จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลงซึ่งเราคัดมาแล้วด้วยกัน 5 แบรนด์ ....โดยคุณสมบัติหลักก็คือเน้นเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน ฉ่ำน้ำ ถ้าอยากรู้ว่ามีแบรนด์ไหนอะไรยังไงบ้าง? ตามมาดูกันเลยจ้า
Nivea Cream
เริ่มกันที่ครีมนีเวียในตำนาน ใครๆก็ต้องเคยผ่านการใช้มาแล้วทั้งนั้น ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ยิ่งช่วงหน้าหนาวนี่เราชอบเอามาทาขา หัวเข่า ข้อศอกมาก เพราะเนื้อครีมเข้มข้นสุด มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื่นผิว และยูเซริท กับแพนธีนอล ช่วยลดความแห้งกร้านและป้องกันรอยแตกบนผิวหนัง
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมเข้มข้นมากแล้วก็มีความเหนียวมากเช่นกัน กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
ความรู้สึกหลังใช้ : สำหรับครีมนีเวียตลับน้ำเงินนี้ส่วนตัวเราใช้ทาศอก เข่า หรือจุดแห้งกร้านจริงๆ ไม่เน้นทาตามตัวเท่าไหร่ เพราะด้วยลักษณะเนื้อครีมที่เข้มข้นมากกกกกกสุดๆ ทำให้เวลาทาจะต้องถูนานหน่อยกว่าเนื้อครีมจะซึมเข้าผิว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องความชุ่มชื้นลดผิวแห้งกร้านช่วยได้จริงๆ
ให้คะแนน : 4/5
ราคา/ปริมาณ : 35 บาท / 30 ml
LEVE Advance Repair Cream
มาต่อกันแบรนด์ LEVE แบรนด์นี้สวยงามตั้งแต่แพคเกจแล้วอ่ะ ดูหรูหราผู้ดีมาก แค่วางไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งก็จึ้งแล้ว ...LEVE Advance Repair Cream คุณสมบัติของเค้าไม่ธรรมดา ครีมเลอวีนี้เน้นช่วยเติมความชุ่มชื้นและลดรอยแตกลายของผิวได้ ด้วยคุณสมบัติของ AquaCacteen จากสวิตเซอร์แลนด์ และยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากกระบองเพชร ที่ช่วยลดรอยต่างๆ ที่เกิดจากผิว และสารสกัดจากน้ำมันละหุ่งเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูให้สีผิวสม่ำเสมอ สาวๆ ที่ตั้งครรภ์และมีปัญหาแตกลายสามารถใช้ได้เลย เพราะเค้าอ่อนโยนสุดๆ ปราศจากพาราเบน แอลกอฮอล์ ซิลิโคนและพาราฟินออยล์
เนื้อสัมผัส : เบาสบายผิว เนื้อครีมเข้มข้นก็จริงแต่ไม่หนักผิวเลย ซึมไวไม่เหนียวเหนะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ติดผิวด้วยนะ หอมแบบผู้ดีมากกกก
ความรู้สึกหลังใช้ : เอาจริงๆ เราใช้ครีมหลายแบรนด์แต่อันนี้เป็นครีมที่ช่วยเรื่องลดรอยแตกลายได้จริง แบบใช้ครั้งแรกก็รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงเลย คือผิวมันชุ่มชื้นขึ้น ไม่ใช่แค่ทาแล้วจบไป แต่ว่าลอยแตกดูจาง ผิวก็เนียนนุ่มขึ้นชัดเจนมาก ถ้าใช้หมดหลอดนี้เราว่าเนียนแบบไม่มีอะไรมากั้นแน่นอน เลิฟสุดๆ จ้า
ให้คะแนน : 5/5
ราคา/ปริมาณ : 595 บาท / 150 ml
Jergens Ultra Nourish Body Serum SPF 22 PA++
ต่อกันที่ครีมอีกแบรนด์ที่คนผิวแห้งรู้จักกันดี Jergens แต่สูตรที่เราชอบใช้จะเป็นสูตรนี้นะ มีส่วนผสมวิตามิน B3 และ Pearl Extract เป็นสูตรซึมซาบสู่ผิวง่าย ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ มีกันแดด SPF 22 ด้วย ซึ่งจะช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้นขั้นสุดแล้วยังปกป้องแสงแดดที่จะมาทำร้ายผิวของเราอีกด้วย
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมบางเบา ซึมไว้ และที่สำคัญกลิ่นหอมมากกก
ความรู้สึกหลังใช้ : ด้วยความเบาสบายของเนื้อครีมทำให้เรารู้สึกประทับใจอยู่แล้ว แล้วยิ่งเค้ามีส่วนผสมของสารกันแดดด้วย ยิ่งทำให้ง่ายขึ้นไปอีก ใช้ตัวเดียวพอไม่ต้องทากันแดดซ้ำ ผิวนุ่มชุ่มชื้นดี แต่ถ้าเทียบกับสูตรปกติเราว่าแบบนั้นช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้นมากกว่าหน่อย
ให้คะแนน : 4.5/5
ราคา/ปริมาณ :169 บาท / 150 ml
Palmer's Olive Oil Body Lotion
Palmer’s ครีมดังที่ขึ้นส่วนใหญ่คุณแม่ตั้งท้องจะนิยมใช้กัน เพราะว่าเค้ามีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวที่แห้งกร้านกลับมานุ่มชุ่มชื้นและลดรอยแตกลายได้ ….แต่ตอนนี้เค้ามีสูตรต่างๆมากมาย ไม่จำเป็นแค่เฉพาะสำหรับคุณแม่ท้องแล้ว คนที่ผิวแห้งก็สามารถใช้ได้ มีให้เลือกหลายสูตรทั้งแบบเชียร์บัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว หรือเป็นออยล์ก็มี แต่เราเลือกใช้สูตรที่มีสารสกัดจากน้ำมันมะกอกเพราะรู้สึกว่าเข้มข้นดี ทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกระชับผิวด้วยเบปไทด์คอมเพล็กซ์
เนื้อสัมผัส : จะมีความมันๆ เราคิดว่าน่าจะเป็นจากน้ำมันมะกอก ถ้าใครไม่ชอบความมัน อาจจะไม่เลิฟเท่าไหร่
ความรู้สึกหลังใช้ : รู้สึกว่าเค้าช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีเลยหลังทานี่คือผิวจะมันๆ ทันที (ฟิลแบบทาออยล์แหละ) เนื้อครีมก็มีความเข้มข้นสูงอาจจะไม่สบายผิวเท่าไหร่ และมีกลิ่นที่เฉพาะตัวมากๆ ถ้าคนไม่ชอบกลิ่นแนวน้ำมันมะกอกก็อาจจะไม่ปลื้ม แต่ส่วนตัวเราโอเคกับกลิ่นเลยใช้ได้อยู่ ส่วนเรื่องความชุ่มชื้นก็คือดีงามตามท้องเรื่องเลยจ้า
ให้คะแนน : 4/5
ราคา/ปริมาณ : 59 บาท / 50 ml
Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening Lotion
วาสลีนโลชั่นบอดี้ครีมเป็นโลชั่นที่มีติดบ้านตลอด จริงๆ ใช้มาหลายสูตรนะ แต่สูตรนี้เป็นสูตรที่เราชอบสุด ถึงจะไม่ได้เน้นเรื่องเติมความชุ่มชื้นที่สุดแต่รวมๆ ทาได้ทุกวัน เน้นช่วยให้ผิวเนียนนุ่มกระจ่างใส มีส่วนผสมของ วิตามินบี 3 พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB
เนื้อสัมผัส : เนื้อโลชั่นซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ความรู้สึกหลังใช้ : เป็นครีมบำรุงผิวที่กลางๆ เติมความชุ่มชื้นได้แต่ถ้าคนที่ผิวแห้งมากอาจจะเอาไม่อยู่ เราว่าเราจะต้องใช้สูตรที่สำหรับผิวแห้งโดยตรง สูตรนี้เค้าเน้นผิวเรียนเนียนขาวใสดูไบรท์มากกว่าจ้า เหมาะสำหรับทาได้ทุกวันในช่วงที่ผิวสุขภาพดีไม่มีปัญหาเรื่องผิวแห้งหยาบกร้าน
ให้คะแนน : 3.5/5
ราคา/ปริมาณ : 69 บาท / 120 ml
และทั้งหมดนี้ก็คือบอดี้ครีมที่ช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดความแห้งกร้านและผิวแตกลาย เราจะสรุปอันดับให้อีกครั้งนะเผื่อใครอยากอ่านแบบสั้นๆ จะเรียงตามความชอบเราเลยน้า
1.LEVE Advance Repair Cream : เนื้อครีมบางเบา ซึมไว ผิวบอบบางใช้ได้ เติมความชุ่มชื้นดีแบบขั้นสุด ผิวเนียนนุ่ม ลดรอยแตกลายได้ ทาแล้วรู้สึกว่า ได้ฟิลผิวผู้ดี เศรษฐีนีหมื่นล้าน….กลิ่นหอมมาก
2.Jergens Ultra Nourish Body Serum SPF 22 PA++ : เนื้อครีมบางเบา ซึมไว กลิ่นหอมติดทน ช่วยเติมความชุ่มชื้นได้ดี มีกันแดดในตัว
3.Palmer's Olive Oil Body Lotion : เนื้อค่อนข้างมีความมัน และกลิ่นน้ำมันมะกอกชัดเจน เหมาะกับคนที่ชอบโลชั่นเนื้อหนักหรือชอบทาออยล์ ช่วยเติมความชุ่มชื้นดีแต่ครีมซึมเข้าผิวช้า
4.Nivea Cream : เนื้อครีมหนัก ซึมช้าแต่ให้ความชุ่มชื้นดี เหมาะกับทาศอก เข่า จุดแห้งกร้านต่างๆ ไม่เหมาะกับทาทั้งตัวเพราะจะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
5.Vaseline Healthy Bright UV Extra Brightening Lotion : เนื้อครีมบางเบาสุดแต่เหมาะกับทาทุกๆ วัน เน้นผิวเนียนนุ่มกระจ่างใส ไม่เน้นเติมความชุ่มชื้นมากนัก
เอาเป็นว่ามาถึงตรงนี้แล้วหวังว่าเพื่อนๆ จะได้ข้อมูลกันไปบ้างไม่มากก็น้อย เผื่อใครที่กำลังมองหาโลชั่นบำรุงผิวดีๆ ที่ช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ลดรอยแตก ก็ลองเอาไปตัดสินใจกันได้เลยจ้า
….สำหรับวันนี้เราต้องไปก่อน คราวหน้าจะมีไอเทมอะไรดีๆ มาแชร์ มาบอกต่อกันอีก รอติดตามได้เลยน้าา บ้าย บาย จ้า ^^
อยากลอง Jergens & Palmer's เลยง่าา