จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงช่วง 2 ปีมานี้ บีอินกับครีมกันแดดมากกก เพราะรู้สึกว่าเราจะใช้สกินแคร์ดีๆ ไปทำไม ถ้าเราไม่ทากันแดดให้ดีพอ บีก็เลยเป็นคนที่อินกับกันแดด ต้องใช้ทุกวันถึงแม้จะอยู่ในบ้านก็ตาม และเวลาทาก็จะทา 2 ข้อนิ้วหนาๆ เลยทีเดียว แต่จากที่ลองใช้กันแดดหลายๆ ตัว ก็พบว่ากันแดดบางตัวก็เหนียวไป เหนอะไป ไม่เหมาะกับหน้าร้อนหรือที่ไทยเลย หรือบางตัวก็ทำให้เครื่องสำอางเป็นสังขยา บางตัวทาแล้วหน้าลอยมาก ฯลฯ สารพัดปัญหาจริงๆ ค่ะ555
ตัวที่คัดมาวันนี้ก็เลยป็นกันแดดที่เป็น My favourite ที่บีชอบมากกก และหยิบมาใช้บ่อยมากในช่วงที่ผ่านมาค่ะ และจะมาทดสอบให้ดูด้วยว่าแต่ละตัวกันแดดดีมั้ย ประสิทธิภาพเป็นยังไง ส่วนใครที่อยากรู้ว่ากันแดดตัวไหนเหมาะกับหน้าร้อน บีก็จะมาสรุปตอนท้ายด้วย เอาล่ะ
ไปดูกันเลยค่าาา!
หลักๆ 5 ตัวที่บีชอบใช้และอยากแนะนำค่ะ ส่วนใหญ่บีจะชอบใช้กันแดดที่เนื้อเบาๆ สบายๆ ค่ะ เพราะมันทำให้เราสามารถหยิบมาใช้ได้ทุกวันแบบไม่รำคาญผิวและรำคาญใจค่ะ แหะๆ
5 ตัวนี้ก็จะมี
SHISEIDO The Perfect Protector SPF50 PA SynchroShield Wet Force/Heat Force
ANESSA Perfect UV Sunscreen Mild Milk SPF50 PA 60ml
LOreal Paris UV Perfect Aqua Essence SPF 50 PA
Srichand Sunlution Skin Whitening Sunscreen SPF50 PA
THANN Shiso Oil-Free Facial Sunscreen SPF 30 PA 40g
มาดูรีวิวทีละตัวกันค่าาา
SHISEIDO The Perfect Protector SPF50 PA SynchroShield Wet Force/Heat Force
สอยมาเพราะมีคนรีวิวว่ากันแดดได้ดีมาก และจากที่เคยเอาไปใช้ตอนไปทะเลก็ปรากฏว่ากันแดดได้ดีจริงๆ ค่ะ เพราะผิวไม่คล้ำขึ้นเลย แต่ข้อเสียคือกลิ่นน้องเค้าชวนเวียนหัวมากจริงๆ ค่ะ (แต่เรื่องกลิ่นเป็นเรื่องส่วนบุคลเนอะ บีอาจไม่ถูกจริตกลิ่นนี้ แต่คนอื่นๆ อาจจะชอบก็ได้ค่ะ)
และเนื้อสัมผัสเค้าจะมีความลื่นๆ นิดนึง ทาไปแล้วแอบเหนอะหนะผิวหน่อยค่ะ ทำให้เครื่องสำอางเยิ้มระหว่างวันด้วย แต่สิ่งที่ประทับใจมากกกคือ ไม่ว่าเราจะทำย้ำขนาดไหน หน้าก็จะไม่ลอย ไม่วอกเลยค่ะ ดีงามมากจริงๆ
และตัวนี้มีเทคโนโลยี SynchroShield™ ด้วย Heatforce technology Wetforce technology มันจะเพิ่มการปกป้องผิวจากยูวีมากขึ้น เมื่อผิวเราโดนน้ำและความร้อนจากแดดค่ะ
ANESSA Perfect UV Sunscreen Mild Milk SPF50 PA 60ml
แอบอกหักเรื่องกลิ่นจากตัวข้างบน บีก็เลยหากันแดดที่ไม่มีกลิ่น ซึ่งก็มาเจอตัวนี้นั่นเอง สูตรนี้เป็นกันแดดลูกรักของบีเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะเป็นกันแดดที่ไม่มีกลิ่นแล้ว มันยังใช้กับคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือแม้กระทั่งใช้กับเด็กได้ด้วยค่ะ
แถมเนื้อกันแดดยังดีมาก ทาไปแล้วเราเบลนๆ แป้ปนึงก็ซึมเข้าผิวแล้วค่ะ แต่ก็จะทิ้งความมันไว้พอสมควรค่ะ ใครที่ผิวมันอาจไม่ค่อยถูกใจ แหะๆ
แต่สิ่งที่ประทับใจคือน้องไม่ค่อยมีสีค่ะ ตอนบีทา 2 ข้อนิ้ว ก็รู้สึกว่าผิวจะขาวขึ้นมานิดนึง ไม่ได้ทำให้โทนผิวเราโดดอะไร ถือว่าโอเคเลยค่ะ
บีพยายามหาว่าเค้ามีส่วนประกอบอะไรเด็ดๆ บ้าง แต่ไม่เจอค่ะ แต่เห็นมีเคลมว่าเค้ามีเทคโนโลยีที่ชื่อ Aqua Booster คือมันจะเพิ่มการปกป้องผิวเรามากขึ้น เมื่อเจอเหงื่อและน้ำค่ะ นั่นคือยิ่งร้อน เหงื่อยิ่งออก ยิ่งกันแดดได้ดีขึ้นค่ะ
LOreal Paris UV Perfect Aqua Essence SPF 50 PA
เป็นกันแดดอีกตัวที่ชอบ เพราะเนื้อเบาสบาย ทาแล้วไม่ค่อยเหนอะหนะ กลิ่นไม่แรง
แต่แอบรู้สึกว่ามันจะทำให้ผิวเราดูขาวขึ้นนิดนึงตอนทา ทำให้คนที่มีผิวสองสีแล้วตอนทาเยอะๆ จะรู้สึกว่าผิวมันดูลอยนิดนึงได้ แต่พอเราเกลี่ยๆ ทาวนๆ สักพัก มันจะเริ่มดูลอยน้อยลงค่ะ แล้วก็เป็นสีผิวปกติเรามากขึ้นค่ะ และที่สำคัญที่ชอบอีกอย่างคือตัวนี้ราคาน่ารักมาก ถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ ที่บีใช้ค่ะ
ส่วนประกอบที่แบรนด์เค้าเคลมไว้คือ เค้ามีส่วนประกอบของสาร Adenosine ค่ะ ตัวนี่จะฟื้นบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายลึกถึงชั้นผิวได้และช่วยลดเลือนริ้วรอยค่ะ และอีกตัวคือวิตามิน E ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระค่ะ
Srichand Sunlution Skin Whitening Sunscreen SPF50 PA
บีเพิ่งได้ลองใช้กันแดดรุ่นใหม่ของศรีจันทร์ค่ะ เป็นกันแดดอีกตัวที่พอได้ลองใช้แล้วก็ชอบเลย บีใช้เป็นสูตรไวท์เทนนิ่งนะคะ จริงๆ มีสูตรสำหรับคนที่ผิวมันหรือเป็นสิวง่ายด้วย
หลักๆ ที่ชอบเลย ก็คือมันเป็นกันแดดที่ผสมสกินแคร์บำรุงผิวด้วย พวกสารบำรุงผิวที่เค้าใส่มาให้จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นค่ะ และมันก็เป็นสารที่เราหวังผลได้จริงตามงานวิจัยต่างๆ ด้วย
อีกอย่างที่รู้สึกว่าตัวนี้ดีงาม ก็คือเนื้อสัมผัสค่ะ เวลาทาไปที่ผิวคือมันจะไม่เหนอะหนะเลย เกลี่ยๆ แล้วซึมเข้าผิว แถมไม่มีความมันที่ผิวเลยค่ะ ใครผิวมันคือต้องสอย และใครผิวแห้งก็ต้องลอง! เพราะมันจะไม่ทำให้คนผิวแห้ง หน้าแห้งขึ้นหรือเป็นคราบค่ะ ให้ความรู้สึกแตกต่างกับกันแดดตัวอื่นๆ ที่บีเคยใช้มากๆ
เค้าใช้แทนเมคอัพเบสได้เลยนะคะ พอทาไปแล้วผิวจะดูสว่างขึ้นนิดนึง แต่ไม่ใช่สว่างแบบดูลอยๆ นะ แต่มันจะดูนวลๆ สวยดี และด้วยความที่มี Micro-blur primer คือมันจะช่วยดูดซับความมัน และช่วยเบลอริ้วรอยด้วยค่ะ
แบรนด์เค้าเคลมว่ามีวิตามิน B3 หรือ Niacinamide และวิตามิน C มาให้ด้วย นอกจากกันแดดได้แล้ว ก็เลยเป็นตัวที่ช่วยบำรุงผิวเรา ทำให้ผิวเราดูสว่างสดใสขึ้นด้วยค่ะ ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้เนียนใสสม่ำเสมอกันด้วย
และจากที่ได้ลองใช้ ก็รู้สึกว่าผิวมันดูกระจ่างใสขึ้นจริงๆ ค่ะ ผิวดูสุขภาพดีขึ้นเลย แบบล้างเมคอัพออกมาหน้าก็ไม่หมอง บีว่าเป็นจุดเด่นที่ดีของเค้าเลยนะ ในการกันแดดไปด้วย บำรุงให้ผิวใสขึ้นด้วย โดยรวมคือบีชอบตัวนี้หมดเลย เรื่องกันแดดถือว่ากันแดดได้ดีมากๆ ฟีลทาลงผิวคือสบายผิว ไม่เหนอะหนะเลยค่ะ ไม่กวนเมคอัพให้เป็นคราบหรือลอยค่ะ แถมยังบำรุงผิวไปในตัวด้วย ดีงามมาก
THANN Shiso Oil-Free Facial Sunscreen SPF 30 PA 40g
เป็นกันแดดไทย ที่ฮิตและขายดีมากในฮ่องกง และบีก็ได้มาลองใช้เพราะเพื่อนชาวฮ่องกงแนะนำนั่นเองค่ะ เพื่อนถามว่าเธอไม่รู้จักได้ยังไง ตัวนี้มันดังมากเลยนะ >< มีสาวไทยคนไหนเคยใช้ก็มาคอมเม้นกันได้นะคะ เพราะบีก็เพิ่งรู้จักเมื่อปีที่แล้วนี่เอง
เป็นกันแดดที่เนื้อดีจริงๆ ค่ะ เนื้อเบาสบายผิวมาก กลิ่นก็หอมสดชื่น และที่สำคัญ มันคุมมันได้ระดับนึงจริงๆ ค่ะคุณผู้ชม
ส่วนสรรพคุณเพิ่มเติมที่เค้าเคลมไว้คือ มันมีส่วนประกอบของ สารสกัดจากใบชิโซะ ซึ่งช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ และลดอาการระคายเคืองให้กับผิวเราค่ะ และมี White Tea Extract ที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ให้เราด้วย
ลองเปรียบเทียบเนื้อให้ดูค่ะ
ตัว SHISEIDO และ ANESSA จะเป็นเนื้อน้ำนม เหลวๆ ค่ะ เกลี่ยง่าย ซึมไว แต่จะทิ้งความมันไว้พอสมควรค่ะ 2 ตัวอันกลางคือ Loreal และ Srichand เนื้อจะเป็นครีม ไม่เหลว ไม่ไหลค่ะ เกลี่ยง่ายเช่นกัน แต่ไม่ค่อยทิ้งความมันค่ะ ตัวสุดท้ายคือ Thann จะเป็นเนื้อครีมเช่นกัน แต่มีความเบากว่า 2 ตัวกลางค่ะ
โอเค เดี๋ยวเรามาเริ่มทดสอบกันเลย!
เดี๋ยวดูความมันของเนื้อแต่ละตัวกันก่อนนะคะ เพื่อนๆ จะได้เลือกสอยตามสภาพผิวได้เลย
จะเห็นว่าตัว LOreal และ Srichand มีน้ำมันออกมาน้อยมากเลย ใครชอบเนื้อกันแดดที่ไม่มันต้องสอยตัวนี้แล้วแหละ แล้วตอนใช้จริงก็คือดีด้วย สบายผิวและไม่เหนอะหนะทั้ง 2 ตัวเลย ใครชอบกันแดดเนื้อดีๆ สบายผิว ไม่มัน บีว่าต้องโดนทั้ง 2 ตัวเลย แต่ถ้าถามว่าตัวไหนเหมาะกับหน้าร้อนกว่า บีว่าตัว Srichand ค่ะ มันแห้งสบายผิวจริงๆ
ตัว ANESSA น้ำมันเยอะสุดเลย บีแนะนำว่าใครผิวแห้งมากๆ แล้วอยากเพิ่มความฉ่ำใดๆ ให้ผิวก็สอยตัวนี้มาลองดูได้ค่ะ แต่อาจจะเหมาะกับช่วงหน้าหนาวมากกว่าหน้าร้อนนะคะ เพราะจากที่ใช้มา เหมาะกับหน้าหนาวมาก แต่ถ้าหน้าร้อนนี่มันก็จะเยิ้มๆ เมือกๆ นิดนึงค่ะ
ส่วนตัว Thann บีว่ากำลังดี คือเนื้อเบาสบาย ถึงแม้จะมันนิดนึง แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ค่ะ สามารถถูไถใช้ในช่วงซัมเมอร์ได้นะ
มาดูประสิทธิภาพการกันแดดกันดีกว่า
บีออกไปนั่งที่สวนสาธารณะแถวบ้าน ช่วงประมาณบ่าย 3 ค่ะ แดดร้อนพอสมควรเลยค่ะ ทดสอบอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ค่ะ
ผลลัพธ์ออกมาแล้ว
หลังผ่านไป 45 นาที
หลังผ่านไป 1 ชั่วโมงครึ่ง
บีพยายามเพ่งดูนานมาก แต่แปลกใจที่ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเท่าไหร่เลย555 แต่ถ้าให้เรียงลำดับแบบเพ่งๆ สังเกตจริงๆ จังๆ บีว่า บียกให้ Anessa เป็นอันดับ 1 ค่ะ เพราะสีผิวไม่เปลี่ยนเลย มันเท่าผิวอันที่ปิดเทปไว้เลยค่ะ ส่วนอันที่ 2 ยกให้ Srichand ค่ะ สีผิวไม่เปลี่ยนเช่นกัน สีผิวเหมือนก่อนออกไปโดนแดดเลย ส่วนตัวอื่นๆ ก็เท่าๆ กัน ไม่ได้รู้สึกแตกต่างเท่าไหร่ค่ะ อาจเพราะบีเคยตรวจ DNA test มา แล้วมันบอกว่าบีเป็นคนผิวเบิร์นแดดยากด้วยมั้งคะ เลยไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเท่าไหร่ กันแดดที่เอามาทดลองวันนี้ มันค่อยข้างขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพอยู่แล้วด้วย
แต่ถ้าถามว่าตัวไหนน่าหยิบมาใช้ในซัมเมอร์สุด บียกให้ตัว Srichand กับ Loreal ค่ะ ใช้ง่ายและไม่เยิ้มดี สบายผิวมาก กับอีกอันคือตัว Thann ค่ะ สบายผิวดีเหมือนกัน แต่ติดทีา SPF น้อยกว่าตัวอื่น แต่จากที่ทดสอบช่วง 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ไม่ได้ให้ผลลัพธ์การกันแดดที่ต่างจากตัวอื่นนะคะ แต่คิดว่าถ้าต้องตากแดดมากกว่า 2-3 ชั่วโมง แล้วเอามาเทียบกันจริงๆ น่าจะเห็นผลความแตกต่างกันค่ะ
วันนี้ก็หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ข้อมูลการตัดสินใจเลือกกันแดดในช่วงซัมเมอร์นี้ไปไม่มากก็น้อยนะคะ ส่วนวันนี้บีต้องขอตัวลากันไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ในกระทู้หน้านะคะ บ๊ายๆ ค่ะ