Immortelle, Melissa Officinalis Flower และ Prebiotic ที่ช่วยเพิ่มและล็อคความชุ่มชื่นไว้บนผิว ปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ-ระคายเคือง พร้อมปรับสมดุลของแบคทีเรียบนผิวช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ที่สำคัญคือเป็นมาสก์แบบ Leave-on ที่สามารถทาแทนมอยส์เจอร์ไรเซอร์แล้วนอนไปเลยโดยไม่ต้องล้างออก ตื่นมาถือหน้านุ่มแบบไม่มีสาเหตุ
Facial Oil (Optional)
สำหรับ Optional Item อย่าง Facial Oil ที่ไม่ว่าจะกี่ปีเราก็ยังเลิฟ THREE balancing SQ Oil อยู่เสมอด้วยกลิ่นที่หอมผ่อนคลายเป็นเอกลักษณ์ และเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมไว ช่วยล็อคความชุ่มชื่นบนผิวและลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวได้ ทำให้นี่เป็น Facial Oil ที่เราหยิบใช้บ่อยมากๆ และแต่ละครั้งก็ใช้เพียง 2-3 หยดทำให้ขวดนึงใช้ได้ราวๆ 6 เดือนเลยหละฮะ
Facial Mist (Optional)
ในหมวดของ Facial Mist ปีนี้เรายกให้ /skin regimen/ recharging mist เป็นที่ 1 ในใจเพราะนอกจากละอองที่ละเอียดกับกลิ่นหอมผ่อนคลายแล้ว มิสต์ขวดนี้ยังช่วยปกป้องผิวจาก Blue Light และยังช่วยลด oxidative-stress ในผิวที่เป็นตัวการของปัญหาผิวไปด้วยในตัว เรามักจะหยิบมาพ่นตลอดทั้งวันเลยหละ
Body & Hand
สารภาพตามตรงว่าถึงแม้เราจะดูแลใบหน้าอย่างเป็นระบบระเบียบ แต่ผิวกายบางครั้งก็ skin ผ่านไปบ้างเพราะงั้นไอเทมที่ที่ชอบในปีนี้คือไอเทมที่เราใช้จริงอยู่ในปัจจุบันอย่าง
Biore UVAge Defense Anti-Pollution Body Care Serum ด้วยความเบาสบายของเนื้อโลชั่นทำให้เราสามารถทาได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะเหนอะหนะผิว ในเรื่องของความชุ่มชื่นและการปกป้องผิวจากรังสี UV ถือว่าทำได้กลางๆ แต่ในส่วนนี้เราชดเชยด้วยการทาซ้ำระหว่างวันได้อย่างไม่มีปัญหาด้วยความบางเบาของผลิตภัณฑ์
innisfree Jeju Life Perfumed Hand Cream กลิ่น Tropic Sherbet ด้วยความที่สถานการณ์โควิดยังไม่สงบ เราก็ยังต้องพ้นสเปรย์แอลกอฮอล์เป็นประจำทำให้บางครั้งก็มีอาการแห้งกร้าน หรือมือลอกบ้างในบางที เพราะงั้นเราเลยมองหาแฮนด์ครีมที่ให้ความชุ่มชื่นได้ดี มีกลิ่นที่เราโอเค ขนาดเล็ก-พกพาสะดวก และที่สำคัญคือราคาต้องไปแพงสุดท้ายก็ไปเจอกับน้องคนนี้ ด้วยกลิ่นที่ถูกจริต ทาแล้วชุ่มชื่นกำลังดี เลยเป็นแฮนด์ครีมที่เราเลิฟในปี 2021 ไปโดยปริยาย
เอาหละฮะทั้งหมดนี้ก็เป็นไอเทมทั้งหมดที่เราใช้แล้วชอบใน 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์ และความรู้สึกต่างๆ นั้น Based-on สภาพผิว การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ต่างๆ ก็ย่อมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลเป็นธรรมดา เอาเป็นว่าใครเคยใช้ไอเทมไหนแล้วชอบก็อย่างลืมมาเม้นท์บอกกันบ้างเน้อ ไปละฮะ บัย!!